เปิดกลยุทธ์ Topgolf พื้นที่กีฬานันทนาการแบบใหม่ในไทย กับพนักงาน 400 คนที่มาจากงานโรงแรม

Topgolf เตรียมให้บริการในไทย 17 ส.ค. นี้ ชูพื้นที่กีฬานันทนาการรูปแบบใหม่ เจาะลูกค้าคนเล่นกอล์ฟไม่เป็น ผสานพนักงานกว่า 400 คนที่มาจากงานโรงแรม คิดค่าบริการ 850–1,450 บาท/ช่องตี/ชั่วโมง

topgolf

Topgolf กับการเจาะลูกค้าไม่เล่นกอล์ฟ

แอนดรูว์ นาธาน กรรมการผู้จัดการ ท็อปกอล์ฟ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เล่าให้ฟังว่า เป็นครั้งแรกที่ Topgolf เข้ามาให้บริการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และวางตัวไม่เป็นแค่สถานที่ของคนเล่นกอล์ฟ แต่เป็นสถานที่รวมความบันเทิง และกิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ ที่สำคัญยังเป็นสัญญาณในการบุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเป็นทางการ

Topgolf ก่อตั้งสาขาแรกในสหรัฐอเมริกา และสัดส่วนลูกค้าที่มาใช้บริการ 50% เป็นลูกค้าที่ตีกอล์ฟไม่เป็น ถือเป็นมุมใหม่ในการสร้างธุรกิจกีฬานันทนาการที่ไม่ได้ตอบโจทย์แค่คนที่เล่นกีฬานั้น ๆ เป็น ผ่านการเพิ่มความสนุกให้กับการเล่นกีฬา เช่น การใส่เกมต่าง ๆ เข้าไปเพื่อให้การตีกอล์ฟไม่น่าเบื่อ และเข้าถึงง่ายสำหรับคนที่เล่นไม่เป็น

สำหรับในประเทศไทย Topgolf มีการจ้างงานกว่า 400 ตำแหน่ง ส่วนใหญ่เป็นคนที่เคยทำงานโรงแรมเพื่อเข้ามารับผิดชอบงานบริการต่าง ๆ เนื่องจากทุกช่องตี (Bay) ที่มี 102 ช่อง จะมีพนักงานบริการประจำ 1 คน โดยก่อนหน้านี้กลุ่มธุรกิจโรงแรมมีการปลดพนักงานหลายที่เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19

นิยามเหมือนชวนเพื่อนไปเล่นโบว์ลิ่ง

ปกติการเดินเข้าไปในสนามไดร์ฟกอล์ฟ ผู้ใช้บริการเกือบทั้งหมดมักจะตีกอล์ฟเป็นอยู่แล้ว หรืออยู่ระหว่างฝึกซ้อม แต่ด้วย Topgolf เน้นลูกค้าครึ่งหนึ่งเป็นคนที่ตีกอล์ฟไม่เป็น และตอบโจทย์พวกเขาด้วยความสนุกในรูปแบบที่ตีกอล์ฟไม่เป็นก็สนุกได้ จึงใกล้เคียงกับการชวนเพื่อนไปเล่นไอซ์สเก็ต หรือโบว์ลิ่ง

“กิจกรรมข้างต้นคือกีฬาที่มีราคาค่าเล่นหลายร้อย แถมคนที่เข้าไปเล่นเกือบทั้งหมดยังเล่นไม่เป็น หรือไม่มีทักษะในกีฬาดังกล่าว ซึ่ง Topgolf ต้องการอาศัยเรื่องนี้ในการดึงดูดลูกค้า ผ่านความสนุกในการตีกอล์ฟไม่เป็น รวมถึงวางตัวเป็นสถานที่พบปะสังสรรค์กับเพื่อนได้” ทีมงาน Topgolf เผย

อัตราค่าบริการของ Topgolf ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการไปใช้บริการไดร์ฟกอล์ฟปกติ กล่าวคือ Topgolf คิดราคา 850–1,450 บาท/ชม./ช่องตี (ไม่จำกัดลูก) โดยลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการแต่ละช่องจะต้องชำระค่าสมาชิก 150 บาททุกคน แต่ละช่องตีรองรับผู้เล่นได้ 6 คน ส่วนสนามไดร์ฟทั่วไป 1 ถาด 40 ลูก ราคาต่ำสุดราว 50-70 บาท

เจาะตัวเลขน่าสนใจของ Topgolf

Topgolf ก่อตั้งมา 20 ปี มีมากกว่า 70 สาขา ใน 7 ประเทศ มีผู้ใช้งานเฉลี่ย 25 ล้านคน/ปี ในประเทศไทยจะดูแลธุรกิจโดย บริษัท ทีจี เอสอีเอ ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด และหนึ่งในผู้ถือหุ้นบริษัทดังกล่าวเป็นผู้รับผิดชอบธุรกิจ Topgolf ในจีนแผนดินใหญ่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธุรกิจกีฬานันทนาการอาจไม่ใช่เรื่องง่ายในเวลานี้ เพราะหลายคนยังกังวลเรื่องการระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงในการเข้าเล่นทำให้ตัดสินใจได้ยาก และถึงจะบูมได้ก็อาจเป็นกระแสในระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่ง Topgolf เองต้องใช้เวลาพิสูจน์ในเรื่องความยั่งยืนในการทำธุรกิจหลังจากนี้

ตัวอย่างรายได้ของธุรกิจกีฬานันทนาการคือ ลานโบว์ลิ่งของกลุ่มเมเจอร์ ที่ไตรมาส 1 ปี 2565 มีรายได้ 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ถือเป็นการเติบโตในรอบหลายไตรมาสที่ธุรกิจนี้รายได้ลดลงโดยตลอด

สรุป

ธุรกิจของ Topgolf ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะเป็นมิติใหม่ในการทำธุรกิจเกี่ยวกับกอล์ฟในประเทศไทย ผ่านการเน้นจูงใจผู้ที่เล่นกอล์ฟไม่เป็นให้เข้ามาใช้บริการ ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนเชื่อว่า ถ้า Topgolf ทำสำเร็จ น่าจะมีนักลงทุนธุรกิจรายอื่นในไทยประยุกต์แนวคิดนี้กับกีฬานันทนาการชนิดอื่น ๆ เพื่อหาโอกาสสร้างรายได้ในอนาคต

อ้างอิง // Topgolf

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา