True แถลงผลประกอบการไตรมาส 3 รายได้ 22,600 ล้านบาท

Logo-TRUE

กลุ่มทรู มีรายได้จากการให้บริการโดยรวมเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 19.8 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า เป็นจำนวน 22.6 พันล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2559 ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของรายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตามการขยายตัวของฐานลูกค้าและการใช้งานโมบาย อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ EBITDA เติบโตอย่างแข็งแกร่งถึงร้อยละ 53 จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้าเป็น 6.4 พันล้านบาท ซึ่งไม่รวมกำไรจากการโอนเสาโทรคมนาคมใหม่เข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) ในปี 2558 เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบผลการดำเนินงานได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขยายโครงข่ายและการให้บริการให้ครอบคลุมประชากรทั่วประเทศ รวมถึงการรับรู้ค่าตัดจำหน่ายใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ 900 MHz เต็มไตรมาส ส่งผลให้ กลุ่มทรู รายงานผลขาดทุน จำนวน 2,753.5 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2559

ศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า กลุ่มทรู ยังคงรักษาการเติบโตอย่างเข้มแข็งของรายได้ EBITDA และฐานลูกค้า ได้อย่างต่อเนื่องในไตรมาส 3 ปี 2559 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่กลุ่มธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งทรูมูฟ เอช มีผลประกอบการที่เติบโตโดดเด่น และเหนือกว่าผู้ประกอบการรายอื่นเป็นอย่างมาก ด้วยรายได้จากการให้บริการที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 32 และ EBITDA ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 117 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า

นอกจากนี้ รายได้จากบริการบรอดแบนด์สำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไป ยังคงรักษาการเติบโตสูงในอัตราเลขสองหลัก จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า ในขณะที่ ผลตอบรับที่ดีต่อการถ่ายทอดสดรายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ส่งผลให้รายได้จากค่าสมาชิกที่กลุ่มทรูวิชั่นส์เติบโตเพิ่มขึ้น

ทรูมูฟ เอช ยังคงเติบโตโดดเด่นและต่อเนื่อง ในไตรมาส 3 ปี 2559 จากความแข็งแกร่งในเรื่องเครือข่ายประสิทธิภาพสูงและความครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงการนำเสนอแคมเปญดีไวซ์ร่วมกับค่าบริการได้อย่างคุ้มค่าและตอบสนองความต้องการใช้งานของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ทรูมูฟ เอช เติบโตสูงทั้งในกลุ่มลูกค้าระบบรายเดือน และระบบเติมเงิน ซึ่งมีรายได้เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 29 และร้อยละ 40 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า ตามลำดับ ส่งผลให้รายได้จากการให้บริการของทรูมูฟ เอช เติบโตร้อยละ 32 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า และมีส่วนแบ่งตลาดรายได้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 24.2 ในไตรมาส 3 ปี 2559 ในขณะที่ รายได้จากการให้บริการของผู้ประกอบการใหญ่รายอื่นมีจำนวนรวมกันเติบโตขึ้นเพียงร้อยละ 0.6 จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า โดย ทรูมูฟ เอช มีผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิเพิ่มขึ้นในระหว่างไตรมาสจำนวน 1.1 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 75 ของจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิในอุตสาหกรรม ทำให้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 22.6 ล้านราย ณ สิ้นไตรมาส

ทรูออนไลน์ ยังคงมุ่งมั่นในการสนับสนุนให้ประชากรไทยสามารถเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้เพิ่มขึ้น ผ่านการขยายโครงข่ายบรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ต ของกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีความครอบคลุมแล้วกว่า 8.6 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ สิ่งนี้ ร่วมกับผลตอบรับที่ดีต่อเนื่องต่อแคมเปญไฟเบอร์บรอดแบนด์คุณภาพสูงของกลุ่ม โดยเฉพาะแพ็กเกจบริการคอนเวอร์เจนซ์ภายใต้กลุ่มทรู ผลักดันให้ฐานลูกค้าบรอดแบนด์ของกลุ่มเพิ่มขึ้นเป็น 2.7 ล้านราย ซึ่งส่งผลให้รายได้จากการให้บริการบรอดแบนด์สำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไปเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า

ทรูวิชั่นส์ ยังคงมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์การรับชมโทรทัศน์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ด้วยการสรรหาคอนเทนต์คุณภาพสูงที่หลากหลายและครบครัน พร้อมคุณภาพที่คมชัดแบบเอช ดี อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ ผลตอบรับที่ดีเยี่ยมต่อการได้สิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และรายการฟุตบอลชั้นนำอีกหลายรายการ บนช่องบีอินสปอร์ต ผ่านแพลตฟอร์มของทรูวิชั่นส์ ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจ มีจำนวนสมาชิกในระบบค่าบริการสมาชิกในระหว่างไตรมาสเพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งผลักดันให้ฐานลูกค้าทั้งหมดของทรูวิชั่นส์เพิ่มขึ้นเป็น 3.8 ล้านราย และมีรายได้จากค่าสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 2.0 พันล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2559

วิลเลี่ยม แฮริส หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการเงิน บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “เป็นเรื่องน่ายินดีที่ รายได้ของกลุ่มทรู เติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง นอกจากนี้ กลุ่มทรู ยังดำเนินการอย่างเข้มงวดในการควบคุมค่าใช้จ่ายหลายจุดให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้ เป็นหัวใจสำคัญต่อความมั่นคงทางการเงินและความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในระยะยาว”

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา