จีนทุ่มเงินพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี หลังความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ คุกรุ่นและอาจจะยังไม่เปลี่ยนไปเร็วๆ นี้ แม้สหรัฐฯ จะเพิ่งผลัดใบสู่ยุคใหม่ของโจ ไบเดนก็ตาม
จีนโต้กลับ ลงทุน “ความริเริ่มโครงสร้างพื้นฐานใหม่” เร่งพัฒนาเทคโนโลยี แก้เกมสหรัฐฯ ในสงครามเทคโนโลยี
ทางการจีนร่วมกับเอกชน ผลักดัน “ความริเริ่มโครงสร้างพื้นฐานใหม่” (New Infrastructure Initiative) ซึ่งเป็นแผนระยะยาว 5 ปี เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีตั้งแต่ โครงข่าย 5G ไปจนถึง AI ที่จะมารองรับการพัฒนาทางเศรษฐกิจในยุคต่อไปโดยไม่ต้องพึ่งต่างประเทศ
ความริเริ่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนเศรษฐกิจ 5 ปี ฉบับใหม่ของพรรคคอมมิวนิสต์ ที่มีผลตั้งแต่ตอนนี้ถึงปี 2025 คิดเป็นเงินลงทุนโดยรวมกว่า 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อพิจารณารายปีพบว่า งบประมาณด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีดังกล่าวมากกว่าปีที่แล้วเกือบเท่าตัว ตามข้อมูลของ China Academy of Information and Communication Technology สถาบันคลังสมองของรัฐบาลจีน
แผนการดังกล่าวสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของประเทศจีนก่อนหน้านี้ หลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วว่า “ต่อจากนี้ โครงสร้างพื้นฐานใหม่จะเป็นประเด็นที่เราสนใจอันดับแรก เพื่อเร่งระดับการบริโภคภายในและเอื้อให้เกิดการปฏิรูปเศรษฐกิจไปจนถึงระดับโครงสร้าง”
ความริเริ่มโครงสร้างพื้นฐานใหม่ พัฒนาตั้งแต่ AI ไปจนถึง 5G
โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีของจีนครอบคลุม 7 ด้านหลัก คือ
- โครงสร้างพื้นฐาน 5G
- ไฟฟ้าแรงสูงอัลตร้า (Ultra-High Voltage)
- รถไฟฟ้าความเร็วสูงระหว่างเมือง
- สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
- ศูนย์ Big Data
- ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
- อินเตอร์เน็ตอุตสาหกรรม
จีนเร่งพัฒนาโครงข่าย 5G เพื่อเสริมแกร่งอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและอำนวยความสะดวกให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ต่อไปจะไปอยู่บนช่องทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น พัฒนาศูนย์ Big Data และปัญญาประดิษฐ์ เพื่อเร่งประสิทธิภาพให้กับเศรษฐกิจดิจิทัล และสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและโครงข่ายอื่นๆ เพื่อรองรับรถยนต์ไร้คนขับในอนาคต
นอกจากนี้ ยังพัฒนารถไฟฟ้าความเร็วสูงระหว่างเมืองเพื่อเชื่อมต่อเมืองต่างๆ และกระจายความเจริญ สร้างสถานีจำหน่ายและสายส่งไฟฟ้าแรงสูงเพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มาพร้อมกับการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นทั้งเมืองใหญ่และเมืองเล็ก และรวมถึงการพัฒนาอินเตอร์เน็ตที่จะตอบสนองต่ออุตสาหกรรมที่เชื่อมต่อโรงงานในคลัสเตอร์เดียวกัน
รัฐบาลและเอกชนร่วมลงทุนในโครงการมหาศาล
มณฑลใหญ่อย่างกว่างโจวและจี๋หลินทุ่มงบประมาณของรัฐบาลท้องถิ่นกว่า 1 ล้านล้านหยวน (1.55 แสนล้านดอลลาร์) ลงทุนในการสร้างสถานีฐาน 5G และโครงข่ายเพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้า ส่วนเมืองระดับมหานครอย่างปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้มีแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีของตัวเองซึ่งสอดรับกับโครงการพัฒนาของรัฐบาลกลาง
นอกจากรัฐบาลท้องถิ่น เอกชนก็มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในโครงการดังกล่าว บริษัทเทคโนโลยีอย่าง Tencent มีแผนลงทุนเกือบ 7.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ในด้าน AI และโครงข่าย 5G ส่วน Alibaba ทุ่มงบกว่า 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในการพัฒนาศูนย์ Big Data
เพราะอเมริกายุคใหม่อาจมีนโยบายคงเดิม
การเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีของจีน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่สหรัฐฯ ภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ ระงับการส่งออกสินค้าด้านเทคโนโลยีระดับสูงเช่น 5G, ซอฟต์แวร์ขั้นสูง, AI และ semi-conductor ซึ่งเป็นสินค้าที่บริษัทเทคโนโลยีในจีนต้องพึ่งพิงบริษัทในอเมริกาอย่างมาก จีนจึงเร่งพัฒนาเพื่อลดการพึ่งพิงสหรัฐอเมริกาในระยะยาว
แม้อเมริกาได้ผลัดใบสู่ยุคใหม่ของโจ ไบเดน แต่ไบเดนและคณะทำงานก็ยังมีท่าทีไม่แน่นอนว่าจะยกเลิกข้อจำกัดทางการค้าที่โดนัลด์ ทรัมป์ สร้างขึ้นหรือไม่
ที่มา – Nikkei Asia, Bloomberg, Ideanomics
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา