Sony ประกาศด้อยค่าทางบัญชีในธุรกิจภาพยนตร์กว่า 34,000 ล้านบาท หลัง Streaming บูมทำ Home Entertainment เข็นไม่ไป

หลังจากการมาถึงของ Streaming Video on Demand (SVOD) ทำให้ธุรกิจ Home Entertainment โดยเฉพาะแผ่น DVD ไปไม่เป็นเหมือนกัน และล่าสุด Sony ก็ประกาศไม่ไหวที่จะอุ้มธุรกิจนี้แล้ว

34,000 ล้านบาท กับการด้อยค่าทางบัญชี

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Sony อีกยักษ์ใหญ่ในธุรกิจ Home Entertainment ประกาศบันทึกด้อยค่าทางบัญชีกว่า 1.1 แสนล้านเยน (ราว 34,000 ล้านบาท) หลังค่าความนิยม หรือ Goodwill ของธุรกิจภาพยนตร์ลดลง โดยมีบริการ SVOD ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วเป็นปัจจัยหลัก ทำให้การจำหน่ายแผ่น DVD, แผ่น Blue-Ray รวมถึงสื่อ Home Entertainment อื่นๆ ของบริษัทไม่สามารถจำหน่ายได้

ทัั้งนี้ทางบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการวางแผนปรับกลยุทธ์ให้กับหน่วยธุรกิจนี้ เพื่อกลับมามีผลกำไรมากขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เพราะในอดีตเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างมหาศาล แต่ถึงจะวางแผนอย่างไร Michel Lynton ผู้บริหารระดับสูงในธุรกิจภาพยนตร์ และโทรทัศน์ ของ Sony Entertainment ก็เตรียมลาออกในเดือนก.พ. ที่จะถึงนี้ และแม้จะนั่งเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทอีก 6 เดือน แต่ก็คงทำให้อะไรได้อย่างไม่เต็มที่

ในทางกลับกัน นอกจากปัจจัยเรื่อง SVOD ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เช่น Netflix มีผู้ใช้บริการกว่า 100 สมาชิกทั่วโลก รวมถึงคู่แข่งอย่าง Amazon Prime Video ก็เร่งทำตลาดในต่างประเทศผ่านการ Localize คอนเทนต์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคแต่ละพื้นที่ให้มากที่สุด ยังมีเรื่องผู้บริโภคไม่นิยมเข้าไปใช้บริการโรงภาพยนตร์ด้วย เพราะการรับชมที่บ้านให้ความสะดวกสบายมากกกว่า ที่สำคัญทางค่ายผู้ผลิตยังกดดันโรงภาพยนตร์ให้ปล่อยคอนเทนต์ออกมาเผยแพร่แบบ Home Entertainment เร็วขึ้นอีกด้วย

สรุป

SVOD เป็นการผลิกโฉมอุตสาหกรรม Home Entertainment หลังจากอตุสาหกรรมนี้ถูกโจมตีมาโดยคอนเทนต์ละเมิดลิขสิทธิ์มาโดยตลอด แต่หลังจากนี้ก็ต้องติดตามกันว่าฟีเจอร์ Live ของ Facebook จะทำให้อุตสาหกรรมนี้เปลี่ยนแปลงไปอีกหรือไม่ เพราะการรับชมมันแสนง่าย และยิ่งง่าย การจะเปลี่ยนความคิดผู้บริโภคให้มาอยู่ในลิขสิทธิ์ที่ถูกต้องก็ยากกว่าเดิม

อ้างอิง

Sony takes $976 million charge on movie segment as DVD market shrinks

Sony is terrified of the “dramatic shifts” taking place in how we consume entertainment

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา