ผู้นำจีนต้องการปรับความสัมพันธ์บนเวทีโลกให้ดีขึ้นโดยจะใช้วิธีการสร้างมิตรเพื่อเอาชนะมหาอำนาจอื่น
โควิดทำจีนเสียความน่าเชื่อถือ ต้องรื้อฟื้นความเชื่อมั่น
จากการระบาดของโควิด-19 เป็นที่รู้กันว่ามีจุดเริ่มต้นมาจากจีน ซึ่งกระทบต่อภาพของพี่ใหญ่ในเอเชีย สี จิ้นผิงจึงต้องปรับนโยบายกับต่างประเทศให้เป็นมิตรมากขึ้น เพื่อปรับปรุงภาพลักษณ์ และที่สำคัญคือความต้องการช่วงชิงพื้นที่จากสหรัฐฯ ในการเป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวออกสู่สายตาโลก
- การเมืองเรื่องโควิด จีน-อเมริกา ผ่านเวที WHO
- ผลสำรวจ Pew Research พบ กว่า 10 ประเทศทั่วโลกไม่ปลื้มจีนสูงที่สุดในประวัติศาสตร์
ผู้นำจีนได้กล่าวกับโปลิตบูโรว่า จีนจำเป็นจะต้องเร่งการก่อร่างวาทกรรม และสร้างระบบที่ทำให้จีนเป็นผู้เล่าเรื่องบนเวทีโลก มุ่งปรับปรุงภาพลักษณ์ของพรรคในสายตาประชาคมโลก และตอบโต้คำวิจารณ์จากการขยายบทบาทของจีนในต่างประเทศ โดยจะใช้การประชุมระดับนานาชาติและสื่อหลักในต่างประเทศเป็นช่องทางในการสื่อสาร
อีกทั้งวางแผนจะให้ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงมามีบทบาทเป็นตัวดำเนินการหลัก นอกจากนี้ยังจะใช้วิธีรวบรวมทีมผู้เชี่ยวชาญเพื่อสื่อสารในรูปแบบใหม่นี้ และสีจิ้นผิงยังกล่าวถึงความจำเป็นของการสร้างพันธมิตรเพื่อจะเอาชนะเสียงข้างมากบนเวทีโลก แน่นอนว่าหมายถึงสหรัฐฯ และบรรดาพันธมิตร
ถึงคราวที่จีนต้องรับผลของนโยบายแข็งกร้าว
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้นำจีนใช้สื่อและพรรคการเมืองของตัวเองในการส่งออกเรื่องราวเพื่อปรับภาพลักษณ์เชิงบวกออกสู่สายตาชาวโลก ขณะเดียวกันผู้สังเกตการณ์ในจีนกล่าวว่าการออกมาประกาศครั้งนี้ของสีจิ้นผิงเป็นการยอมรับกลายๆ ว่าเป็นผลจากการทูตแบบ “Wolf Warrior” ที่ก้าวร้าว
อีกทั้งการประชาสัมพันธ์ชวนเชื่อกับนโยบายขยายอิทธิพลในต่างประเทศยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ ซึ่งน้อยนักที่จะเห็นการยอมรับถึงแนวทางที่ไม่ได้ผลของผู้นำจีนเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม Wu Qiang นักวิเคราะห์ของจีนกล่าวว่าดูเป็นไปได้ยากที่จีนจะละทิ้งท่าทีก้าวร้าวลงได้ และไม่น่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากนักในทิศทางการทูตแบบจีน หากมีอาจจะเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่จะทำให้จีนได้ผลลัพธ์ที่ตนพอใจ
- นักวิเคราะห์คาดความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน จะยังคงเหมือนสมัยทรัมป์
- ทำความรู้จัก “Quad” ภาคี 4 ฝ่ายต้านจีน: สหรัฐฯ ญี่ปุ่น อินเดีย และออสเตรเลีย
- สหรัฐร่วมมือพันธมิตร เพิ่มบทบาทนำในเอเชีย
ที่มา: South China Morning Post
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา