ปีที่แล้ว LINE TV ประสบความสำเร็จด้วยกระแสซีรี่ย์ชุดอย่าง I HATE YOU I LOVE YOU, ไดอารี่ ตุ๊ดซี่ส์, O-Negative รวมถึงคอนเทนต์ในอีกหลายหมวดหมู่ ทำให้ปีนี้ LINE TV จะรุกหนักขึ้นด้วยการจับมืออีก 5 พาร์ทเนอร์ในวงการทีวี พร้อมเติมคอนเทนต์กลุ่มกีฬาและความสวยความงาม ที่สำคัญยังคงเอกลักษณ์พิเศษ คือต้องดูได้ที่ LINE TV ที่เดียวเท่านั้น
ปีนี้ LINE TV มาด้วยแนวคิด NEXPLOSION พร้อมระเบิดความบันเทิง
หลังจากที่ได้เผยวิสัยทัศน์ในปีนี้ไปว่า LINE จะเป็นแหล่งรวบรวมดิจิทัลคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ LINE ประกาศเป็นเมืองท่าบนมือถือ รวบสื่อสาร บริการ สินค้า ให้ครบจบในที่เดียว ดังนั้น หนึ่งในเกมที่ต้องรุกหนักคือ LINE TV เพราะปี 2016 ที่ผ่านมามียอดการเข้าชม LINE TV สูงขึ้นกว่าปีก่อนหน้าถึง 136% แต่ LINE ก็ไม่ได้เปิดยอดชมจริงว่ามีเท่าไหร่ เพียงแต่บอกว่ายอดเฉลี่ยของทั่วโลกในการชมวิดีโอคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ทุกแพลตฟอร์อยู่ที่ 65 นาทีต่อวัน ในขณะที่ค่าเฉลี่ยในไทยที่ถือว่าสูงแล้วคือ 133 นาที แต่สำหรับผู้ใช้ LINE นั้นเข้าชมต่อวันสูงถึง 152 นาทีในปี 2016 ถือเป็นยอดที่ก้าวกระโดดมาก เพราะถ้าเทียบกับปีก่อนหน้าคือปี 2015 ยอดเข้าชมเฉลี่ยเพียง 84 นาทีเท่านั้น
นายแดน ศรมณี ผู้อำนวยการธุรกิจคอนเทนต์ LINE ประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า ความสำเร็จของ LINE TV มาจากการคัดสรรคอนเทนต์ที่ตรงกับผู้ชมและจับกระแสที่มีในตลาดอย่างถูกจุด เพราะกลุ่มเป้าหมายถ้าแยกออกมาจะได้ว่า 53% เป็นกลุ่มคนช่วงอายุ 18-25 ปี 34% เป็นคนกลุ่มอายุ 25-35 และอีก 13% เป็นกลุ่มคนที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป ส่วนเพศแบ่งเป็นผู้หญิง 54% ผู้ชาย 46%
“อีกอย่างตำแหน่งแห่งที่ของ LINE TV ก็น่าสนใจ เพราะจะทำตัวเป็นกึ่งๆ แพลตฟอร์มโทรทัศน์กับแพลตฟอร์มแบบ Youtube คือหมายความว่า ในด้านหนึ่ง LINE TV มีผังในการออนแอร์ชัดเจน แต่ในอีกมุมถ้าผู้ชมไม่สะดวกในเวลานั้น ก็สามารถเข้ามาชมทีหลังได้”
เสริม กีฬา-บิวตี้ เอาใจทั้งชายหญิง แถมเพิ่มอีก 5 พันธมิตรพร้อมลุย
สำหรับปีนี้ LINE TV จึงพร้อมที่จะบุกตลาดที่สำรวจมาแล้วว่ามีขนาดใหญ่มากคือ “กีฬาและความสวยความงาม” ตอนนี้ได้เปิดตัวกับคอนเทนต์กีฬาไปบ้างแล้ว แต่ไตรมาสที่ 2 ในปีนี้จะบุกตลาดความสวยความงามอย่างจริงจัง ที่สำคัญการรุกหนักครั้งนี้จะเป็นการคงฐานผู้ชมเดิมและเพิ่มฐานผู้ชมใหม่ไปในตัวด้วย
คอนเทนต์กีฬาได้จับมือกับพาร์ทเนอร์ชื่อดังอย่าง GOAL สื่อฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีภาคภาษาไทยแล้ว ในส่วนนี้จะเป็นการนำเอาบทความกีฬาที่น่าสนใจ วิดีโอสัมภาษณ์ก่อนการแข่งขันลงมาใน LINE TV ให้ชม ยังไม่หมดยังร่วมมือกับช่อง 8 และ Nine lives อีกด้วย นอกจากนั้นยังบอกว่าจะเสริมกีฬาทั้งฟุตบอล มวย จักรยาน และกอล์ฟ
ด้านคอนเทนต์บิวตี้-ความสวยความงาม LINE จะรวบรวมบล็อกเกอร์ กูรูด้านความสวยความงามมาไว้บน LINE TV พร้อมรีวิวไอเท็มเด็ดๆ โดยได้ร่วมมือกับ Jeban, Wongnai และนิตยสาร VOGUE
“แต่ไม่ว่าจะมีคอนเทนต์เพิ่มมากขนาดไหน กลยุทธ์สำคัญยังเป็นความพิเศษที่หาดูไม่ได้ที่ไหน ต้องมาที่ LINE TV เท่านั้น”
ส่วนพันธมิตรจากกลุ่มทีวีที่จะมาจับมือกับ LINE TV ในปีนี้ ได้แก่ ช่อง 8 จากเครืออาร์เอส, GMM BRAVO ผู้ผลิตซีรี่ย์ชื่อดังในเครือ GMM, Muzik Move, 123 RECORDS และรายใหญ่อย่างสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ LINE บอกว่าจะมานำเสนอไฮไลท์ภาพยนตร์รวมถึงบทสัมภาษณ์นักแสดงให้ชมก่อนคนอื่นผ่านทาง LINE TV
สรุป
ปีนี้น่าถือเป็นปีทองของ LINE เพราะด้วยความต้องการเป็นผู้นำในตลาดวิดีโอคอนเทนต์ จึงเปิดเกมบุกทุกแพลตฟอร์มให้มารวมอยู่ที่ LINE ที่เดียว สำหรับ LINE TV ก็เล่นเกมเดิมที่สำเร็จอย่างมากคือ “ดูได้ที่นี่ที่เดียว” คือต้องทำให้หาดูจากที่อื่นไม่ได้ อย่างเช่นทุกวันนี้ ถ้าจะดูภาพยนตร์เรื่องพรจากฟ้า เราต้องเข้าไปดูใน LINE TV เท่านั้น เพราะขนาดจะวางขายเป็นแผ่นยังไม่มี
การบุกคอนเทนต์กีฬา-บิวตี้ และดึงพันธมิตรผู้แข็งแกร่งทั้งจากจอเงินและจอแก้วของ LINE ยังคงเป็นการคงคอนเทนต์ที่เป็นบันเทิงเสียเป็นส่วนใหญ่ น่าสนใจว่าในอนาคต LINE จะบุกตลาดคอนเทนต์สาระหรือไม่
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา