ในยุคนี้ การขยับไปลงทุนในบริษัท สตาร์ทอัพ หรือธุรกิจใดๆ ก็ตามของ SoftBank เป็นก้าวที่น่าติดตาม โดยเฉพาะอภิมหากองทุน Vision Fund ที่ระดมทุนไปเกือบ 1 แสนล้านดอลลาร์ ไปดูกันว่าตอนนี้ใช้เงินไปเท่าไหร่ และลงทุนในอะไรไปแล้วบ้าง?
หลังจากที่ SoftBank ระดมทุนในอภิมหากองทุน Vision Fund ไปได้ราว 1 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อช่วงกลางปี 2017 จนขึ้นแท่นเป็นกองทุนสายเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก
คำถามที่หลายคนอยากรู้คือ ผ่านมาประมาณครึ่งปีเศษ อภิมหากองทุนนี้ ใช้เงินไปเท่าไหร่ และได้ลงทุนในอะไรไปบ้าง?
จากคำให้สัมภาษณ์ของ Masayoshi Son เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้ บอกไว้ว่า “จำนวนบริษัททั้งหมดที่ Vision Fund เข้าไปลงทุนมีทั้งหมด 26 ราย และแต่ละรายคือเบอร์ 1 ของผู้เล่นในตลาดทั้งหมด”
- ถ้าใครยังไม่รู้จักซีอีโอของ SoftBank แนะนำให้ อ่านประวัติ Masayoshi Son พ่อมดนักลงทุนแห่ง SoftBank จากไม่มีอะไร สู่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาทิตย์อุทัย
อภิมหากองทุน Vision Fund ใช้เงินไปเท่าไหร่แล้ว?
ถ้าเปิดดูงบการเงินของ SoftBank ในหมวดการลงทุนของ Vision Fund เมื่อปลายปีที่ผ่านมา จะพบว่า ใช้เงินลงทุนผ่านอภิมหากองทุนนี้อยู่ที่ 2.97 หมื่นล้านดอลลาร์
แต่ถึงวันนี้ จะนับแค่นั้นไม่ได้ เพราะเริ่มต้นปี 2018 มายังไม่พ้น 2 เดือนดี อภิมหากองทุนนี้ก็ลงทุนเพิ่มก้อนใหญ่ใน Uber และนอกจากนั้นยังมีการลงทุนในสตาร์ทอัพรายเล็กรายน้อยอีกหลายราย
Brand Inside รวบรวมการลงทุนของอภิมหากองทุน Vision Fund ของ SoftBank เพียงกองทุนเดียวเท่านั้น (ไม่รวม Delta Fund) พบว่า จนถึงวันนี้อภิมหากองทุน Vision Fund ได้ลงทุนไปเฉียด 4 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1 ใน 3 ของอภิหากองทุนแล้วนั่นเอง
อภิมหากองทุน Vision Fund ลงทุนในอะไรไปบ้าง?
สำหรับการลงทุนในบริษัทต่างๆ ของอภิมหากองทุน Vision Fund ของ SoftBank ในช่วงครึ่งปีเศษ หลังการก่อตั้งกองทุน มีดังนี้ (เรียงจากการลงทุนที่มีมูลค่าสูงไปน้อย)
- Uber : อันดับ 1 หนีไม่พ้น ดีลยิ่งใหญ่เริ่มต้นปี 2018 ผ่านกองทุน Vision Fund คือการลงทุนใน Uber ถึง 9.3 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ SoftBank เข้าถือหุ้นใน Uber ถึง 15%
- ARM Holdings : หลังจากที่ SoftBank ได้ซื้อกิจการของ ARM Holdings บริษัทผู้เป็นเจ้าของเทคโนโลยีซีพียูตระกูล ARM ในปี 2016 หลังจากนั้นในปี 2017 อภิมหากองทุน Vision Fund ของ SoftBank ได้ลงทุนต่อเนื่องถึง 8.2 พันล้านดอลลาร์
- NVIDIA : มีการลงทุนใน NVIDIA บริษัทผลิตการ์ดจอเกม ถึง 5 พันล้านดอลลาร์ ส่วนใครที่อยากทำความรู้จักกับซีอีโอของ NVIDIA เชิญอ่านได้ที่ Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia จากการ์ดจอเกม สู่ A.I., Cryptocurrency เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก
- WeWork : สตาร์ทอัพ co-working space รายใหญ่ เบอร์ 1 ของโลกก็ไม่รอดพ้นสายตาอภิมหากองทุนนี้ไปได้ เพราะมีการลงทุนถึง 4.4 พันล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา
- Flipkart : ยักษ์ใหญ่ E-Commerce ในประเทศอินเดีย ได้รับเงินลงทุนจากอภิมหากองทุนนี้ไปถึง 2.5 พันล้านดอลลาร์
- OneWeb : สตาร์ทอัพแพลตฟอร์มสำหรับพัฒนาซอฟต์แวร์ ได้รับเงินลงทุนไปถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์
-
Roivant : บริษัทไอทีสาย Health Care ได้รับเงินลงทุนไปถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์
- Fanatics : ค้าปลีกอุปกรณ์กีฬาออนไลน์จากสหรัฐอเมริกา ได้รับเงินลงทุนไป 1 พันล้านดอลลาร์
- SoFi : สตาร์ทอัพให้กู้ยืมเงินจากซานฟรานซิสโก ได้รับเงินลงทุนไป 1 พันล้านดอลลาร์
- Katerra : สตาร์ทอัพไอทีสายออกแบบ-ก่อสร้างที่มาแรงรายนี้ ได้รับเงินลงทุนไป 870 ล้านดอลลาร์
-
Improbable : สตาร์ทอัพสายพัฒนาเทคโนโลยี AR/VR ได้รับเงินลงทุนไป 500 ล้านดอลลาร์
- Vir : บริษัทสาย Bio-tech ที่ใช้ AI มาพัฒนายารักษาโรค ได้รับเงินลงทุนไป 500 ล้านดอลลาร์
- Auto1 : สตาร์ทอัพแพลตฟอร์มดีลเลอร์รถยนต์ออนไลน์จากเยอรมนี ได้รับเงินลงทุนไปถึง 460 ล้านดอลลาร์ *ตัวนี้มาใหม่ ลงทุนเมื่อต้นปี 2018 ยังไม่มีข้อมูลในงบการเงินของ SoftBank*
-
Compass : สตาร์ทอัพสายอสังหาริมทรัพย์รายนี้ ได้รับเงินลงทุนไป 450 ล้านดอลลาร์
- Guardant Health : บริษัทสาย Bio-tech อีกรายที่ใช้การทดสอบเลือดเพื่อตรวจจับเซลล์มะเร็ง ได้รับเงินลงทุนไป 360 ล้านดอลลาร์
- Wag : แม้กระทั่ง สตาร์ทอัพแอพพลิเคชั่นพาสุนัขไปเดินเล่น ยังได้รับเงินลงทุนไปถึง 300 ล้านดอลลาร์ *ตัวนี้ก็ยังไม่มีในงบการเงินของ Softbank เช่นกัน เพราะลงทุนในต้นปี 2018*
- OYO : บริษัทสายจองโรงแรมออนไลน์ ได้รับเงินลงทุนไป 250 ล้านดอลลาร์
- Slack : แอพพลิเคชั่นแชทสำหรับทำงานภายในองค์กร ได้รับเงินลงทุนไป 250 ล้านดอลลาร์
- Plenty : สตาร์ทอัพสายเกษตรที่มีความโดดเด่นคือการปลูกพืชแนวตั้งในที่ร่ม ได้รับเงินลงทุนไป 200 ล้านดอลลาร์ Brand Inside เคยนำเสนอเรื่องนี้ไว้ อ่านได้ที่ เทรนด์ทำฟาร์มแนวตั้งในร่มมาแรง! SoftBank ทุ่ม 200 ล้านเหรียญ ลงทุนในสตาร์ทอัพ Plenty
- Mapbox : แพลตฟอร์มแผนที่ออนไลน์สำหรับนักพัฒนา ได้รับเงินลงทุนไป 160 ล้านดอลลาร์
- Nauto : สตาร์ทอัพสาย AI ที่ทำเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่โดยเฉพาะ ได้รับเงินลงทุนไป 160 ล้านดอลลาร์
- Brain Corp. : บริษัทนักพัฒนาสาย AI ที่ทำเรื่องรถยนต์ไร้คนขับ ได้รับเงินลงทุนไป 110 ล้านดอลลาร์
อภิมหากองทุน Vision Fund ยังเหลือเงินอยู่อีกถึง 2 ใน 3 และในปีนี้จะระดมทุนเพิ่มให้ครบ 1 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2018 (ตอนนี้ระดมทุนมาได้ 9.8 หมื่นล้านดอลลาร์แล้ว) นอกจากนั้น SoftBank ยังเคยประกาศกร้าวไว้ว่า ก้าวต่อไปของอภิมหากองทุน Vision Fund คือระดมทุนให้ใหญ่กว่านี้อีก 10 เท่า และลงทุนในบริษัทสายเทคโนโลยีอีกกว่า 1,000 แห่งทั่วโลกภายใน 10 ปีนี้ ต้องติดตามกัน
อ้างอิง – Recode [1], [2],techcrunch, SoftBank
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา