อังกฤษเปิดตัว ‘เครือข่ายการค้าดิจิทัล’ เสริมความร่วมมือด้านเทคโนโลยีกับเอเชียแปซิฟิก

อังกฤษเปิดตัวเครือข่ายดิจิทัล ขยายเครือข่ายทางธุรกิจ เพิ่มโอกาสทางการค้าและการลงทุนในประเทศแถบเอเชียแปซิฟิก

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา กระทรวงการค้าระหว่างประเทศอังกฤษ (DIT) เปิดตัวโครงการเครือข่ายการค้าดิจิทัลหรือ Digital Trade Network ร่วมกับกระทรวงดิจิทัล วัฒนธรรม สื่อ และกีฬา (DCMS) เพื่อเสริมความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและขยายเครือข่ายทางการค้าระหว่างประเทศอังกฤษและประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิก เช่น ไทย ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย

อังกฤษเล็งเห็นถึงความต้องการที่กำลังเติบโตของตลาดในประเทศแถบเอเชียแปซิฟิกที่มีความต้องการใช้เทคโนโลยีเพิ่มขึ้นหลังเจอวิกฤตโควิด-19 ทั้งในแง่ของการรับมือกับปัญหาห่วงโซ่การผลิตจนถึงการจัดการธุรกิจ E-commerce โดยมองว่าการสร้างเครือข่ายทางการค้าในครั้งนี้จะช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ ทางการค้าและการลงทุน รวมถึงช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาเทคโนโลยีได้สอดคล้องกับความต้องการมากขึ้น

ทั้งนี้ Boris Johnson นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระบุว่า “เรากำลังสร้างเครือข่ายดิจิทัลใหม่ โดยเริ่มในเอเชียแปซิกฟิกเป็นแห่งแรก เพื่อช่วยให้ธุรกิจของเราเข้าถึงตลาดใหม่ๆ เพิ่มเจรจาเกี่ยวกับธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้าเสรีของเรา”

ด้าน นาตาลี แบล็ค ผู้แทนการค้าสหราชอาณาจักรประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า “ปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากทำให้เกิดนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและเพิ่มประสิทธิภาพด้านธุรกิจ ดังที่เราได้เห็นในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 การกระชับความร่วมมือระหว่างสหราชอาณาจักรกับประเทศในเอเชียแปซิฟิกผ่านเครือข่ายการค้าดิจิทัลใหม่นี้จะเปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือใหม่ๆ เพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุน และช่วยให้ทั้งสองฝ่ายนำนวัตกรรมดิจิทัลระดับโลกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้สูงสุด”

Natalie Black

นาตาลี แบล็ค ผู้แทนการค้าสหราชอาณาจักรประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกสำหรับโครงการนี้อังกฤษทุ่มงบประมาณจำนวน 8 ล้านปอนด์ (เกือบ 318 ล้านบาท) และสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านการขยายธุรกิจเทคโนโลยีจาก Tech Nation ให้เข้ามาช่วยดูแลเครือข่ายผู้ประกอบการและสนับสนุนธุรกิจในแถบภูมิภาคเอเชียให้สามารถเข้าถึงกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสำคัญๆ ในประเทศอังกฤษได้

ที่มา: สถานทูตอังกฤษ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา