คุ้มไหม? ชายไทยลักลอบเอาไข่เป็ด-ผักชี-เนื้อสัตว์เข้าสิงคโปร์ สุดท้ายถูกจับได้ โดนปรับไป 2 แสนกว่าบาท

การนำสินค้าเข้า-ออกระหว่างประเทศเป็นประเด็นที่ต้องศึกษาให้ดี โดยเฉพาะถ้าต้องทำธุรกิจ ล่าสุด ชายไทยวัย 24 ปี ลักลอบนำสินค้าเข้าสิงคโปร์ สุดท้ายถูกจับปรับไป 6,800 เหรียญ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 226,000 บาท

Photo: Agri-Food & Veterinary Authority หรือ AVA

สิงคโปร์บังคับใช้กฎหมายเข้ม ลักลอบนำเข้า ถูกจับ-ปรับจริง

สำนักข่าว Straits Times ของสิงคโปร์ รายงานว่า เมื่อวันพุธที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา ทางการสิงคโปร์ได้จับกุมชายไทยอายุ 24 ปี เนื่องจากลักลอบนำเอาสินค้าเข้าประเทศผิดกฎหมาย โดยปรับเป็นเงินสดจำนวน 6,800 เหรียญ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 226,000 บาท

รายการสินค้าที่ทางการสิงคโปร์พบและยึดไว้เรียบร้อยแล้ว ได้แก่ ไข่เป็ดสด 300 ฟอง, ผักชี 24 กิโลกรัม และเนื้อสัตว์ที่ระบุชัดว่านำมาจากประเทศไทยอีก 5.5 กิโลกรัม

Agri-Food & Veterinary Authority หรือ AVA ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลเกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออกเกี่ยวกับอาหาร พืช และสัตว์ ได้แถลงข่าวระบุว่า ชายคนที่ถูกจับทำงานขับรถให้กับห้างสรรพสินค้า Peninsular Plaza ในสิงคโปร์

ในแถลงการณ์ของ AVA ระบุว่า “การนำเข้าอาหารในสิงคโปร์ต้องมีการควบคุมตามกฎ ถือเป็นเหตุผลด้านความปลอดภัยทางอาหาร สัตว์ และสุขภาพ”

“เนื้อสัตว์ ไข่ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ สามารถนำเข้าประเทศสิงคโปร์ได้ แต่ต้องมาจากแหล่งที่ได้รับการรับรองจากทางสิงคโปร์แล้วเท่านั้น การนำเข้าอาหารผิดกฎหมายจากแหล่งที่ไม่ได้รับการรับรองจากทางสิงคโปร์อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชนและสัตว์ในพื้นที่”

สรุป

การนำเข้าสินค้าถือเป็นกฎเกณฑ์ของแต่ละประเทศที่จะกำหนดข้อบังคับขึ้นมา ในกรณีนี้ทำผิดและโดนปรับไปกว่า 200,000 บาท แต่จะว่าไปถ้าเอาตามกฎหมายของสิงคโปร์จริงๆ สำหรับโทษความผิดครั้งแรก “บุคคลใดนำเข้าอาหารผิดกฎหมายจากแหล่งที่ไม่ได้รับการรับรองสามารถถูกปรับเงินได้สูงถึง 50,000 เหรียญ (1,665,600 บาท) และ/หรือจำคุก 2 ปี” ส่วนถ้ามีความผิดครั้งถัดมา “สามารถถูกปรับเงินได้สูงถึง 100,000 เหรียญ (3,331,200 บาท) และ/หรือจำคุกถึง 3ปี”

อย่างที่ทราบกันดีว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่เข้มงวดกับการบังคับใช้กฎหมายอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจึงควรทำความเข้าใจกฎระเบียบ-ข้อบังคับให้ดีก่อนการนำเข้าสินค้า และเอาเข้าจริงก็ไม่ใช่แค่สิงคโปร์ แต่การจะนำสินค้าเข้า-ออกประเทศใดๆ ก็ตาม ควรจะต้องทำความเข้าใจกฎระเบียบ-ข้อบังคับหรือกฎหมายให้ดีเสียก่อน

ที่มา – Straits Times

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา