เจาะกระแส ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง เมื่อ TrueMoney ลงสนาม พร้อมตั้งเป้าลูกค้าใช้งาน 3 ล้านราย

TrueMoney อีวอลเล็ตเบอร์ 1 ในประเทศไทยประกาศลงสนามบริการ Buy Now, Pay Later หรือซื้อก่อนจ่ายทีหลัง อย่างเป็นทางการ พร้อมตั้งเป้ายอดลูกค้าสิ้นปีหน้า 3 ล้านราย ใช้โมเดลรายได้จากดอกเบี้ย-ค่าธรรมเนียม

TrueMoney

TrueMoney กับการลุยตลาด BNPL

ธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด เจ้าของ TrueMoney เล่าให้ฟังว่า กระแส Buy Now, Pay Later เติบโตทั้งในระดับโลก และเอเชีย ผ่านความฉลาดของเทคโนโลยี AI ที่เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าแต่ละรายให้เร็วขึ้น ทำให้ทางบริษัทตัดสินเพิ่มบริการนี้เข้ามาอยู่ใน TrueMoney

“การใช้งาน TrueMoney ของลูกค้าที่ไม่มีบัตรเครติตจำเป็นต้องเติมเงินเข้าระบบก่อน ทำให้ลูกค้าบางรายอาจไม่สะดวก เราจึงนำพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าทั้งหมดมาวิเคราะห์เพื่อให้บริการสินเชื่อในรูปแบบ Buy Now, Pay Later ต่อยอดความเป็น Super App ที่รวมบริการต่าง ๆ เช่น จ่ายเงิน, ลงทุน และเปิดบัญชีธนาคาร เป็นต้น”

สำหรับบริการ Buy Now, Pay Later ของ TrueMoney มีชื่อว่า Pay Next ปัจจุบันมีลูกค้าสมัครใช้งานกว่า 2 ล้านราย จากลูกค้าที่ใช้งาน TrueMoney ที่มีการใช้งาน 1 ครั้ง/ปี ที่ 25 ล้านราย โดยลูกค้ากลุ่มนี้ 80% มีการใช้งานบริการดังกล่าวเป็นประจำ และ 30% มีการจับจ่ายในตัวเงินที่มากขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยปกติ

ตั้งเป้า 3 ล้านรายภายในปี 2023 เพราะมันไม่ง่าย

“เราทดลองบริการนี้มา 1 ปี และได้ฐานลูกค้าสินเชื่อนี้มา 2 ล้านรายก็นับว่าน่าพอใจ เพราะหากเทียบเป็นสถาบันการเงินปกติกว่าจะได้ลูกค้าสินเชื่อ 2 ล้านรายต้องใช้เวลาเป็นสิบปี แต่ถึงอย่างไรในปี 2023 TrueMoney ตั้งเป้าว่าจะมีลูกค้า Pay Next ทั้งหมด 3 ล้านราย”

การจะไปถึงเป้าหมายดังกล่าว TrueMoney วางกลยุทธ์ทั้งการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ พร้อมขยายจุดรับชำระให้มากขึ้นจากปัจจุบันมีร้านค้าออฟไลน์มากกว่า 2 แสนจุด และร้านค้าออนไลน์ 1.5 ล้านราย พร้อมกับเน้นทำตลาดกลุ่มลูกค้าที่มีรายจ่ายมากกว่ารายได้ และลูกค้าที่อยากได้วงเงินเพิ่มเป็นเงินสำรอง

ทั้งนี้บริการ Pay Next จะให้วงเงินสูงสุด 50,000 บาท ผ่อนชำระสูงสุด 36 เดือน โดย TrueMoney จะมีรูปแบบบริการทั้งให้บริการสินเชื่อแบบไม่คิดดอกเบี้ยหากจ่ายเติมจำนวน และคิดดอกเบี้ยอัตราสูงสุด 24%/ปี ในกรณีเลือกผ่อนชำระวงเงิน เป็นต้น

ซื้อก่อนจ่ายทีหลังสะพัด 60,000 ล้านบาท

“มูลค่าตลาดซื้อก่อนจ่ายทีหลังในประเทศไทยสูงถึง 60,000 ล้านบาท ผ่านผู้เล่นที่เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ และหลังจากนี้จะเติบโตขึ้นไปอีกด้วยเทคโนโลยีที่มาช่วยวิเคราะห์ ทำให้ TrueMoney ปล่อยโอกาสธุรกิจนี้หลุดมือไม่ได้ และต้องเติบโตไปด้วยกันทั้งกับลูกค้า รวมถึงพาร์ตเนอร์ธุรกิจต่าง ๆ”

TrueMoney ยืนยันว่า ก่อนให้วงเงินมีการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างถูกต้อง แต่ยังมีโอกาสเกิดหนี้เสียอยู่โดยคิดเป็นส่วนน้อยจากจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการทั้งหมด ซึ่งการเร่งรัดหนี้จะมีขั้นตอน พร้อมกับยกระดับการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเพิ่มความถูกต้องของคะแนนเครดิตลูกค้าแต่ละรายให้มากที่สุด

TrueMoney เริ่มให้บริการปี 2015 บริการแรกคือการเติมเงินเกม และหลังจากนั้นขยายบริการอื่น ๆ เพิ่มเติม พร้อมกับขยายบริการไปในต่างประเทศประกอบด้วย ไทย กัมพูชา เมียนมาร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย โดยเป็นหนึ่งในพันธมิตรของ Ant Financial Services Group ผู้ให้บริการทางการเงินยักษ์ใหญ่จากจีน

สรุป

กระแส Buy Now, Pay Later เริ่มเติบโตในไทย บางรายปูพรมทำตลาดร่วมกับร้านค้าชั้นนำ ใช้โมเดลรายได้จากการหักค่าธรรมเนียมจากผู้ค้า ซึ่งต่างกับ TrueMoney ที่เน้นเรื่องค่าธรรมเนียมฝั่งผู้ใช้ ซึ่งก็ต้องดูว่าโมเดลไหนจะไปได้ดีกว่ากัน

อ้างอิง // TrueMoney

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา