เจ้าของ TikTok ขึ้นแท่นสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก แซงหน้า Uber เป็นที่เรียบร้อย

“โอ้ นานานา … โอ้ นานานา” ถ้าคุ้นหูกับคำเหล่านี้ ก็แสดงว่าคุณเป็นหนึ่งใน “แมส” ที่แท้จริง เพราะนี่คือหนึ่งในเพลงประกอบของวิดีโอใน TikTok แอพพลิเคชั่นที่บริษัทแม่ได้ขึ้นแท่นเป็นสตาร์ทอัพยูนิคอร์นเบอร์ 1 ของโลกแล้วในปัจจุบัน

TikTok
TikTok Photo: Shutterstock

เจ้าของ TikTok ขึ้นแท่นสตาร์ทอัพยูนิคอร์นเบอร์ 1 ของโลก

TikTok แอพพลิเคชั่นยอดนิยมจากจีน ที่ให้ผู้ใช้งานบันทึกวิดีโอสั้นๆ 15 วินาที และมีเจ้าของชื่อว่า Bytedance เป็นสตาร์ทอัพมาแรงจากจีน

ไม่นานมานี้ เจ้าของ TikTok ได้รับเงินลงทุนจาก SoftBank ผ่านกองทุน SoftBank Vision Fund ด้วยมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ ทำให้มีมูลค่ากิจการที่พุ่งทะยานไปถึง 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ขึ้นแท่นเป็นสตาร์ทอัพยูนิคอร์นเบอร์ 1 ของโลก แซงหน้า Uber แชมป์เก่าที่มีมูลค่ากิจการอยู่ที่ 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์

ความยอดนิยมของ TikTok กระจายไปทั่วโลก ดูได้จากการขึ้นเป็นแอพยอดนิยมอันดับ 1 จากการดาวน์โหลดบนระบบ iOS ทั่วโลกในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา

  • ปัจจุบัน TikTok มีผู้ใช้งานต่อวันอยู่ที่ 500 ล้านคนต่อเดือน
  • ผู้ใช้งานส่วนใหญ่เป็นคนวัยรุ่นถึงอายุประมาณ 20 ปี
  • ผู้ใช้งานหลักยังคงเป็นชาวจีน คิดเป็น 4 ใน 5 ของผู้ใช้งานทั้งหมด แต่ปัจจุบันกำลังแพร่หลายไปในประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน

เบื้องหลัง TikTok คือเทคโนโลยี AI

เบื้องหลังความบันเทิงของแอพพลิเคชั่นอย่าง TikTok คือการเก็บข้อมูลขนาดใหญ่และวิเคราะห์ด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) เช่น ถ้าชอบดูอะไรบ่อยๆ แล้วกด “like” เพื่อแสดงความชื่นชอบ ก็จะได้เห็นสิ่งนั้นซ้ำๆ ไม่ว่าจะเป็นการดูสัตว์เลี้ยง ดูการแต่งหน้า หรือดูการเต้น ระบบหลังบ้านของ TikTok จะส่งคอนเทนต์ประเภทนั้นๆ มาเพื่อดึงดูดให้ผู้ใช้งานอยู่ในแอพพลิเคชั่นให้นานขึ้น

รายได้หลักของ TikTok คือโฆษณา

รายได้หลักของ TikTok มาจากโฆษณา (Ads) เพราะนอกจากตัวแอพพลิเคชั่นที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่ทุกวันแล้ว อีกหนึ่งความน่าสนใจคือ กลุ่มผู้ใช้งานที่ค่อนข้างชัดเจน คือเป็นวัยรุ่นและอายุไม่เกิน 20 ปี ทำให้นักการตลาดต่างสนใจที่จะมาลงโฆษณาใน TikTok

เจ้าของ TikTok ขึ้นแท่นเบอร์ 1 ยูนิคอร์น สะท้อนภาพสตาร์ทอัพจีนบูม

จากรายงานของบริษัทวิจัย CB Insights ระบุว่า สตาร์ทอัพยูนิคอร์น (ระดับพันล้านเหรียญ) ในปัจจุบัน เป็นสตาร์ทอัพจีนถึง 287 ราย หรือคิดเป็น 30% ของโลก ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีเพียง 135 รายเท่านั้น

Zhang Yiming ซีอีโอของและผู้ร่วมก่อตั้ง ByteDance เจ้าของ TikTok บอกว่า การเติบโตของ TikTok สะท้อนให้เห็นว่า “เราไม่ได้แค่ลอกเลียนโมเดลทางธุรกิจจากคนอื่นๆ นอกประเทศจีน แต่เราพัฒนาตัวเอง และขยายธุรกิจของเราไปสู่เวทีระดับโลก”

อ้างอิงข้อมูล – Nikkei Asian Review

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา