ชาวต่างชาติที่อาศัยในไทยได้รับผลจากเงินบาทแข็งค่า เริ่มมองประเทศเพื่อนบ้านบ้างแล้ว

ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ ของไทยในขณะนี้ กลายเป็นว่าทำให้ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยแบบถูกกฎหมายต่างเริ่มได้รับความเป็นอยู่ที่ไม่สะดวกสบายเหมือนเดิม

Traveler Thailand
ภาพจาก Shutterstock

ค่าเงินบาทของไทยที่แข็งค่าขึ้นมาในช่วงต้นปี และกลายเป็นค่าเงินที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก ล่าสุดไม่ใช่ส่งผลกระทบแค่เพียงผู้ส่งออกของไทยเท่านั้น แต่ยังได้ส่งผลกระทบกับชาวต่างประเทศที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยที่มีวีซ่าเกษียณอายุแบบถูกกฎหมาย รวมไปถึงชาวต่างชาติที่ทำงานทำงานในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมายด้วย

Bloomberg รายงานว่ากลุ่มชาวต่างประเทศที่เข้ามาอาศัยในประเทศไทยพูดถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากขึ้น ซึ่งบางรายที่มาเกษียณอายุที่ประเทศไทยเริ่มต้องประหยัดเพิ่มมากกว่าเดิม และยิ่งถ้าหากเป็นผู้เกษียณอายุที่มาจากสหราชอาณาจักรแล้ว ผลกระทบจาก Brexit รวมไปถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ยิ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันมากกว่าชาวต่างชาติรายอื่นๆ

ในปีที่ผ่านมาไทยมีชาวต่างชาติที่ขอวีซ่าเกษียณอายุมากถึง 80,000 ราย มากกว่าในปี 2014 ประมาณ 30% โดยเงื่อนไขที่ชาวต่างชาติจะสามารถขอวีซ่านี้ได้ที่คือ ต้องมีเงินพักในบัญชีเงินฝากของธนาคารไทยอยู่อย่างน้อย 800,000 บาท ไม่ก็ต้องมีรายได้ต่อเดือน 65,000 บาทต่อเดือน หรือทั้ง 2 เงื่อนไข โดยผู้ยื่นขอวีซ่าจากสหราชอาณาจักรมีสัดส่วนในการขอวีซ่าเกษียณอายุมากสุดคือ 16%

ชาวต่างประเทศที่อาศัยหรือแม้แต่กำลังที่จะตัดสินใจเข้ามาอยู่ในประเทศไทยก็เริ่มที่จะมองประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา เวียดนาม หรือแม้แต่ฟิลิปปินส์ แทนไทยแล้ว ในช่วงที่ผ่านมาชาวต่างชาติเหล่านี้ต่างเป็นฟันเฟืองที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะตามต่างจังหวัดท่องเที่ยวดังๆ เช่น ภูเก็ต หรือแม้แต่พัทยา

ขณะที่เว็บไซต์ The Thaiger ซึ่งเป็นอีกเว็บไซต์ที่รวบรวมมุมมองของชาวต่างชาติ ก็มีการพูดถึงเรื่องของค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากขึ้น รวมไปถึงเรื่องของความยุ่งยากของเอกสาร ตม.30 ยิ่งสร้างความลำบากให้กับชาวต่างชาติที่มาอาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งมีการแนะนำความรู้เกี่ยวกับประเทศเวียดนาม ถ้าหากชาวต่างชาติสนใจ

นอกจากนี้รายงานของ Expat Insider ยังได้ออกรายงานล่าสุดว่าประเทศไหนที่เหมาะกับ Expat มากที่สุด กลายเป็นว่าประเทศไทยได้ตกอันดับถึง 7 อันดับ โดยล่าสุดอยู่ที่อันดับที่ 25 จากอันดับทั้งหมด 64 ประเทศ แต่ถ้าหากเป็นเรื่องของค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแล้ว เวียดนามนั้นอยู่อันดับที่ 2 ของผลสำรวจ ขณะที่ไทยนั้นอยู่อันดับที่ 15

ราคาค่าเงินหลังปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ค่าดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบเป็นเงินบาทไทยอยู่ที่ 30.425 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อยู่ที่ 37.531 บาทต่อปอนด์

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา