เจาะกลยุทธ์: ทำไม KBank ส่ง Beacon VC ร่วมลงทุนใน T2P ฟินเทคสตาร์ทอัพด้าน e-Wallet แบบ B2B2C

ไขคำตอบ ทำไมธนาคารกสิกรไทยส่ง Beacon VC เข้าลงทุนเชิงกลยุทธ์ใน บริษัท T2P ฟินเทคสตาร์ทอัพ ผู้ให้บริการ e-Wallet ให้ลูกค้าองค์กรในแบบ B2B2C

ธนาคารกสิกรไทย ส่ง Beacon Venture Capital (Beacon VC) เข้าลงทุนเชิงกลยุทธ์ใน บริษัท T2P ฟินเทคสตาร์ทอัพที่โดดเด่น และมีประสบการณ์ยาวนานในการให้บริการโซลูชันการเงินให้กับลูกค้าองค์กรธุรกิจในรูปแบบ B2B2C

คุณธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการของบริษัท Beacon VC พูดถึงนโยบายการลงทุนของบริษัทเอาไว้ว่า “จะมุ่งเน้นการมองหาและร่วมสนับสนุนสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ และมีนวัตกรรมหรือบริการที่สามารถต่อยอดบริการต่างๆ ของธนาคารกสิกรไทย” 

คำถามที่น่าสนใจก็คือ ทำไม Beacon VC ถึงต้องเลือก T2P? ฟินเทคด้าน e-Wallet แบบ B2B2C รายนี้ จะเข้ามาเสริมเติมเต็มบริการด้านการเงินของธนาคารกสิกรไทยได้อย่างไร? Brand Inside จะพาทุกท่านไปหาคำตอบพร้อมๆ กันในบทความนี้

T2P กับจุดแข็ง e-Wallet แบบ B2B2C

ทวีชัย ภูรีทิพย์ ประธานบริหาร และหนึ่งในผู้ก่อตั้งของ T2P เล่าถึงบริษัทให้ฟังว่า T2P คือฟินเทคที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านการพัฒนาแพลตฟอร์มและโซลูชันเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ครบวงจรมาตั้งแต่ปี 2011

นายทวีชัย ภูรีทิพย์ ประธานบริหาร และหนึ่งในผู้ก่อตั้งของ T2P

T2P ตอบโจทย์ทั้งธุรกรรมการเงินและธุรกรรมต่อเนื่องเพื่อเสริมความสัมพันธ์ลูกค้า จึงทำให้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าองค์กรอย่างมาก และในปัจจุบัน T2P มีลูกค้าองค์กรกว่า 30 องค์กร ซึ่งมีฐานลูกค้ารายย่อยขององค์กรรวมกว่า 9 ล้านบัญชี

ที่ผ่านมา T2P เติบโตได้ถึง 70% ให้การโซลูชันด้านการเงินได้แบบครบวงจร ตั้งแต่การยืนยันตัวตนผ่านระบบ e-KYC ให้บริการ White label e-Wallet ได้รับอนุญาตจาก VISA ให้ออกบัตรเองได้โดยไม่ต้องผ่านธนาคาร เพื่อให้ลูกค้าองค์กรธุรกิจสามารถชำระค่าสินค้าและบริการผ่านตามช่องทางที่หลากหลายทั่วประเทศ

T2P จะเสริมแกร่งบริการทางการเงินได้อย่างไร?

คุณศุภนีวรรณ จูตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เล่าให้ฟังว่า การลงทุนของ Beacon VC ใน T2P จะทำให้ธนาคารสามารถพัฒนา e-Wallet ที่มีศักยภาพตอบโจทย์ลูกค้าองค์กรของธนาคารที่มีอยู่ได้ นอกจากนี้ ยังจะช่วยให้ประสบการณ์ในการทำธุรกรรมระหว่างธนาคาร e-Wallet และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ดีขึ้น ตอบโจทย์ลูกค้าองค์กรของ T2P กว่า 30 องค์กร

คุณศุภนีวรรณ เล่าต่อว่า T2P จะเข้ามาช่วยเชื่อมโยงกับลูกค้า แบบ Seamless Integration พัฒนา API เพื่อเชื่อมต่อบริการการเงินต่างๆ ของธนาคารกสิกรไทยกับลูกค้า โดยให้บริการ e-Wallet ในรูปแบบ White Label ซึ่งเป็นจุดแข็งของ T2P เช่น เติมเงิน ชำระเงิน และถอนเงิน ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบครันมากขึ้น 

อีกหนึ่งอย่างที่ T2P เข้ามาเติมเต็ม คือการนำ e-Wallet เข้ามาเสริมศักยภาพบริการสินเชื่อดิจิทัล (Digital Lending) ที่มีความต้องการที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น ธนาคารสามารถใช้ e-Wallet ควบคุมการใช้จ่ายสินเชื่อผ่านช่องทางหรือร้านค้าที่กำหนดและถูกต้องตามวัตถุประสงค์ รวมถึงเป็นตัวช่วยในการตัดชำระรายการสินเชื่อคงค้าง ช่วยให้ความเสี่ยงในการขยายสินเชื่อแบบดิจิทัลลดลง

นอกจากนี้ ด้วยฐานลูกค้ารายย่อยของลูกค้าองค์กรของ T2P ที่มีกว่า 9 ล้านราย ช่วยให้ธนาคารกสิกรไทยสามารถส่งมอบบริการทางการเงินให้กับผู้ที่ยังไม่สามารถเข้าถึง Digital Banking ได้

สรุป

การร่วมมือในครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากแต่ละฝ่ายมองเห็นศักยภาพที่จะเข้ามาเติมเต็มกันและกัน ธนาคารกสิกรไทยมีศักยภาพในการรองรับฐานลูกค้าขนาดใหญ่ของลูกค้าองค์กรธุรกิจของที่มีสมาชิกใช้บริการเป็นจำนวนมาก และจะทำให้สมาชิกเหล่านั้นเข้าถึงบริการด้านระบบการเงินยุคใหม่ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ การลงทุนในครั้งนี้ยังเพิ่มศักยภาพการรองรับดิสรัปชันของเทคโนโลยีด้านการเงินด้วยการพัฒนาและขยายบุคคลากรด้านไอทีให้มีความพร้อมสร้างสรรค์ไอเดียและตอบรับนวัตกรรมใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา