บริษัทไต้หวันย้ายฐานการผลิตจากจีนกลับบ้าน หลังความขัดแย้งสหรัฐ-จีนกลับมารุนแรง แถมรัฐบาลจูงใจ

บริษัทไต้หวันที่เน้นผลิตสินค้าไฮเทค เริ่มทยอยย้ายฐานการผลิตจากจีนกลับถิ่นเก่า หลังความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนมากขึ้น ขณะเดียวกันข้อเสนอจูงใจของรัฐบาลไต้หวันเองก็ทำให้บริษัทเหล่านี้อยากย้ายกลับมาเพิ่มขึ้นด้วย

Taipei Taiwan
ภาพจาก Unsplash

บริษัทในไต้หวัน เริ่มย้ายกำลังการผลิตจากจีนแผ่นดินใหญ่กลับบ้านเกิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนกลับมาปะทุอีกครั้ง ขณะเดียวกันผลกระทบจาก COVID-19 ในจีนเองก็ได้สร้างความปั่นป่วนให้กับห่วงโซ่การผลิตทั่วโลก ซึ่งไต้หวันเองก็ได้รับผลกระทบนี้ ยิ่งเป็นตัวเร่งทำให้บริษัทต่างๆ เหล่านี้ย้ายฐานกลับไต้หวันไวกว่าเดิม

ความขัดแย้งของสหรัฐและจีนกลับมาปะทุอีกครั้งหลังจากที่สหรัฐมีท่าทีฉีกสัญญาข้อตกลงทางการค้าฉบับแรกที่ทำกับจีน ขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้กล่าวว่ากำลังจับตามองจีนว่าจะทำตามสัญญาว่าจะซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐหรือไม่ ไม่เพียงแค่นั้นทรัมป์เองยังได้ขู่จีนว่าอาจขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน ถ้าหากไม่ทำตามสัญญา

ท่าทีของความขัดแย้งที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกรอบทำให้บริษัทไต้หวันเองทยอยย้ายฐานการผลิตกลับไต้หวัน เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง เช่น Quanta ผู้ผลิตเซิฟเวอร์และโน๊ตบุ๊ครายใหญ่ได้ลงทุนโรงงานการผลิตในไต้หวันด้วยงบลงทุนมากถึง 15,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ หรือราวๆ 15,914 ล้านบาท แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 บริษัทก็ยังเดินหน้าก่อสร้างโรงงานอย่างต่อเนื่อง

ในช่วงเวลา 20 กว่าปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมในไต้หวันและประเทศต่างๆ ได้ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศจีน เช่น Foxconn ฯลฯ เนื่องจากค่าแรงในประเทศจีนมีราคาถูก

Barry Lam ประธานของ Quanta ได้กล่าวกับ Nikkei Asian Review ว่า “ลูกค้าของบริษัทต้องการสินค้าที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เราต้องเพิ่มงบลงทุนในไต้หวัน” ขณะที่ผู้ผลิตสินค้าเทคโนโลยีหลายๆ แห่งเองได้รับความต้องการสินค้าที่ไม่มีส่วนประกอบจากประเทศจีนเพิ่มมากขึ้น

หรือแม้แต่ Giant ผู้ผลิตจักรยานรายใหญ่ในไต้หวัน ก็ได้ลงทุนโรงงานใหม่ในไต้หวันมากถึง 5,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ หรือประมาณ 5,308 ล้านบาท เพื่อที่จะส่งออกจักรยานไปสหรัฐอเมริกา ซึ่งไต้หวันเองไม่ได้รับผลกระทบจากสหรัฐได้ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเหมือนกับในจีนแผ่นดินใหญ่

ขณะเดียวกันความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากนโยบายของรัฐบาลไต้หวันที่เชิญให้บริษัทที่มีฐานการผลิตในประเทศจีน เช่น บริษัทผลิตชิป หรือแม้แต่บริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีฐานการผลิตในประเทศจีน ให้ย้ายฐานการผลิตกลับมาที่ไต้หวัน โดยรัฐบาลมีเม็ดเงินสนับสนุนให้ รวมไปถึงจัดสร้างพื้นที่ใหม่ และเพิ่มพื้นที่อุทยานวิทยาศาสตร์ละแวกเมืองไถ่หนาน เพื่อรองรับการพัฒนาและวิจัย

ข้อมูลล่าสุดจาก Taipei Times นั้น 473 บริษัทได้รับปากรัฐบาลไต้หวันที่จะกลับมาลงทุนที่บ้านเกิด ซึ่งมีมูลค่ามากถึง 989,100 ล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ และอีก 56 บริษัทกำลังรอการอนุมัติจากรัฐบาลไต้หวัน นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมางบพัฒนาและวิจัยของไต้หวันยังทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 5 ปี อยู่ที่ 7.9% ของ GDP

เป้าหมายของรัฐบาลไต้หวันหลังจากนี้คือการปรับยุทธศาสตร์เป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าไฮเทคแบบพรีเมี่ยม ขณะเดียวกันยังเน้นไปที่อุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น พลังงานสะอาด รวมไปถึงการพัฒนาการอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยรัฐบาลได้เตรียมพื้นที่ในละแวกภาคใต้ของไต้หวัน เป็นฐานการผลิตแห่งใหม่

ไม่ใช่แค่การย้ายฐานการผลิตกลับไต้หวันเท่านั้น แต่บริษัทไต้หวันเองก็ได้ย้ายกำลังการผลิตออกจากจีนไปที่อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของไต้หวัน ได้ประกาศแผนการลงทุนในสหรัฐ มากถึง 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือแม้แต่ Apple เองก็เริ่มคุยกับผู้ประกอบชิ้นส่วนโดยเฉพาะ Foxconn ของไต้หวันให้ทยอยย้ายฐานการผลิตออกจากจีนไปที่อื่นๆ เช่น อินเดีย ฯลฯ

ที่มา – Tech Node, South China Morning Post, Taipei Times [1][2]

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Content Writer ที่สนใจในเรื่องของตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม TMT (Technology, Media, Telecom) การควบรวมกิจการ (M&A) นโยบายทางเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศ รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยทางธุรกิจที่น่าสนใจ