บล็อกเชน คืออะไรนะ!? มาทำความรู้จักพร้อมทั้งประโยชน์ง่ายๆ ภายใน 5 นาทีกัน!

เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมานี้ หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์หลายฉบับ คงจะหนีไม่พ้นข่าวคราวของวงการ Fintech ประเทศไทยกันครับ ไม่ว่าจะเป็นการจัดงาน Techsauce Summit หรือการประกาศตัวของบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งถึงความสนใจในอุตสาหกรรมนี้ ดังนั้นเราคงปฏิเสธกันไม่ได้แล้วว่า หนึ่งในเคลื่อนลูกใหม่ที่น่าจับตามองแห่งศตวรรษนี้ ก็คือ Fintech หรือ Financial Technology นั่นเอง

แต่ Fintech ก็สามารถแบ่งย่อยลงไปอีกได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับ การชำระค่าสินค้าและบริการ การลงทุน หรือแม้แต่การโอนเงิน ฟังดูเยอะแยะมากมายเลยใช่มั้ยล่ะครับ แต่ก่อนที่จะไปทำความรู้จักกับแต่ละอย่าง วันนี้เราอยากพาคุณไปทำความรู้จักกับเทคโนโลยีหนึ่ง ที่ไม่เพียงแต่จะเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางการเงินที่ได้กล่าวมาทั้งหมด แต่ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับธุรกิจอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งก็คือ เทคโนโลยีบล็อกเชน นั่นเอง

blockchain2
Credit Image: Vimeo.com

บล็อกเชน (Blockchain) คืออะไร?

บล็อกเชนเปรียบเสมือนเครือข่ายการเก็บข้อมูลแบบหนึ่ง ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและได้รับข้อมูลเดียวกัน เราจึงรู้ว่าใครมีสิทธิและเป็นเจ้าของข้อมูลเหล่านี้จริงๆ โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บอยู่ในแต่ละบล็อก (Block) ที่เชื่อมโยงกันบนเครือข่ายเหมือนกับห่วงโซ่ (Chain) นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้เราเรียกรูปแบบการเก็บและแชร์ข้อมูลแบบนี้ว่า Blockchain ครับ

นอกจากนี้ เมื่อธุรกรรมต่างๆ ถูกบันทึกในบล็อกเหล่านี้แล้ว เราจะไม่สามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลใดๆ ได้ เพราะทุกคนต่างก็มีสำเนาหรือประวัติการทำธุรกรรมทั้งหมดอยู่กับตัว จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ที่ใครจะมาปลอมแปลงข้อมูล โดยปราศจากการรับรู้จากผู้คนส่วนใหญ่

แล้วบล็อกเชนนี้ จะมาเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่ของเราได้อย่างไร…

blockchain1

ลองจินตนาการดูว่า ถ้าตอนนี้เรามีปลากระป๋องอยู่ในมือกระป๋องหนึ่ง แล้วเราต้องเอาปลากระป๋องนี้ไปชดใช้เพื่อนที่เราไปแย่งเค้ากินมา เพื่อที่จะได้มีหลักฐานไปยืนยันกับคุณครูว่าเราสำนึกผิดแล้ว เราก็ควรที่จะพาใครสักคนนึงไปเป็นพยาน เพียงเท่านี้เรื่องทุกอย่างก็สามารถจบลงได้ อย่างง่ายดายครับ

แต่ว่าวันเวลาผ่านไป การส่งของระหว่างกันก็ทำได้ยากมากยิ่งขึ้น แล้วเพื่อนของเราก็อาจจะเรื่องมากยิ่งขึ้นด้วยก็ได้ ถ้าเพื่อนของเราขอเปลี่ยนจากปลากระป๋องเป็นบัตรส่วนลดเกมส์ออนไลน์ล่ะ เราจะแน่ใจได้ยังไงว่าบัตรที่เราซื้อมาคืนเพื่อนนั้นยังไม่เคยถูกใช้มาก่อน หรือไม่ใช่ของปลอมที่ร้านเกมส์ทำหลอกขึ้นมา หรือแม้กระทั่งเพื่อนของเราจะเชื่อใจเราอีกครั้งได้อย่างไร หลังจากที่เค้าเคยถูกแกล้งมาแล้ว เอาล่ะสิ ปัญหาโลกแตกเกิดขึ้นมาแล้ว เราจะแก้ไขกันยังไงดีล่ะครับ?

ปัญหานี้อาจจะแก้ไขได้ ถ้าเราสามารถย้อนรอยกลับไปหาที่มาของบัตรส่วนลดอันนั้นว่ามีจุดเริ่มต้นมาจากที่ไหน? เป็นของบริษัทเกมส์จริงรึเปล่า? มีใครเคยใช้แล้วรึยัง? หลายคนอาจจะบอกว่าลองกลับไปดูที่สมุดจดบันทึกหรือสมุดบัญชีของบริษัทเกมส์และบริษัทอื่นๆที่บัตรส่วนลดนี้ถูกซื้อต่อกันมาดูสิ จะได้รู้ว่าจริงๆ แล้วบัตรนี้เคยถูกเปิดใช้งานแล้วรึยัง แต่นี่มันไม่ง่ายเลยใช่มั้ยล่ะครับ ขั้นตอนต่างๆทั้งยุ่งยากและเสียเวลา ไหนจะต้องติดต่อคนนู้น คนนี้ กว่าจะรู้อีกทีบัตรส่วนลดอันนี้คงหมดอายุไปแล้ว แถมบางทีข้อมูลจากแต่ละบริษัทก็ไม่เหมือนกัน เราก็ต้องมานั่งปวดหัวอีกว่า อันไหนจริงหรืออันไหนมั่ว

นี่แหละครับ จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่บล็อกเชนถูกสร้างขึ้นมา ทุกคนสามารถตรวจสอบหรือเข้าถึงการจดบันทึกธุรกรรมต่างๆ ได้ นี่ไม่เพียงแต่จะช่วยลดความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นในการทำงานของแต่ละองค์กร แต่ยังสามารถช่วยเพิ่มความสบายใจให้กับทุกๆ ฝ่ายได้อีกด้วย

เทคโนโลยีที่เชื่อมโยงข้อมูลของพวกเราแต่ละคนเข้าด้วยกัน ก็คือ บล็อกเชนครับ และสิ่งที่เราให้ใช้เป็นโทเคนเพื่อส่งต่อกันไปมาในระบบนี้อย่างบัตรส่วนลดที่เรายกตัวอย่างไป ก็คือบิทคอยน์ นั่นเอง เห็นมั้ยล่ะครับ ว่าทั้งสองอย่างนี้สามารถมาปรับปรุงและเปลี่ยนชีวิตของเราได้มากขนาดไหน ถ้าเรามองในมุมของการเงิน เราสามารถโอนบิทคอยน์เพื่อดำเนินธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เช่นการโอนหรือรับเงินได้ โดยไม่ต้องไปติดต่อตัวกลาง หรือบุคคลที่สาม สี่ หรือห้า ให้วุ่นวายเพียงแค่มีโทรศัพท์มือถือและอินเตอร์เน็ต ทำให้ค่าใช้จ่ายและบริการต่างๆ นั้นถูกลง แต่ข้อมูลที่ได้นั้นมีความน่าเชื่อถือและแม่นยำมากยิ่งขึ้นด้วย

blockchain4
Credit Image: flickr.com

บล็อกเชนกับอุตสาหกรรมอื่นๆ

นอกจากการใช้บล็อกเชนเพื่อโอนบิทคอยน์แล้ว เรายังสามารถใช้บล็อกเชนเพื่อโอนถ่ายข้อมูลหรือมูลค่าอื่นๆ ได้ด้วยครับ เช่น นายหน้าขายที่ดินที่ประเทศจีนอาจจะอยากทำ smart contract กับลูกค้ามหาเศรษฐีชาวซาอุดิอาระเบีย เพื่อให้การติดต่อสื่อสารข้ามโลกนี้เป็นไปได้อย่างสะดวก อีกทั้งเต็มไปด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ ข้อมูลตรงกันทั้งสองฝ่าย เทคโนโลยีบล็อกเชนจึงเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ ที่จะเข้ามาเป็นตัวกลางเติมเต็มความต้องการของทั้งสองฝ่ายได้

เห็นมั้ยล่ะครับ เทคโนโลยีต่างๆ ไม่ใช่เรื่องยาก หรือไกลตัวพวกเราเลย ลองเปิดใจยอมรับมันสักนิดนะครับ แล้วเราทุกคนจะพบว่า โลกใบเดิมของเรา จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป 🙂

สำหรับใครที่สนใจอ่านข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนและบิทคอยน์ ลองมาอ่านบทความต่างๆ หรือค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่ www.coins.co.th หรือจะติดตามกันทางเฟซบุ๊ค coins.co.th ก็ได้นะครับ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

ก่อนที่ คุณจิรายุส (ท็อป) ทรัพย์ศรีโสภา CEO&Co-Founder ของ coins.co.th จะเล็งเห็นถึงโอกาสและศักยภาพของเทคโนโลยีบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิตัล เขาเคยทำงานเป็น Investment Banker และ Financial Consultant มาก่อน อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในการทำงานที่ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยคุณท็อปจบการศึกษาด้าน Economics จาก Oxford University และเป็นแฟนตัวยงของทีมฟุตบอล Manchester United