ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB รายงานผลการดำเนินงานปี 2020 ซึ่งกำไรในปีนี้เติบโตอย่างมากหลังจากที่ควบรวมธนาคารธนชาตเข้ามาเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกันธนาคารก็ต้องตั้งสำรองเพิ่มมากขึ้นในปีที่ผ่านมาจากปัจจัยของ COVID-19 ที่กระทบต่อพอร์ตสินเชื่อของธนาคาร
หลังจากที่ธนาคารทหารไทยได้ควบรวมกิจการของธนาคารธนชาตเข้ามาเต็มรูปแบบและกลายเป็นธนาคารขนาดใหญ่ลำดับที่ 6 ของไทย เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น ลดต้นทุนในการจัดการ และตั้งเป้าที่จะทำให้คนไทยสามารถสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น
สำหรับผลประกอบการของ TMB ในปี 2020 นั้นรายได้รวมอยู่ที่ 68,791 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิของปี 2020 อยู่ที่ 10,112 ล้านบาท ขณะที่ NIM ของธนาคารในปีนี้อยู่ที่ 3% ปรับตัวดีขึ้นกว่าในปี 2019 ที่ผ่านมา ส่วนทางด้าน NPL อยู่ที่ 2.5% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 2.35%
รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ อยู่ที่ 53,805 ล้านบาท สาเหตุเกิดจากการควบรวมกิจการของธนาคารธนชาต รายได้จากเงินให้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมากถึง 32.9% และการปรับสภาพคล่องส่วนเกินของธนาคาร ขณะเดียวกันยังรวมถึงการปรับโครงสร้างต้นทุนการเงินหลังจากการควบรวมกิจการ
รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย อยู่ที่ 14,986 ล้านบาท สาเหตุหลักๆ มาจากการขยายตัวของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิจากธุรกิจเช่าซื้อและไม่ใช่เช่าซื้อ อย่างไรก็ดีรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจกองทุนรวมและค่าธรรมเนียมการให้สินเชื่อกลับลดลง
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของธนาคาร อยู่ที่ 31,623 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายต่างๆ หลังจากการควบรวมกิจการกับธนาคารธนชาต ไม่ว่าจะเป็นด้านพนักงาน อาคารสถานที่ ฯลฯ แต่สำหรับค่าใช้จ่ายด้านการตลาดนั้นลดลงจากการชะลอกิจกรรมในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19
ขณะเดียวกันในปี 2020 ธนาคารได้ตั้งสำรองผลขาดทุนเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้อยู่ที่ 24,831 ล้านบาท มากกว่าปี 2019 ที่ผ่านมา 140% เพื่อครอบคลุมความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ในรายงานของธนาคารที่แจ้งให้กับตลาดหลักทรัพย์ยังได้กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 นอกจากนี้สำหรับมุมมองเศรษฐกิจไทยเองยังมองว่าจะเติบโตได้ราวๆ 2.4% โดยมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นหลักในปีนี้
ที่มา – ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา