พาไปเดินบูท SCB สัมผัส Cashless Society ประสบการณ์สังคมไร้เงินสดที่งาน Money Expo

สุดสัปดาห์นี้ (11-14 พ.ค. 60) มีงานมหกรรมทางด้านการเงิน Money Expo 2017 จัดที่เมืองทองธานี รวมสถาบันการเงินมาพูดเรื่องเงินๆ ทองๆ การกู้เงิน และ FinTech ถ้าว่างน่าจะหาเวลาไปสัมผัสงานนี้ แม้เรื่องการเงินและดอกเบี้ย จะเป็นประเด็นหลัก

แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ก็คือการโชว์เทคโนโลยีทางการเงินที่น่าสนใจไม่น้อย

SCB โชว์แนวคิด Cashless Society สังคมไร้เงินสด

ที่บูทของ SCB หรือ ธนาคารไทยพาณิชย์ สร้างความแตกต่างจากบูทอื่นๆ ต้องบอกว่าสร้างความคึกคักได้อย่างดี โดยการจำลอง Cashless Society มาให้ลูกค้าที่มาเยี่ยมชมได้ทดลอง สังคมที่ไร้เงินสด กันแบบจริงๆ ภายในงาน

ธนา เธียรอัจฉริยะ รักษาการ CMO ของ SCB บอกว่า Cashless Society ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่กำลังเกิดขึ้นแล้วในหลายประเทศ และจะมาถึงไทยในเวลาอีกไม่นาน เช่นที่จีน เริ่มมีการทดลองจ่ายเงินในชีวิตประจำวันผ่าน Wearable Device (อุปกรณ์สวมใส่ติดตัว) แค่แตะก็จ่ายแทนเงินสดได้แล้ว

สิ่งที่สะดวกที่สุดคงเป็น สมาร์ทโฟน เพราะมีติดตัวกันแทบทุกคน

เพื่อให้คนได้ทดลองและมีประสบการณ์ Cashless Society ทาง SCB จึงพัฒนาแอปพลิเคชั่น Life.SCB (ไลฟ์ดอทเอสซีบี) จำลองสังคมไร้เงินสดมาใช้ในงาน Money Expo โดยเฉพาะ

Life.SCB สร้างไลฟ์สไตล์ให้เกิดขึ้นกับธนาคาร

ความสนุกสนานของ SCB อยู่ที่แอป Life.SCB ที่ใช้ระบบ Augmented Reality (AR) เหมือนกับเกม Pokemon GO เพียงเปิดแอป ส่องไปที่โลโก้ SCB จะมีเหรียญออกมาให้เก็บสะสม เพื่อนำไปแลกของรางวัล หรือ ใช้ซื้อสินค้าภายในงาน

ธนา บอกว่า จากจำนวนร้านค้าทั้งหมด 15 ร้าน มีร้านที่ร่วมกิจกรรมให้ซื้อสินค้าผ่านแอปได้ 7 ร้าน เปรียบได้กับสังคมจริงๆ ที่หากเริ่มต้นใช้การจ่ายเงินแบบไม่ใช้เงินสด ก็จะมีกลุ่มร้านค้าที่พร้อมเข้าร่วมทันที แต่ก็มีร้านค้าที่ไม่มั่นใจในระบบ

แต่สุดท้าย ถ้าเป็นสิ่งที่ดี ประสบการณ์จะดึงดูดให้ทุกคนเข้าสู่ระบบไปเอง ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย จะทำให้การใช้เงินสดลดน้อยลง

พาเดินดูบูท SCB สะท้อนภาพธนาคารที่เข้าใกล้ชีวิตและสนุกมากขึ้น

สำหรับบรรยากาศในบูทของ SCB นอกจากจำลอง Cashless Society แล้ว ยังผสมผสานเรื่องของเงินเข้ากับเรื่องอื่นๆ เช่น ชีวิตประจำวัน, การท่องเที่ยว, การทำงาน, งานอดิเรก เพื่อทำให้เงินเป็นเรื่องสนุก เมื่อผู้บริโภคเข้าใจมากขึ้น จะสร้างโอกาสขายสินค้าได้เอง

ภายในบูทแบ่งเป็น 3 โซนหลัก คือ โซน 1 Passion Space พื้นที่พักผ่อนมองหาแรงบันดาลใจที่จะทดลองใช้ชีวิตจริงกับสังคมไร้เงินสด โซน 2 Work Space พื้นที่เจรจาธุรกิจ ขอคำปรึกษาทางการเงิน สินเชื่อและโปรโมชั่น โซน 3 Life Space พื้นที่ร่วมกิจกรรมสนุกๆ แลกของรางวัล

ธนา บอกว่า ต่อไปจะเห็นพัฒนาการ mobile banking กลายเป็น Lifestyle banking มากขึ้น เพราะธนาคารต้องการเข้าไปอยู่ในชีวิตของคน ยิ่งในสังคมไร้เงินสด ถ้าใช้แอปของธนาคารเป็นแอปจ่ายเงิน (payment) นี่คือเป้าหมายของ SCB และทุกธนาคาร

เลยไปบูท DV ลองเล่นเทคโนโลยีใหม่ในวงการการเงิน

นอจากบูทของ SCB ที่น่าสนใจแล้ว ยังมีบูทของ Digital Ventures (DV) บริษัทในเครือของ SCB ที่เน้นเรื่อง startup ก็ขนเทคโนโลยีใหม่ๆ มาโชว์กันสุดๆ เพื่อสร้างความเข้าใจแบบเป็นรูปธรรม เช่น การใช้ Machine Learning เพื่อตรวจสอบโหงวเฮ้ง มีให้ดูโหงวเฮ้งพร้อมคำอธิบายด้วย

รวมถึงเทคโนโลยี Internet of Things ที่กลายเป็น กระปุกหมูออมสินดิจิทัล นับเงินได้, เครื่องนับเหรียญ digital cashier เพื่อความสะดวกสบายและได้ประโยชน์ รวมถึงเรื่องราวของ Blockchain และ FinTech ที่ผ่านการประกวดมาแล้ว

และเทคโนโลยีทั้งหมดจะมีบางส่วนที่พร้อมให้บริการจริงภายในปีนี้ด้วย

สรุป

Cashless Society หรือ สังคมไร้เงินสด อาจไม่ได้เป็นการแข่งขันกันระหว่างธนาคารพาณิชย์ แต่อาจผลักดันให้เกิดความร่วมมือกัน เพราะคู่แข่งที่น่ากลัวกว่า คือ Digital Giant ระดับโลก ที่กำลังก้าวเข้ามาเป็นผู้ให้บริการในประเทศไทย (LINE, Alipay, WechatPay, ฯลฯ) ยิ่งสร้างความคุ้นเคย ความสนุกสนานในการใช้งานได้ น่าจะเป็นปัจจัยที่สร้างความได้เปรียบ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา