คมนาคมเร่งหาสาเหตุเชิงวิศวกรรมปมล้อหลุดจากรถไฟฟ้า

คมนาคมเร่งหาสาเหตุเชิงวิศวกรรมปมล้อประคองหลุดจากรถไฟฟ้า ชี้ล้อมีอายุการใช้งาน 3 แสนกม.เบื้องต้นเพิ่งใช้งานไปได้เพียงประมาณ 62,000 กม.หรือคิดเป็น 20%

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทรวงคมนาคม มีความห่วงใยและไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเรื่องดังกล่าว โดยได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อวานในช่วงหัวค่ำ และได้เน้นย้ำให้ผู้รับสัมปทาน (บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด หรือ EBM) รับผิดชอบเยียวยาความเสียหายให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ 

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุดังกล่าว รฟม. และผู้รับสัมปทาน ร่วมกับบริษัท Alstom ผู้ผลิตรถไฟฟ้าโมโนเรลที่ใช้ในโครงการฯ ได้เข้าตรวจสอบสาเหตุพบว่า ล้อประคองที่หลุดร่วงจากขบวนรถไฟฟ้าเกิดจากข้อบกพร่อง (Defect) ของบริษัทผู้ผลิต ซึ่งขณะนี้ได้มีการส่งให้ห้องปฏิบัติการ ตรวจสอบสาเหตุเชิงลึกทางวิศวกรรมแล้ว อาจต้องรอผลการตรวจสอบอีกระยะหนึ่งจึงจะได้ข้อสรุป อย่างไรก็ตาม ล้อดังกล่าวมีอายุการใช้งานประมาณ 300,000 กิโลเมตร แต่ปัจจุบันเพิ่งใช้งานไปได้เพียงประมาณ 62,000 กิโลเมตร หรือคิดเป็น 20% เท่านั้น และผู้รับสัมปทานได้มีการซ่อมบำรุง (Maintenance) ครบถ้วนตามขั้นตอนที่กำหนดในคู่มือแล้ว ซึ่งจากนี้ไปกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้ผู้รับสัมปทานเพิ่มความถี่ในการซ่อมบำรุงให้มากขึ้น

นอกจากนี้ รฟม. ร่วมกับผู้รับสัมปทาน และบริษัทผู้ผลิต ได้ดำเนินการตรวจสอบรถไฟฟ้าทุกขบวน ทุกล้อ และลูกปืนโดยละเอียด ก่อนจะทยอยนำขบวนเข้ามาวิ่งให้บริการในระบบอีกครั้ง เพื่อป้องกันความเสี่ยงไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำอีก 

ขณะนี้มีรถไฟฟ้าวิ่งในระบบ 5 ขบวน และจะทยอยเพิ่มขบวนรถเข้ามาในระบบเรื่อยๆ โดยระหว่างนี้จะให้บริการฟรี จนกว่าจะเข้าสู่สถานการณ์ปกติในวันเสาร์ที่ 6 มกราคม 2567 นี้ ซึ่งเป็นช่วงนอกเวลาเร่งด่วนที่จะให้บริการด้วยความถี่ในการเดินรถ 10 นาที และถัดไปในวันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2567 จะมีการให้บริการในชั่วโมงเร่งด่วนที่ความถี่ในการเดินรถ 5 นาที 

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าไม่ได้รับความสะดวกสบายเท่าที่ควร อย่างไรก็ดี กระทรวงคมนาคมยังคงมีความตั้งใจที่จะส่งเสริมให้ระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนเป็นทางเลือกในการเดินทางที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย สำหรับประชาชน เพื่อช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะปัญหา PM 2.5 ได้อย่างยั่งยืน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา