2020 ปีที่ไม่มี “ฮีโร่ Marvel” ส่วนปีหน้า แม้ฮีโร่กลับมา แต่อุตสาหกรรมจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ฮีโร่มาร์เวลกับศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุด “โควิด-19″

ปี 2020 นับได้ว่าเป็นปีที่ไร้เงา “ซูเปอร์ฮีโร่” อย่างแท้จริง เมื่อหนังของซูเปอร์ฮีโร่ใน “จักรวาลมาร์เวล” พากันเลื่อนฉายออกไป หลีกหนีศัตรูตัวฉกาจของมนุษย์ชาติในตอนนี้อย่าง “ไวรัสโควิด-19” ซึ่งจะทำให้มนุษย์อย่างเราๆ ไม่มีที่พึ่ง (ทางจิตใจ) ไปเกือบๆ 2 ปี ก่อนที่หนังซูเปอร์ฮีโร่ของมาร์เวลจะพาเหรดกลับมาฉายกันอีกครั้งในปี 2021

ต้องรอถึง 2 ปี เราถึงจะได้ดูหนังจากมาร์เวลกันอีกครั้ง

มาร์เวลเริ่มต้นภาพยนตร์ในจักรวาลฮีโร่ของตัวเองเป็นครั้งแรกในปี 2008 โดยการส่ง “ไอรอนแมน” ออกมาวาดลวดลายบนจอเงินให้แฟนๆ ได้เริ่มต้นปักธงติดตามภาพยนตร์ในชุดนี้ และเติบโตร่วมกันกว่าสิบปี ชนิดที่ว่าไม่มีปีไหนที่มาร์เวลไม่ส่งภาพยนตร์มาเอาใจแฟนๆ จนทำให้ผู้ชมผูกพันกับจักรวาลนี้เป็นอย่างมาก 

ปี 2019 ถือว่าเป็นปีที่ทำให้แฟนๆ มาร์เวลอิ่มเอิบใจที่สุดก็ว่าได้ เมื่อจักรวาลมาร์เวลส่ง “The Avengers: Endgame” ภาพยนตร์ที่เป็นเหมือนบทสรุปของมหากาพย์การเดินทางกว่า 10 ปี ชนิดที่ยำใหญ่จัดเต็มส่งตัวละครในดวงใจของหลายๆ คน ให้ได้เข้ามาแวะเวียนมีบทบาทในบทสรุปครั้งยิ่งใหญ่ให้เราได้หายคิดถึงและย้อนนึกถึงอดีตที่ผ่านมากว่าสิบปีจนหัวใจพองโต

Avengers: Endgame

หลังจากนั้น ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2019 มาร์เวลก็ได้ส่งภาพยนตร์เรื่องล่าสุดคือ “Spider-Man: Far From Home” ซึ่งเป็นการส่งท้ายจักรวาลมาร์เวลที่เดินทางมากว่า 10 ปี (Phase 1-3) และปูทางไปสู่จักรวาลมาร์เวลยุคใหม่ (Phase 4) 

โชคไม่ดีที่โควิด-19 ได้เริ่มระบาดรุนแรงในช่วงปลายปี 2019 ส่งผลให้แพลนปล่อยและถ่ายทำหนังของมาร์เวลในปี 2020 ต้องหยุดชะงักและเลื่อนออกไป ส่วนอารมณ์ของแฟนๆ ก็ยังคงค้างเติ่งอยู่กับบทสรุปที่ลืมไม่ลงในปี 2019 

เราจะต้องรอเป็นเวลาร่วม 2 ปี หลังจากภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของมาร์เวลได้ออกฉายล่าสุด (2019) ถึงจะได้กลับไปลุ้นกันต่อว่าจักรวาลมาร์เวลจะเป็นอย่างไรต่อไป โดยหนังที่มีกำหนดฉายเรื่องแรกหลังจากมาร์เวลหยุดฉายไปอย่างยาวนาน คือ “Black Widow” ซึ่งจะฉายครั้งแรกในวันที่ 7 พฤษภาคม 2021 (จากกำหนดฉายเดิมในวันที่ 29 ตุลาคม 2020)

Avengers: Endgame

เมื่อไร้เงาซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวล แล้วใครคือฮีโร่แห่งปี 2020 

ในยามที่ขาดฮีโร่มาร์เวล เราได้หนีไปหาเรื่องราวของผู้มีพลังพิเศษคนอื่นๆ เพื่อปลอบประโลมหัวใจของคนธรรมดาที่อยู่ในโลกที่มืดมนกว่าครั้งไหนๆ ในปีนี้ 

แม้มาร์เวลจะไม่ได้ปล่อยหนังเข้ามาร่วมอุตสาหกรรมบันเทิง แต่พบว่าผู้คนก็ได้ให้ความสนใจไปกับเรื่องราวหลากหลาย เช่น เรื่องราวการเดินทางของราชินีนักหมากรุกหญิง แห่งยุค 1970 ใน “Queen’s Gambit” ที่ทุบสถิติกลายเป็นซีรีส์ที่มีผู้ชมสูงสุดตลอดกาลของ Netflix

และล่าสุด ก็ยังมีกระแสอนิเมชั่นญี่ปุ่นที่ดังเป็นพลุแตกอย่าง “Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba the Movie: Mugen Train” หรือ “ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่: ศึกรถไฟสู่นิรันดร์” ที่ทำรายได้โค่น Titanic จากการฉายในประเทศญี่ปุ่น และมีรายได้แซง Tenet จากการฉายในระดับโลกเรียบร้อยแล้ว

Demon Slayer Photo: https://demonslayer-anime.com/risshihen/#intro

ฮีโร่มาร์เวลในปี 2021 กับการหวนมาพบกันอีกครั้งที่เปลี่ยนไปตลอดกาล

วิกฤติโควิดซึ่งทำให้คนออกเดินทางได้ยากลำบากขึ้นก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับอุตสาหกรรมบันเทิงชนิดที่ไม่มีวันหวนกลับไปได้อีก เราจะเห็นได้จากการที่ ล่าสุด Disney ซึ่งเป็นเจ้าของ Marvel Studios ได้ประกาศในงานแถลงการณ์ต่อนักลงทุนรอบปลายปีว่าจะหันไปลงทุนในสตรีมมิ่งอย่างสุดตัว

ในปี 2021 ที่กำลังจะมาถึง Disney ประกาศว่าจะนำภาพยนตร์ของ Marvel มาฉายชนโรงให้แฟนๆ ได้รับชมผ่านสตรีมมิ่งอย่าง Disney+ ในวันเวลาเดียวกัน

นอกจากนี้ Disney จะนำ “ซีรีส์” ในจักรวาลมาร์เวลมาให้เราได้รับชมผ่าน Disney+ เช่นกัน ซึ่งจะทำให้เราได้ติดตามแง่มุมใหม่ๆ ของตัวละครที่ไม่ค่อยมีบทบาทในภาพยนตร์เท่าไหร่นัก เช่น Hawkeye และได้เห็นเรื่องราวที่ไม่ได้กล่าวถึงในภาพยนตร์แต่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการติดตามเรื่องราวในจักรวาลมาร์เวลมากขึ้น

ดังนั้น การหวนกลับมาพบกันหลังจากช่วงเวลา 2 ปี จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ตอนนี้เราสามารถรับชมภาพยนตร์ได้จากที่บ้านผ่านแอพสตรีมมิ่ง Disney+ นอกจากนี้ จากเดิมที่แฟนๆ อาจจะคุ้นเคยเพียงแค่การติดตามฮีโร่ผ่านภาพยนตร์ มาคราวนี้เราจะได้ดู “ซีรีส์” มาร์เวลซึ่งจะช่วยเติมเต็มความสุขในการเสพจักรวาลมาร์เวลได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นอีกด้วย

ที่มา – The Guardian, CNBC, CBR  

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

บาส รชต สนิท - นักข่าว นักเขียน ที่ Brand Inside | สนใจด้าน Future of Work, สิทธิคนทำงาน, สิ่งแวดล้อม, การเมืองโลก, ปัญหาทุนนิยม และ สิทธิมนุษยชน