อย่าปล่อยให้โควิด ทำชีวิตเราทุกข์ Yale เปิดวิชาศาสตร์แห่งความสุข เรียนฟรีจากที่บ้าน

ความสุขในชีวิตคืออะไร? บางคนอาจบอกว่าความสุขคือการได้อยู่ในบ้านหลังใหญ่ ได้ขับรถรุ่นที่ชอบ ได้ไปเที่ยวต่างประเทศปีละหลายๆ ครั้ง แต่บางคนความสุขคือสิ่งเล็กๆ ที่อยู่รอบตัว คนรัก เพื่อนฝูง หรือแม้แต่การได้กลับมากินข้าวพร้อมกับที่บ้าน

การได้อยู่กับคนที่รัก คือความสุขในรูปแบบหนึ่งที่หาได้รอบตัว ภาพจาก pixabay.com

แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่นับวันจะมีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ชีวิตประจำวันของเราอยู่ด้วยความกังวล ความวิตก จากการเสพข่าว จนหลายคนลืมความสุขที่เคยมีในชีวิตประจำวันไป

Yale Science of Well Being ภาพจาก coursera.org

Yale มหาวิทยาลัยชื่อดังในกลุ่ม Ivy League ได้เปิดสอนวิชา Science of Well Being ในรูปแบบออนไลน์ ถือว่าเป็นวิชาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดวิชาหนึ่ง ในช่วงนี้หลายคนใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บ้านสามารถลองเข้าไปเรียนเพื่อหาคำตอบให้กับความสุขในชีวิตก็ได้ (อ่านรายละเอียดของวิชาเพิ่มเติม และเข้าไปเรียนได้ที่นี่)

Laurie Santos อาจารย์จากมหาวิทยาลัย Yale ผู้รับหน้าที่สอนวิชา Science of Well Being ได้แนะนำเทคนิควิธีเพื่อเพิ่มความสุขให้กับชีวิตของผู้เรียนดังนี้

การนั่งสมาธิช่วยให้คุณได้อยู่กับตัวเอง โฟกัสกับสิ่งที่ทำได้ดีขึ้น ภาพจาก pixabay.com

นั่งสมาธิเป็นประจำ

นั่งสมาธิทุกวัน ครั้งละ 15-20 นาทีในช่วงครึ่งหลังของวิชา (สัปดาห์ที่ 7-10) ซึ่งข้อดีของการนั่งสมาธิจะทำให้เราเกิดการสร้างพฤติกรรมใหม่ ที่ส่งผลดีต่อการใช้ชีวิต ได้แก่ ช่วยให้เราควบคุมจิตใจได้ดีขึ้น รู้สึกสงบ โฟกัสกับสิ่งที่ทำ และช่วยชาร์จให้กับการใช้ชีวิต นอกจากนี้งานวิจัยหลายๆ งาน ยังยืนยันว่าการนั่งสมาธิสามารถช่วยปรับอารมณ์ สร้างสมาธิให้จดจ่อกับงานที่ทำ และสามารถเข้าสังคมได้ดีขึ้น

แบ่งเวลาทำสิ่งที่ชอบบ่อยๆ เพื่อสร้างความสุขให้กับชีวิต ภาพจาก pixabay.com

ทำในสิ่งที่ชอบทีละนิด แต่ทำบ่อยๆ

ถ้าการทำในสิ่งที่คุณชอบทำให้คุณมีความสุข ดังนั้นคุณควรลองแบ่งเวลาทำสิ่งที่คุณชอบทีละนิด แต่ทำบ่อยๆ แทนที่จะทำครั้งเดียวแต่ใช้เวลานาน เช่น หากคุณชอบดูภาพยนตร์ หรือซีรี่ย์เรื่องอะไร ลองแบ่งเวลามาดูทีละนิดๆ อาจจะวันละ 1 ตอนก็ได้ เพื่อเก็บไว้ดูต่อวันอื่น คุณจะได้มีความสุขกับทุกๆ วันที่ได้ทำ

หรือแม้แต่ถ้าคุณชอบปลูกต้นไม้ จัดสวน แทนที่จะทำให้เสร็จภายในวันเดียวลองเปลี่ยนเป็นแบ่งเวลามาทำในตอนเย็นหลังเลิกงานในแต่ละวันก็ได้ เพื่อเป็นการผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานในแต่ละวันไปโดยปริยาย

คุณสามารถใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อสร้างความสุขได้ เช่น การถ่ายภาพ ดูหนัง โดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องราคา ภาพจาก pixabay.com

ใช้ของเพื่อสร้างความสุข อย่าคิดถึงมูลค่า

เวลาซื้อของมาใหม่ คุณอาจเริ่มคำนวนว่าของชิ้นนี้จะมีค่าเสื่อมเท่าไหร่หากใช้ได้ 2 ปี หรือแม้แต่ถ้าจะขายของชิ้นนี้ออกไปจะได้เงินกลับมาเท่าไหร่ การคิดแบบนี้จะทำให้คุณยึดติดอยู่แต่กับเรื่องเงินจนไม่มีความสุข เพราะความจริงแล้วของแต่ละชิ้นที่คุณซื้อมามีมูลค่ามากกว่าเรื่องเงิน เพราะคุณสามารถใช้ของชิ้นนั้นเพื่อสร้างความสุขให้กับตัวเองได้ เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือแทบเล็ต คุณสามารถใช้มันเพื่อดูหนัง ฟังเพลง หรือทำกิจกรรมที่คุณชอบได้ ซึ่งมันคือความสุขที่คุณได้รับจากของชิ้นนั้น

ใช้ชีวิตเหมือนวันนี้เป็นวันสุดท้าย

การจินตนาการว่าทุกๆ วันเป็นวันสุดท้ายของชีวิต จะช่วยให้คุณไม่มีความกังวลกับสิ่งใด และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องสนใจว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร รวมถึงคุณจะสนใจสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตที่เข้ามา ซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นความสุขอีกแบบหนึ่งเช่นกัน

ความสุขเล็กๆ น้อยๆ มีอยู่รอบตัว ภาพจาก pixabay.com

ลิ้มรสความสุขให้นานกว่าเดิม

บางครั้งคุณอาจได้ออกไปใช้ชีวิตประจำวัน เจอเรื่องราวต่างๆ รวมถึงความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณอาจไม่ได้สังเกตถึงมัน แนะนำว่าคุณควรลองเปิดใจ คอนสังเกตสิ่งเล็กๆ น้อยๆ รอบตัวว่ามันคือความสุขอีกรูปแบบหนึ่ง ใช้ชีวิตกับมันให้เต็มที่ อยู่กับปัจจุบัน รวมถึงแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ที่คุณเจอในชีวิตให้คนที่คุณรักฟัง จะช่วยให้ช่วงเวลาแห่งความสุขอยู่กับคุณได้นานยิ่งขึ้น

แบ่งปันความดีให้คนอื่นบ้าง 

มีคนเคยทำการทดลองว่า การทำความดีให้ผู้อื่นช่วยสร้างความสุขให้กับคุณได้ ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันแต่คุณไม่รู้ตัวว่าคุณเคยทำมัน อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ อย่างการช่วยเปิดประตูให้กับคนที่ถือของหนักๆ ช่วยกดเปิดประตูลิฟท์รอคนอื่นๆ หรือแม้แต่การซื้อขนม น้ำดื่ม มาฝากแม่บ้านหรือยามในบริษัทก็ได้ บางงานวิจัยถึงกับบอกว่าการใช้จ่ายไปกับคนแปลกหน้าจะช่วยสร้างความสุขให้กับคุณ

ทั้งหมดนี้จะเห็นว่าความสุขคือสิ่งที่มีอยู่แล้วรอบตัวคุณ แต่คุณอาจไม่เคยสังเกตเห็นมันมาก่อน ลองปรับมุมมอง เปลี่ยนแนวคิด เพื่อเปิดรับความสุขเล็กๆ น้อยๆ รอบตัว จะช่วยให้คุณมีความสุขไปกับทุกวัน

ที่มา – Business Insider

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา