8 วัน คนไทยอยู่ได้โดยไม่ต้องใช้เงินสด Contactless ทางเลือกใหม่มาแรง

คำว่า Cashless Society ได้ยินกันมาหลายปีแล้ว มีความพยายามผลักดันให้เกิดการทำธุรกรรมโดยหลีกเลี่ยงเงินสด อาจจะใช้บัตรเครดิต, บัตรเดบิต หรือ Mobile Payment อื่นก็ได้ แต่ เงินสด ก็ยังเป็นรูปแบบที่นิยมมากที่สุด

visa

สุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย บอกว่า วีซ่า ได้ทำการสำรวจทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคประจำปีของวีซ่า จากผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 7,500 คนในแปดประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึง 1,000 คนในประเทศไทย พบว่า คนไทย 4 ใน 5 คนได้ทดลองใช้ชีวิตโดยไม่พึ่งเงินสดได้นานถึง 8 วัน 

ยิ่งกว่านั้น มีคนไทย 68% บอกว่า 24 ชั่วโมงจากนี้แม้ไม่มีเงินสดสักบาท ก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้

ทั้งหมดสะท้อนแนวคิดที่ว่า แม้ไม่มีเงินสดติดตัวก็สามารถอยู่ได้ และถ้าไม่มีเงินเป็นระยะเวลาหลายวันก็ไม่มีปัญหา เพราะสามารถใช้จ่ายด้วยวิธีอื่นได้สะดวกมากขึ้น และตัวเร่งสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ โควิด-19

visa

มุมมองต่อจุดเด่นที่เปลี่ยนไปของ Cashless Society

ตามปกติสังคมไร้เงินสด หรือ Cashless Society เป็นที่รู้กันว่า ช่วยเรื่องความปลอดภัยในทรัพย์สิน อำนวยความสะดวกถือเป็นเรื่องหลัก แต่จากการสำรวจล่าสุดของวีซ่า พบว่า

  • 61% มองว่า ช่วยลดโอกาสการแพร่เชื้อ โควิด-19
  • 60% มองว่า ไม่ต้องต่อคิวในธนาคาร
  • 59% มองว่า ตรวจสอบการใช้จ่ายต่างๆ ได้
  • 55% มองว่า ลดความเสี่ยงจากการโจรกรรมและอาชญากรรม

และด้วยข้อดีเหล่านี้ ทำให้คนไทยครึ่งหนึ่งหรือ 51% บอกว่า พวกเขาพกเงินสดในกระเป๋าน้อยลง ไม่ใช่ว่ามีเงินน้อยลง แต่เพราะไม่จำเป็นต้องพกเงินสดจำนวนมากแล้ว และเชื่อว่า ในปี 2026 ประเทศไทยจะสามารถก้าวสู่ Cashless Society ได้เต็มรูปแบบ จากเดิมที่เคยเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในปี 2030

visa

แตะเพื่อจ่าย ทางเลือกที่คนไทยใช้มากขึ้น

วีซ่า มีการผลักดันการใช้จ่ายแบบคอนแทนเลส ในการแตะเพื่อจ่าย มาโดยตลอด ช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่า มีผู้บริโภคและผู้ให้บริการนำระบบคอนแทคเลส ไปรองรับการชำระเงินกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การแตะเพื่อจ่ายในการเติมน้ำมัน, แตะเพื่อจ่ายในการขึ้นทางด่วน, แตะเพื่อจ่ายในการใช้บริการรถประจำทาง หรือซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ส่วนสำคัญคือต้องมี บัตรที่รองรับระบบคอนแทคเลส หรือมีแอปพลิเคชั่น บนมือถือ เพื่อชำระเงินผ่านช่องทางนี้

จากการสำรวจล่าสุดพบว่า 1 ใน 4 ของคนไทยเริ่มใช้บัตรที่รองรับการชำระเงินในรูปแบบคอนแทคเลส กันมากขึ้น เช่น บัตรเครดิตและเดบิตในรูปแบบคอนแทคเลสของวีซ่า ที่มีสัญลักษณ์เหมือนคลื่นไวไฟกลับหัว หลายคนมีอยู่แล้วในกระเป๋าแต่ไม่เคยใช้ ก็ได้เริ่มใช้กันในปี 2020 ที่ผ่านมาบางคนไม่ใช้บัตร แต่ใช้วิธีการชำระเงินไร้สัมผัสผ่านสมาร์ทโฟน โดยมีสัดส่วน 1 ใน 4 เช่นเดียวกัน 

QR Code คือหนึ่งในวิธีการชำระเงินที่คนไทยคุ้นเคย

การชำระเงินในรูปแบบคอนแทคเลสอีกวิธีการนึงที่คนไทยคุ้นเคยกันอย่างดีคือการชำระเงินผ่าน QR Code โดยการใช้มือถือเพื่อสแกนจ่ายเงิน และ 1 ใน 5 ของคนไทย ก็เริ่มใช้จ่ายผ่าน QR Code ในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้สามารถสแกนจ่ายเงินทันที หรือสแกนจ่ายด้วยบัตรเครดิตก็ได้เพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการชำระเงินในรูปแบบคอนแทคเลส วิธีไหน คนไทยก็มองว่าเป็นการเพิ่มความสะดวกสบาย ไม่ต้องพกเงินสด และลดโอกาสในการติดเชื้อ โควิด-19 ได้อีกด้วย

โดยจากการสำรวจพบว่า การชำระเงินในรูปแบบคอนแทคเลสที่คนไทยคุ้นเคยมากที่สุดคือ การชำระเงินผ่าน QR Code 94% ตามมาด้วยการชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟน 92% และแตะเพื่อจ่ายผ่านบัตร 89%

visa

จับตา 5 ทิศทางการใช้จ่ายเงินทั่วโลก

  1. Contactless Payments มาแรงทั่วโลกเพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 บางประเทศพบว่ามีการใช้งานสูงถึง 95% เช่น สิงคโปร์ โดยตัวเลขเฉลี่ยทั่วโลก การชำระเงินในรูปแบบคอนแทคเลสผ่านวีซ่า อยู่ที่ 60% ขณะที่ประเทศไทยอยู่ที่ 20% ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นวิธีการที่เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
  2. “On demand” Everything บริการหลายอย่างในโลกก้าวไปสู่ความเป็น On Demand ที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ Food Delivery ที่ทำให้การชำระเงินในรูปแบบดิจิทัล เช่นการผูกบัตรเข้ากับแอปพลิเคชั่นสั่งอาหารได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น
  3. eCommerce In Real Life เช่น บริการสั่งออนไลน์จ่ายตังค์แล้วเดินไปรับสินค้าหรือบริการตามเวลาที่แจ้งไว้ เช่น บริการของร้านสตาร์บัคส์ เพื่อลดการอยู่ในพื้นที่สาธารณะเป็นเวลานานๆ
  4. Marketplace & Digital Platforms จะเป็นช่องทางค้าขายหลักมากขึ้นสำหรับผู้ขายรายย่อย และในเมืองไทยก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สินค้าและบริการอาจคล้ายกันแต่ผู้ขายสามารถสร้างความแตกต่างได้ด้วยการบริการ เช่น การเปิดรับการชำระเงินรูปแบบดิจิทัลที่สะดวกกว่าสำหรับผู้ซื้อ
  5. Opening of Closed Commerce Ecosystem บริการทางการเงินเปลี่ยนจากคู่แข่งมาเป็นพันธมิตร บริการ Wallet ต่างๆ ธนาคาร ฟินเทค และเครือข่ายชำระเงินอย่างวีซ่าต่างจับมือกัน เชื่อมต่อถึงกัน และใช้งานข้ามระหว่างกันได้มากขึ้น

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา