Unilever ประกาศแบนไม่ร่วมงานกับ Influencer ที่ซื้อผู้ติดตาม

Unilever หนึ่งในแบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกได้ประกาศนโยบายใหม่ที่งาน Cannes Lions Festival ว่าจะไม่ร่วมงานกับ Influencer ที่ซื้อจำนวนผู้ติดตามอีกต่อไป เพราะต้องการต่อต้านการฉ้อโกงในโลกดิจิทัล

Influencer Marketing กลายเป็นอาวุธทางการตลาดที่นิยมอย่างมากในยุคนี้ เพราะผู้บริโภคมักติดตามคนมีชื่อเสียงบนโลกออนไลน์ ทำให้แบรนด์สามารถสร้างการรับรู้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งใครๆ ก็สามารถเป็น Influencer ได้ แค่มีจำนวนคนติดตาม หรือ Follower เยอะๆ ก็ขึ้นชื่อว่ามีอิทธิพลแล้ว หลายคนจึงเลือกวิธีซื้อผู้ติดตามเพื่อให้ตัวเองดูน่าเชื่อถือนั่นเอง

แต่ยุคนี้หลายแบรนด์เริ่มตระหนักถึงจุดนี้มากขึ้น การเลือก Influencer ในการร่วมแคมเปญไม่ได้ดูแค่จำนวนผู้ติดตาม แต่ต้องดูกลุ่มเป้าหมายด้วย และเริ่มมีการเคลื่อนไหวของแบรนด์ใหญ่ๆ อย่าง Unilever ที่ออกมาประกาศชัดเจนเลยว่าจะขอแบน ไม่ร่วมงานกับ Influencer ที่ทำการซื้อยอดคนติดตาม

เหตุผลของ Unilever ส่วนหนึ่งก็คือต้องการให้ตระหนักถึงความโปร่งใส ความถูกต้อง รวมไปถึงเรื่องของการวัดผลบนโซเชียลมีเดีย ต้องการให้มีการวัดผลในแคมเปญที่แม่นยำที่สุด ซึ่ง Unilever ก็ยืนยันชัดเจนว่าบริษัทไม่มีการซื้อยอดผู้ติดตามเช่นกัน

ทางผู้บริหารของ Unilever ยังบอกอีกว่า Influencer Marketing มีการเติบโตอย่างรวดเร็วจนบางทีควบคุมไม่อยู่ ทำให้แบรนด์ต้องลงมาจัดการให้เป็นเรื่องเป็นราว เพื่อสร้างความมั่นใจกับผู้บริโภคก่อนที่จะสายเกินไป เพราะต้องยอมรับว่า Influencer เป็นเหมือนตัวแทนของแบรนด์ที่คุยกับผู้บริโภค จึงต้องมีการคัดเลือกดีๆ มิเช่นนั้นจะกระทบกับแบรนด์ได้

Influencer ในยุคนี้มีรายได้ที่มากขึ้นเช่นกัน จากข้อมูลที่เก็บรวบรวมโดย Captiv8 พบว่า Influencer ที่มีผู้ติดตามราว 100,000 คน จะมีเรทราคาในการลลงโฆษณา 2,000 เหรียญ ในขณะที่ Influencer ที่มีผู้ติดตามเกิน 1 ล้านคน จะได้ค่าโฆษณาถึง 20,000 เหรียญ

สิ่งที่ Unilever ทำให้ครั้งนี้เพื่อต้องการสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมาด้วย เพราะตอนนี้นักการตลาดกำลังอยุ่ในช่วงหลอกตัวเองเพราะสามารถซื้อได้ทุกอย่างบนโลกออนไลน์ จึงต้องทำทุกอย่างให้โปร่งใส สามารถวัดผลได้แบบสมบูรณ์

Source

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา