ครบ 1 ปีในไทย Under Armour เปิด Brand House ใหญ่สุดในอาเซียน

IMG_4271_resize

Under Armour (อันเดอร์ อาร์เมอร์) แบรนด์ที่เริ่มต้นธุรกิจในห้องใต้ดินและเปิดท้ายรถยนต์เพื่อขายเสื้อยืดระบายความชื้น ปัจจุบันนี่เป็นหนึ่งในแบรนด์เสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาระดับโลก ด้วยอายุ 19 ปี ถือว่ากำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่น จึงไม่น่าแปลกใจที่ Under Armour จะเน้นการออกแบบดีไซน์และสีสันที่ร้อนแรง หวือหวา เพื่อให้ตอบความต้องการคนรุ่นใหม่

วันนี้ Under Armour เดินทางมาครบ 1 ปีในประเทศไทย และเปิด Brand House แห่งใหม่ ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ขนาด 380 ตร.ม. ที่ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ จากเดิมใหญ่ที่สุด 300 ตร.ม. อยู่ที่สิงคโปร์และมาเลเซีย

stephen-curry-under-armour

ต่อไปคนไทยต้องรู้จัก Under Armour

เพราะ Under Armour เริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมากขึ้นในไทย โอกาสในการเพิ่มยอดขายก็ตามมาด้วย ปีที่แล้ว Stephen Curry ซูเปอร์สตาร์ NBA เดินทางมาประเทศฟิลิปปินส์

ไมเคิล บิงเกอร์ ประธานบริหาร และ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ทริปเปิ้ล ผู้จัดจำหน่าย Under Armour แต่เพียงผู้เดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บอกว่า อยากจะดึงให้ Curry มาไทยเช่นเดียวกัน (สามารถอ่านเรื่องราวของ Stephen Curry และ Under Armour ได้ที่นี่ เบื้องหลัง แบรนด์ Under Armour ชิงตัวซูเปอร์สตาร์ Stephen Curry มาจาก Nike)

บิงเกอร์ บอกว่า ตลาด Sport Wear ในภูมิภาคนี้มีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์ และประเทศไทยมีสัดส่วนประมาณ 25% และมีการเติบโตเฉลี่ย 7-10% ต่อปี ขณะที่ Under Armour เติบโตมากกว่านั้น และพยายามขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเปิด Brand House ที่ใหญ่สุดในไทย

160624_Secondary_CURRY2

ทำให้ปัจจุบัน Under Armour  มีทั้งหมด 6 สาขาในกรุงเทพ (สยามเซ็นเตอร์, เมกา บางนา, สเปลล์ฟิวเจอร์ พาร์ค, สยาม พารากอน, เอ็ม โพเรียม, ดิ เอ็ม ควอเทียร์) และภายในปีนี้ มีแผนจะเปิดให้บริการอีก 2 สาขา ที่พัทยา จังหวัดชลบุรี  ในเดือนตุลาคม และจังหวัดภูเก็ต ในเดือนธันวาคม

เป้าหมายคือเพื่อขยายจุดขายให้มากขึ้น ทำให้คนไทยในต่างจังหวัดรู้จัก Under Armour มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันยอมรับว่า Under Armour ในต่างจังหวัดยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ซึ่งต่อไปจะขยายจุดขายอีกอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ซึ่งจะใช้การลงทุนประมาณ 20 ล้านบาทในแต่ละแห่ง

IMG_4378_resize

น้องใหม่ในตลาดกีฬา แต่ไม่ธรรมดาด้วยนวัตกรรม

แนวคิดในการผลิตเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาของ Under Armour มีการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่ครอบคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้า (head-to-toe) ด้วยแนวคิด It comes from below นั่นคือทุกอย่างต้องดีจากรากฐาน Under Armour จึงถูกสร้างเพื่อช่วยให้นักกีฬาแสดงศักยภาพได้ดียิ่งขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายแบบเทรนนิ่งซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของการเล่นกีฬาทุกชนิด

โดยได้เปิดตัวเทคโนโลยี คูลสวิช (CoolSwitch) ในผลิตภัณฑ์คอลเลคชั่น สปริง ซัมเมอร์ 2016 ที่รวม 3 ส่วนประกอบสำคัญหลักเพื่อทำให้ร่างกายมีความเย็นเพื่อให้สามารถแสดงศักยภาพได้สูงสุด

รวมทั้ง UA Drive Oneรองเท้ากอล์ฟคอลเลคชั่นของจอร์แดน สปีธซึ่งมีคุณสมบัติกันน้ำและระบายอากาศได้ดีเยี่ยม

อีกทั้งได้เปิดตัวรองเท้ารุ่น Bandit 2 (แบนดิท ทู) เทคโนโลยีการขึ้นทรงช่วงส้นเท้าแบบไร้รอยต่อ ช่วยให้การวิ่งเป็นไปได้อย่างต่อเนื่องเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการวิ่ง

IMG_4256_resize

ดังนั้น แม้ Under Armour จะเข้ามาในตลาดหลังจาก ADIDAS หรือ NIKE แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะผู้บริโภคต้องการทางเลือกที่มากกว่า และ Under Armour คือทางเลือกสำหรับคนที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาอย่างแท้จริง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา