TOYOTA จะชิงอันดับ 1 คืนมาได้หรือไม่ เมื่อตลาดส่งออกซบ-ตลาดในประเทศแผ่ว

orca_share_media1469522051810

  • ยอดขายรวมโตโยต้าครึ่งปีแรก 109,078 คัน ลดลง 11.4% มีส่วนแบ่งตลาด 29.7% แต่เชื่อตลาดครึ่งปีหลังดีขึ้น รถรุ่นใหม่พร้อม น่าจะช่วยกระตุ้นยอด ตั้งเป้าทั้งปี 240,000 คัน
  • ตลาดส่งออกตะวันออกกลาง ฐานใหญ่โตโยต้ากระทบหนัก ส่งผลลดกำลังการผลิต กลายเป็นที่มาโครงการ จากด้วยใจ มีพนักงานสมัครใจออกกว่า 900คน
  • ไม่สนใจโครงการรถไฟฟ้าของรัฐบาล ขาดโครงสร้างพื้นฐาน ใช้พลังงานไฟฟ้ามาก ยังหนุนใช้เครื่องยนต์ Hybrid ซึ่งโตโยต้าพัฒนามานานต่อไป
  • ตลาด CLMV มีแนวโน้มที่ดี เชื่อไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกได้

orca_share_media1469522051847

ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน Honda เปิดตัวเลขยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยืนยันว่านำมาเป็นอันดับ 1 ดักคอไว้ก่อน จนถึงวันนี้ TOYOTA แถลงยอดขายครึ่งปีแรกบ้าง เคียวอิจิ ทานาดะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้เปิดเผยตัวเลขยอดขาย 109,078 คัน ลดลง 11.4% คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 29.7% ยืนยันว่ายังเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ยอมรับว่า โตโยต้า มียอดขายที่ลดลงเยอะพอสมควร

โดยเฉพาะรถยนต์นั่ง ที่มียอดขาย 35,700 คัน ลดลง 33% ซึ่งเป็นผลมาจากที่ 4 เดือนแรกของปีนี้ VIOS หยุดผลิตไป

colors_vios_black

อย่างไรก็ตาม โตโยต้ายังหวังว่าทั้งปี จะทำยอดขายได้ 240,000 คันตามเป้าที่วางไว้ เพราะอย่างน้อยที่สุด VIOS จะกลับมาขายในตลาดอีกครั้ง (หลังจากเปลี่ยนพลังภายในใหม่แล้ว) และจะมีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ตามออกมาด้วย

แต่ สิ่งที่น่าเป็นห่วงอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งถือเป็นพระเอกของ โตโยต้า คือ รถกระบะ REVO ที่ทำยอดขายได้ 54,864 คัน ลดลง 7.6% และแพ้ให้กับ ISUZU ที่ขายได้ 61,946 คัน แซงหน้ากันไปชัดๆ เพราะราคาของ REVO ที่ค่อนข้างสูงกว่านั่นเอง และยังมี Ford และ Mitsubishi ที่ทำตลาด ที่ทำยอดขายได้ดี ดึงส่วนแบ่งตลาดไปได้อีกไม่น้อย

นี่คือโจทย์ยากที่ โตโยต้า ต้องแก้ไขให้ได้ในครึ่งปีหลัง หรืออาจต้องไปว่ากันอีกทีปีหน้า ซึ่ง ประธานของโตโยต้า ก็ยอมรับว่าเป็นทั้งความรับผิดชอบและงานที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก

vios2

ตลาดส่งออกชะงัก ส่งผลลดกำลังผลิต

ข่าวเรื่องโครงการ จากด้วยใจ ที่ให้พนักงานที่เป็นลูกจ้างสมัครใจลาออก และจ่ายเงินชดเชยนั้น มีพนักงานขอเข้าร่วมโครงการกว่าพันคน แต่มีที่ผ่านเข้าโครงการกว่า 900 คน เป็นผลมาจากยอดส่งออกรถยนต์ไปขายต่างประเทศที่ลดลง ทำให้ต้องปรับลดกำลังการผลิตอยู่ที่ 60-70% (ปัจจุบันมีกำลังการผลิตเต็มที่ 770,000 คัน/ปี) แต่มีข้อตกลงว่า ถ้ากำลังการผลิตกลับมาเป็นปกติ โตโยต้า จะรับพนักงานเหล่านี้กลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง โดยให้ค่าจ้างและสวัสดิการตามเดิม และจะนับอายุงานต่อจากเดิมด้วย

สำหรับตลาดส่งออกรถยนต์ในไทยทั้งหมดอยู่ที่ 60% ซึ่งการส่งออกที่ลดลงนั้น โตโยต้ามีตลาดหลักคือภูมิภาคตะวันออกกลาง มีผลมาจากราคาน้ำมันโลกปรับลดเหลือ 40 เหรียญต่อบาเรล กระทบกับรายได้ และทำให้ยอดนำเข้ารถยนต์ลดลง จากเดิมอยู่ที่ 150,000 คันต่อปี เหลือ 100,000 คัน ลดลงกว่า 35% ขณะที่ตลาด EU มีมิตซูบิชิ ครองตลาดอยู่

smart_01

เบรคโครงการรถไฟฟ้า ไทยยังต้องศึกษาอีกมาก

โครงการรถไฟฟ้าของรัฐบาล โตโยต้า มองว่า รัฐบาลต้องศึกษาจากประเทศที่พัฒนาแล้ว และมีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้ดี เช่น ญี่ปุ่น ที่มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันเกินกว่าครึ่งของตลาด แต่สิ่งที่ต้องคำนึงมีหลายประเด็น ทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐานและคุณสมบัติของรถยนต์ เช่น

  1. แบตเตอร์รี่ชาร์จไฟฟ้าได้เร็วเพียงพอหรือไม่
  2. วิ่งได้ไกลแค่ไหน เพียงพอกับความต้องการหรือไม่
  3. น้ำหนักของแบตเตอร์รี่ และความปลอดภัยในการใช้
  4. สถานีชาร์จไฟฟ้า กระจายทั่วประเทศเพียงพอหรือไม่
  5. มีไฟฟ้าเพียงพอให้ใช้หรือไม่ กรณีที่เอกชนทำสถานีชาร์จไฟฟ้าได้ รัฐบาลต้องมีไฟฟ้าที่มากพอด้วย

ดังนั้นในความเห็นของโตโยต้า รัฐบาลต้องศึกษาเรื่องนี้ให้ละเอียด ซึ่งโตโยต้า ยังสนับสนุนการใช้เครื่องยนต์   Hybrid มากกว่า ถ้าได้รับการสนับสนุนที่ดีจากภาครัฐ จะสามารถพัฒนาให้ดีขึ้น และนำมาให้บริการได้จำนวนมากขึ้น

revo1

ตลาด CLMVT อนาคตที่กำลังเติบโต

ตลาดรวมรถยนต์ในประเทศไทย เดิมโตโยต้าคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 720,000 คัน ลดลง 10% จากปี 58 ที่มียอดขาย 800,000 คัน แต่จากครึ่งปีแรก ที่มียอดขายรวม 367,000 คัน คาดว่าทั้งปีจะมียอดขายปรับเพิ่มเป็น 740,000 คัน แสดงว่าสถานการณ์โดยรวมดีขึ้น ติดลบจากปีที่แล้วน้อยลง

ขณะที่ ตลาดอาเซียน ทุกตลาดมีการเติบโตตามแนวโน้มของโลก โดย เรียงตามลำดับดังนี้

  • อันดับ 1 คือ อินโดนีเซีย มียอดขาย 1 ล้านคน
  • อันดับ 2 คือ ไทย ยอดขาย 740,000 คัน
  • อันดับ 3 คือ มาเลเซีย มียอดขาย 600,000 คัน
  • อันดับ 4 คือ ฟิลิปปินส์ มียอดขาย 400,000 คัน

ด้านตลาด CLMV มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยตลาดเวียดนามมียอดขาย 200,000 คันต่อปี โตโยต้าอยู่ระหว่างการหาตัวแทนจำหน่ายภายใน ตลาดลาว มียอดขาย 20,000 คัน จากนโยบายที่ห้ามนำเข้ารถมือสอง โดยมีการเติบเฉลี่ย 10% ต่อปี พม่า มียอดขายประมาณ 5,000 คัน และกัมพูชา มียอดขาย 3,000 คัน ซึ่งพม่าและกัมพูชา ยังมีการนำเข้ารถมือสองอยู่ แต่อยู่ระหว่างการออกกฎระเบียบภายใน ถือเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา