ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียเตรียมเข้าสู่ยุคใหม่ สี จิ้นผิงบอก “ทั้ง 2 ประเทศกำลังสานสัมพันธ์ขั้นสูงสุด”

Xi Jinping Putin China Russia
ปธน. วลาดิเมียร์ ปูติน จับมือปธน. สี จิ้นผิง Photo: Shutterstock

จีนจับมือรัสเซีย ส่งสัญญาณถึงอเมริกา ในช่วงสงครามการค้าอันร้อนแรง

สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเดินทางเยี่ยมเยียนรัสเซีย พร้อมทั้งเข้าพบเพื่อพูดคุยกับวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย และนอกจากที่ทั้งผู้นำทั้งสองจะได้ร่วมงานฉลองครบรอบ 70 ปีความสัมพันธ์ของจีน-รัสเซียแล้ว มีหนึ่งสัญญาณใหญ่ที่ต้องจับตามอง นั่นคือการผูกความสัมพันธ์อันแนบแน่นของทั้งสองประเทศ

การพบกันของสองผู้นำมหาอำนาจจีน-รัสเซียท่ามกลางสงครามการค้าอันดุเดือดระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน มีหนึ่งสัญญาณสำคัญที่ต้องจับตามองคือ จีนและรัสเซียนับแต่นี้กำลังสานสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองมากยิ่งขึ้น

  • ผู้นำจีนถึงกับบอกเลยว่า “เรากำลังสร้างความสัมพันธ์ขั้นสูงสุดในประวัติศาสตร์ เราจะพัฒนาความผูกพันธ์ของทั้งสองประเทศ และจีนก็พร้อมแล้วที่จะจับมือกับรัสเซียเดินหน้าไปด้วยกัน”
  • ส่วนผู้นำรัสเซียระบุว่า ความสัมพันธ์ในครั้งนี้ถือได้ว่าอยู่ในระดับที่ “ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”

สี บอกว่า จีนต้องการสานสัมพันธ์กับรัสเซียเพื่อเดินหน้าสู่อนาคต พร้อมวางแผนยุทธศาสตร์ในการร่วมมือกันอย่างรอบด้านเพื่อก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ (new era)

  • “เราทั้งสองประเทศมีความแข็งแกร่งในทางการเมือง พร้อมที่จะสนับสนุนกันและกันทั้งในเรื่องของผลประโยชน์ และปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้น ดังนั้นเราจึงมั่นใจว่า ทั้งจีนและรัสเซียจะสามารถยกระดับความสัมพันธ์ของเราไปสู่ยุคสมัยใหม่ เพื่อสร้างการพัฒนาที่สุดยอดของทั้งสองประเทศ” สี กล่าว

อย่างไรก็ตามในแง่เศรษฐกิจ ปัจจุบันจีนคือประเทศพันธมิตรผู้ค้ารายใหญ่ของรัสเซีย อย่างในปี 2018 ที่ผ่านมา มูลค่าการค้าของทั้งสองประเทศอยู่ที่ 1.07 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 27.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ส่วนในมุมของจีน รัสเซียแม้จะเป็นหนึ่งในประเทศผู้ค้าสำคัญ แต่ตัวเลขในปี 2017 ระบุว่า มูลค่าการส่งออกของจีนไปยังรัสเซียคิดเป็นมูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือเพียง 1.8% เท่านั้น ในขณะที่เมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกามีมูลค่าในส่วนนี้ 4.77 แสนล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 20% ของทั้งหมด

การสานสัมพันธ์ของจีน-รัสเซียที่จะยกระดับไปสู่ขั้นสูงสุดในครั้งนี้ ทั้งในทางการเมืองและเศรษฐกิจ น่าจะทำให้ตัวเลขการค้าของทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

ที่มา – CNBC

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา