มองหุ้นไทยปี 2021 นั้นสถาบันการเงินทั้งไทยและต่างประเทศค่อนข้างมองหุ้นไทยในปีนี้ในแง่บวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย แต่ในระยะยาวแล้วโครงสร้างเศรษฐกิจไทยยังมีความท้าทายหลายอย่างที่จะต้องปรับเปลี่ยน
Brand Inside รวบรวมมุมมองหุ้นไทยในปี 2021 จากหลากหลายสถาบันการเงินทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีมุมมองเป็นบวก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Valuation ที่น่าสนใจ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยหลังจากนี้ เงินทุนที่จะไหลเข้ามาจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัว หรือแม้แต่การซื้อหุ้นไทยเพราะมีผลตอบแทนตามหลังตลาดหุ้นอื่นๆ
อย่างไรก็ดีถ้าหากกลับมามองที่โครงสร้างเศรษฐกิจไทยนั้นอาจต้องปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ หลังจากที่ COVID-19 ได้เร่งให้เห็นถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจไทยที่มีปัญหาอยู่แล้วให้ชัดเจนขึ้น ทำให้ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยในปี 2020 ที่ผ่านมา ทำผลตอบแทนอยู่ในกลุ่มรั้งท้ายของเอเชีย
วัคซีน COVID-19 คือปัจจัยสำคัญปีนี้
สำหรับปัจจัยสำคัญในปีนี้ของเศรษฐกิจไทยคงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการกระจายวัคซีน COVID-19 ซึ่งล็อตใหญ่ของ AstraZenceca ที่ไทยจะได้รับนั้นจะอยู่ในช่วงราวๆ เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป แม้ว่าไทยจะได้รับวัคซีนจำนวนหนึ่งมาจาก Sinovac ในช่วงอีกไม่กี่เดือนก็ตาม เนื่องจากการกระจายวัคซีนจะช่วยทำให้ลดปัญหาของการแพร่ระบาดของ COVID-19 ลงได้บางส่วน แต่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยได้
นอกจากนี้การที่รัฐบาลไทยได้ออกมาประกาศว่าเอกชนสามารถที่จะซื้อวัคซีนจากผู้ผลิตรายอื่นได้ แต่ต้องได้รับอนุญาตจากทาง อย. ก่อนนั้น ถ้าหากเอกชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มการแพทย์ของไทยสามารถที่จะสั่งจองวัคซีนมาเพิ่มเติมได้ ยิ่งจะเร่งทำให้เศรษฐกิจของไทยกลับมาเข้ารูปเข้ารอยได้ไวยิ่งมากกว่าเดิมยิ่งขึ้น
สถาบันต่างประเทศชอบหุ้นไทย
สำหรับปี 2021 นั้นหุ้นไทยถือว่าเป็นที่ชื่นชอบของสถาบันการเงินต่างชาติไม่น้อย บทวิเคราะห์ล่าสุดจาก HSBC ที่วิเคราะห์กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ แนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทย โดยมองว่าในปี 2020 ที่ผ่านมา หุ้นไทยเองมีผลตอบแทนตามหลังตลาดหุ้นอื่นๆ ในเอเชีย แม้ว่าหุ้นไทยล่าสุดนั้นจะมี Valuation ที่แพงก็ตาม ทั้งอัตราส่วนกำไรต่อราคาหุ้น ฯลฯ
แต่ในบทวิเคราะห์ของ HSBC มองว่าสาเหตุที่สำคัญที่หุ้นไทยมี Valuation คือเรื่องของการฟื้นตัวของกำไรหลังจากนี้ ขณะเดียวกันสัดส่วนของนักลงทุนต่างประเทศก็ถือว่าน้อย นอกจากนี้ HSBC ยังมองว่าไทยยังจะมีมาตรการทางการเงินและการคลังออกมาหลังจากนี้ นอกจากนี้ถ้าหากสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของ COVID-19 ดีขึ้นก็ยังจะเป็น Sentiment ทำให้หุ้นไทยดูดีมากกว่านี้ด้วย
ขณะที่มุมมองของ Credit Suisse มองว่าแม้เมืองไทยจะมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ก็ตาม แต่มุมมองของสถาบันการเงินรายนี้ยังมองว่า Valuation ของหุ้นไทยถูกสุดอันดับ 2 ในเอเชียแปซิฟิก และมองว่าหุ้นไทยจะกลับมาฟื้นตัวได้ช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป และต่อให้มีการระบาดของ COVID-19 ทาง Credit Suisse ก็มองว่าหุ้นไทยก็จะสามารถวิ่งต่อได้เหมือนกับอินโดนีเซียและสหรัฐอเมริกาที่มีการระบาดรอบใหม่
เงินทุนไหลกลับเข้ามาที่หุ้นไทย
สุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) มองว่า ตลาดหุ้นไทยในปี 2021 มีแนวโน้มสดใสกว่าปี 2020 จากความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจที่ลดลง เนื่องจากอยู่ในช่วงของผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวต่อเนื่องถึงปี 2022 โดยเฉพาะธุรกิจที่ขึ้นกับวัฏจักรเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี ธนาคาร การ บริโภค และ การท่องเที่ยว เป็นต้น
ปี 2021 นี้ SCBS ยังมองว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนจะฟื้นตัวมากถึง 40% เมื่อเทียบกับปี 2020 และปี 2022 เติบโตต่ออีก 19% เมื่อเทียบกับปีนี้ อย่างไรก็ดีความผันผวนจะยังอยู่ จากระดับราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นเร็วและความเสี่ยงภายนอกที่สูงขึ้น
SCBS ได้ประเมินระดับเหมาะสมของ SET Index ปี 2021 อยู่ในช่วง 1,450-1,500 จุด อ้างอิงจากปัจจัยพื้นฐาน อย่างไรก็ตามคาดว่า SET Index ในบางช่วงเวลามีโอกาสแกว่งตัวขึ้นไปเกินกว่าระดับดังกล่าว 5-10%
จากปัจจัยหนุนของสภาพคล่องในตลาดการเงินที่สูง เงินทุนต่างประเทศที่กลับเข้ามาลงทุน และความคาดหวังต่อการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานที่ต่อเนื่องถึงปี 2022
กลยุทธ์การลงทุนไตรมาสแรกปี 2564 ทาง SCBS เน้นเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มวัฏจักรเศรษฐกิจมากขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึง ซื้อสะสมหุ้นท่ีเก่ียวข้องกับเทรนด์ในอนาคต ได้แก่ พลังงานสะอาด การดูแลสุขภาพ และการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี
มอง REIT ไทยอาจฟื้นตัวได้ไวจากปัจจัยวัคซีน
สำหรับมุมมองกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ได้วิเคราะห์ว่า ในเดือนธันวาคม 2020 ที่ผ่านมานั้น ดัชนีกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และ REIT อ่อนตัวลง เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ในไทย กอง REIT ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประชุมและสัมมนา ห้างสรรพสินค้า และโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง ได้รับผลกระทบโดยตรงจากช่วงดังกล่าวเนื่องจากมุมของนักลงทุนคาดว่างานอีเวนท์ การเดินทาง จำนวนลูกค้าที่จะเข้าห้างสรรพสินค้าจะดิ่งตัวลง การฟื้นนตัวของธุรกิจเหล่านี้ได้ชะลอลงมาระยะหนื่งแล้ว
อย่างไรก็ตามกองทุนท่ีมีรายได้แน่นอน เช่น กองทุนท่ีเกี่ยวข้องกับเสาส่งสัญญาณโทรคมนาคมและสายเคเบิลใยแก้วยังคงให้ผลตอบแทนท่ีน่ะสนใจในแง่ของอัตราเงินปันผล
ทั้งนี้ราคาของ REIT และกองทุนท่ีเกี่ยวข้องกับธุรกิจประเภทห้างสรรพสินค้า ธุรกิจประชุมและสัมมนา และโครงสร้างพื้นนฐานด้านการขนส่งซื่งปรับตัวลง 20-45% นับจากต้นปึ 2020 ที่ผ่านมาดูเหมือนจะสะท้อนปัจจัยลบจากจำนวนลูกค้าหรือจำนวนผู้โดยสารที่ลดลงไปมากแล้ว หากการระบาดของ COVID-19 นี้สามารถควบคุมได้ จากการกระจายฉีดวัคซีน
ทำให้บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) คาดดว่าราคาของ REIT และกองทุนอสังหาริมทรัพย์จะสามารถฟื้นตัวได้แข็งแกร่ง
แต่ระยะยาวเศรษฐกิจไทยต้องปรับโครงสร้าง
อย่างไรก็ดีแม้ว่าหุ้นไทยจะมีความน่าสนใจในปี 2021 แต่ในบทวิเคราะห์จากหลายสถาบันการเงินทั้งไทยและต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) มองว่าในระยะยาวเศรษฐกิจไทยนั้นจะต้องเร่งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเนื่องจากการลงทุนที่อยู่ในระดับต่ำมานาน สอดคล้องกับในบทวิเคราะห์ของ Credit Suisse ที่ชี้ว่าหุ้นไทยที่น่าสนใจในปีนี้ไม่ใช่จากเรื่องความโดดเด่นของไทย แต่โครงสร้างเศรษฐกิจไทยตอนนี้ยังมีปัญหาเรื่องสังคมผู้สูงอายุ การขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ ภาคเศรษฐกิจใหม่ที่มีอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีของไทยที่ยังขาดแคลน
ก่อนหน้านี้ Brand Inside ได้สัมภาษณ์กับ ยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่ และผู้บริหารสูงสุด Economic Intelligence Center ธนาคารไทยพาณิชย์ ถึงเรื่องโครงสร้างเศรษฐกิจไทยที่จะต้องปรับเปลี่ยนไปหลังจากนี้ ซึ่งก่อนหน้าการแพร่ระบาดของ COVID-19 ไทยเองก็มีปัญหาโครงสร้างของเศรษฐกิจไทยอยู่ไม่ว่าจะเป็นแรงงานที่ไม่ได้เพิ่มทักษะ จำนวนแรงงานในระบบที่กำลังลดลง
ทำให้หลังจากนี้ไทยจะต้องปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ เพื่อที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยสามารถเดินต่อไปในอนาคตได้ และยังเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นไทยในระยะยาวด้วย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา