ไม่มีคนไทยเลยเหรอ? เศรษฐีต่างชาติร้องรัฐบาลทั่วโลก เก็บภาษีฉันเถอะ เผื่อโลกจะน่าอยู่ขึ้น

เหล่ามหาเศรษฐีต่างชาติจำนวน 102 คนเรียกร้องรัฐบาลให้เรียกเก็บภาษีตัวเองเดี๋ยวนี้! (tax us now) เพราะอยากจะช่วยให้โลกน่าอยู่ขึ้นบ้าง ชื่อเรียกของเหล่าเศรษฐีคือ “Patriotic Millionaires” หรือเศรษฐีรักชาติ ทำไมจู่ๆ เหล่าเศรษฐีก็เกิดจะรักชาติ รักโลกขึ้นมา เกิดอะไรขึ้น??

Billionaire

อยู่ๆ เหล่าบรรดาเศรษฐีรักชาติก็รวมตัวกันและเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกเรียกเก็บภาษีพวกเขา เพื่อจะเข้ามาร่วมแก้ปัญหาทั้งการจัดการโรคระบาดและปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนกับคนรวยที่นับวันปัญหาจะยิ่งรุนแรงขึ้น หนึ่งในบรรดาเศรษฐีมีทายาทดิสนีย์อยู่ด้วย Abigail Disney ระบุว่า ระบบภาษีในปัจจุบันมันเอื้อโอกาสให้เหล่าคนรวย ควรจะมีการแก้ระบบเรียกเก็บภาษีใหม่ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้คนที่ทำงานอย่างหนัก รวมทั้งฟื้นคืนความเชื่อมั่นต่อการเมืองด้วย

คำแถลงของเหล่าเศรษฐีระบุว่า เหล่าบรรดาเศรษฐีต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาด้วย ระบบภาษีในปัจจุบันไม่เป็นธรรม ในขณะที่โลกได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโรคระบาดในช่วงสองปีที่ผ่านมา แต่คนรวยกลับรวยขึ้น แถลงดังกล่าวระบุว่า ทุกประเทศในโลกควรเรียกเก็บภาษีคนรวยให้จ่ายอย่างเป็นธรรมมากขึ้น ควรจะมีการเก็บภาษีความมั่งคั่งนี้ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำอย่างสุดขั้วและเพิ่มรายได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น ในระยะยาวก็ควรเพิ่มบริการสาธารณะให้มากขึ้นด้วย เช่น ด้านสาธารณสุข เป็นต้น

พวกคนรวยทั้งหลายเหล่านี้ระบุว่า ควรจะมีการเรียกเก็บภาษีมากขึ้น เพื่อทำให้คน 2.3 พันล้านคนที่กำลังทุกข์ยากอยู่นี้พ้นจากความยากจนเสียที เพื่อผลิตวัคซีนให้มากเพียงพอต่อคนทั้งโลกและเพื่อส่งต่อสาธารณสุขที่ดีไปทั่วโลก โดยมองว่า คนรวยที่มีสินทรัพย์ในครอบครองมากกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐควรจะจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นจาก 2% เป็น3% ส่วนคนที่รวยมากกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐควรจ่ายภาษี 5% มีการประเมินว่า หากเรียกเก็บภาษีกับคนที่ร่ำรวยที่สุดในอังกฤษจำนวน 119,000 คน จะได้เงินราว 4.37 หมื่นล้านปอนด์

In tax we trust

เหล่าคนรวยรักชาติมองว่า การเรียกเก็บภาษีให้เป็นธรรมมากขึ้นนี้ จะช่วยให้มีการจ่ายเงินเพื่อระบบดูแลสุขภาพมากขึ้น ทำให้ไม่ต้องเรียกเก็บค่าประกันในหมู่คนทำงานเพิ่ม นอกจากนี้ เม็ดเงินดังกล่าวยังครอบคลุมเงินเดือนสำหรับการเพิ่มพยาบาลได้อีกราว 50,000 คน ช่วยนำภาษีเหล่านี้มาจ่ายค่าใช้จ่าย Universal Credit เพิ่มขึ้นได้ (Universal Credit คือการจ่ายเงินเพื่อค่าครองชีพในปัจจุบัน ที่ต้องจ่ายทุกเดือนหรือจ่ายเดือนละสองครั้งสำหรับในสก็อตแลนด์ เป็นเงินที่มอบให้กับคนที่รายได้น้อยหรือคนที่ว่างงานหรือคนที่ไม่สามารถทำงานได้) และเงินดังกล่าวยังช่วยจัดหาบ้านให้ผู้คนได้ราว 35,000 หลัง เป็นต้น

จากลิสต์รายชื่อเหล่าเศรษฐีรักชาติดังกล่าว พบว่า ส่วนใหญ่เป็นเศรษฐีในประเทศสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, เยอรมนี, แคนาดา, เดนมาร์ก, ออสเตรีย, เนเธอร์แลนด์และนอร์เวย์ ไม่มีไทยหรือเศรษฐีในเอเชียไปร่วมแจมแคมเปญนี้เลย

สำหรับประเด็นคนรวยรักชาตินี้ ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในกระแส เป็นความสนใจและเป็นเทรนด์โลก ที่คนหันมาให้ความสนใจความเหลื่อมล้ำมากขึ้น แต่เรื่องที่คนรวยรักชาติต้องการให้มีการเรียกเก็บภาษีนี้ จะเป็นเพราะต้องการแสดงจุดยืนเพราะอยากแก้ไขปัญหาจริงๆ เพื่อให้รู้ว่าไม่ได้เพิกเฉยต่อปัญหาและพร้อมจะยินดีร่วมแก้ไขปัญหาด้วย หรือจะเป็นเพียงการเกาะกระแสนี้เท่านั้น หากประเมินตอนนี้อาจเร็วไป เพราะเอาเข้าจริงถ้าอ้างตามคำพูดที่ Joe Biden เคยกล่าวไว้ “ไม่มีใครปลอดภัย จนกว่าทุกคนจะปลอดภัย” ก็อาจเป็นสิ่งที่ทำให้เข้าใจได้ไม่ยาก ตราบใดที่พลเมืองทั่วโลกยังประสบปัญหาอยู่ ย่อมส่งผลกระทบต่อผู้คนที่เหลือบ้างไม่มากก็น้อย

สิ่งที่รัฐบาลของประเทศต่างๆ ที่เหล่าเศรษฐีใช้ชีวิตอยู่ทำได้ คือการเรียกเก็บภาษีตามที่เหล่าเศรษฐีเรียกร้อง เพื่อเป็นตัวอย่างว่าลงมือทำจริง แม้จะมีเศรษฐีอีกมากไม่ได้เสนอตัวที่จะทำเช่นเดียวกัน ก็อาจจะสนใจและหันมาเรียกร้องแบบเดียวกันก็เป็นได้

Billionaire

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ช่วงโควิดถือเป็นทั้งวิกฤตสำหรับคนจนให้จนมากขึ้นและเป็นโอกาสให้คนรวยได้รวยมากขึ้นทั้งจากภาษีลาภลอยที่พวกเขาได้รับ ทั้งจากการดำเนินนโยบายเพื่อช่วยเหลือคนทั้งประเทศ คนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดกลับเป็นคนรวย ประเทศไทยก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความยากจนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซ้ำแล้วซ้ำเล่าและยังเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่มีอัตราความยากจนเพิ่มขึ้นหลายครั้งนับตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา แต่เศรษฐีไทยก็ไม่ได้มีส่วนร่วมในการเรียกร้องให้เก็บภาษีเพิ่มเติม

เรามาดูกันบ้างว่า 10 อันดับแรกที่เป็นเศรษฐีไทย มีใครบ้าง มีสินทรัพย์ในครอบครองเพียงใด จะมีโอกาสบ้างไหมที่เหล่าคนรวยเศรษฐีไทยจะให้เรียกเก็บภาษีตัวเองบ้างเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในประเทศบ้าง (ตัวเลขจาก Forbes 7 กรกฎาคม 2021)

  1. ธนินท์ เจียรวนนท์ ครอบครองทรัพย์สินทรัพย์มูลค่า 3.02 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (9.95 แสนล้านบาท)
  2. เฉลิม อยู่วิทยา ครอบครองทรัพย์สินทรัพย์มูลค่า 2.45 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
  3. เจริญ สิริวัฒนภักดี ครอบครองทรัพย์สินทรัพย์มูลค่า 1.27 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
  4. ครอบครัวจิราธิวัฒน์ ครอบครองทรัพย์สินทรัพย์มูลค่า 1.16 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
  5. สารัชถ์ รัตนาวะดี ครอบครองทรัพย์สินทรัพย์มูลค่า 8.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ
  6. ครอบครัวโอสถานุเคราะห์ ครอบครองทรัพย์สินทรัพย์มูลค่า 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ
  7. สมโภชน์ อาหุนัย ครอบครองทรัพย์สินทรัพย์มูลค่า 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
  8. ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ครอบครองทรัพย์สินทรัพย์มูลค่า 3.25 พันล้านเหรียญสหรัฐ
  9. ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ ครอบครองทรัพย์สินทรัพย์มูลค่า 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
  10. ชูชาติ เพ็ชรอำไพและดาวนภา เพชรอำไพ ครอบครองทรัพย์สินทรัพย์มูลค่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ

อ้างอิง – The Guardian, In tax we trust (1), (2)

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา