“RS” ทรานส์ฟอร์มสู่โมเดลธุรกิจ MPC ไฮไลท์สินค้าความงาม

RS ประกาศเดินเกมโมเดลใหม่ Multi-platform Commerce (MPC) ผนึกแพลตฟอร์มในมือมาต่อยอดสร้างรายได้ ไฮไลท์ด้วยธุรกิจบิวตี้ คาดรายได้แตะ 5,800 ล้านในปีนี้

เปลี่ยนเกมจากธุรกิจสื่อ มาปั้นแบรนด์ ขายสินค้าความงาม

RS เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เติบโตจากธุรกิจเพลง แต่เมื่อยุคสมัยได้เปลี่ยนไปเริ่มขยับขยายไปธุรกิจสื่อ มีทั้งวิทยุ และทีวีดิจิทัลช่อง 8 หลังจากนั้นเริ่มเข้าสู่ธุรกิจความงามเต็มตัว เพราะมองเห็นโอกาสทางการตลาด ใช้สื่อให้เป็นประโยชน์ในขายของผ่านทีวี

จนในปีนี้ RS ได้เดินกลยุทธท์นำสื่อที่มีในมือทั้งหมดมาต่อยอด เปิดโมเดล Multi-platform Commerce (MPC) เปลี่ยนคนฟัง และคนดูเป็นลูกค้า นั่นก็คือจะปั้นทั้งวิทยุ และโทรทัศน์ให้กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งให้ได้

ได้สร้างคอมมูนิตี้ใหม่บน LINE@ COOL Anything ผ่านสถานีเพลง “COOLfahrenheit” ให้ช้อปสินค้าทั้งแบรนด์ในเครือ และสินค้าของพาร์ทเนอร์ โดยเฉพาะสินค้าสุขภาพ และอาหารเสริม โดยที่มีฐานผู้ฟังกว่า 5.3 ล้านราย แบ่งเป็น กลุ่มผู้ฟังออนไลน์ 4 ล้านราย และกลุ่มผู้ฟังออนแอร์ 1.3 ล้านราย ซึ่งส่วนใหญ่มีกำลังซื้อสูง เพราะเป็นกลุ่มกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่

สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอสจำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

“โมเดล Multi-platform Commerce (MPC) ถือเป็นโมเดลใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาในการนำแพลตฟอร์มสื่อในมือที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้วมาบริหารต่อยอดธุรกิจเชิงพาณิชย์ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด ทำให้รายได้ และกำไรของทั้งกลุ่มเติบโตสูง โดยที่ผ่านมาได้นำช่อง 8 ที่ทำเรตติ้งติด TOP 5 ของประเทศมาปั้นเป็นห้างสรรพสินค้าบนทีวี ซึ่งประสบความสำเร็จทำให้สามารถบริหารเวลาโฆษณาสัดส่วนระหว่างลูกค้าภายนอกที่ซื้อสื่อและกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทเอง ทำให้เกิดผลของการใช้สื่ออย่างเต็มประสิทธิภาพ”

สินค้าที่เป็นไฮไลท์จะเป็นกลุ่มสินค้าเฮลท์แอนบิวตี้ (Health and Beauty) และกลุ่มสินค้าโฮมแอนไลฟ์สไตล์(Home and Lifestyle) เพราะเป็นเทรนด์การเติบโตที่สูง จากข้อมูลศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่าธุรกิจด้านสุขภาพความงามเป็นดาวรุ่งยอดนิยมต่อเนื่องกันมา 6 ปี มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 250,000 ล้านบาทขณะที่ Euromonitor International เปิดเผยว่าตลาดอาหารเสริมสุขภาพมีมูลค่ากว่า 518,000 ล้านบาท

ซึ่ง RS ได้ขยับมาลุยธุรกิจสินค้าเพื่อสุขภาพมา 4 ปีแล้ว ในปีนี้จะมีสินค้าใหม่เพิ่มอีก 15 รายการ ได้แก่ สินค้าแบรนด์ตัวเอง 7 รายการ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์และกลุ่มสินค้าออร์แกนิคเพื่อสุขภาพ 4 รายการ กลุ่มผลิตภัณฑ์แฮร์แคร์ 1 รายการ กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริม 2 รายการ และสินค้าแบรนด์พาร์ทเนอร์กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริม 8 รายการ

ทำให้ในปีนี้ตั้งเป้ารายได้รวมที่ 5,800 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจเฮลท์แอนบิวตี้กลายเป็นธุรกิจหลักไปแล้ว มีรายได้  2,500ล้านบาท และธุรกิจโฮมแอนไลฟ์สไตล์ 800-1,000 ล้านบาท ซึ่ง RS ปั้นแบรนด์ แล้วขายสินค้าผ่านช่องทางตัวเอง เพราะมีข้อได้เปรียบรู้ว่าฐานผู้ชมคือใครช่วงไหนใครดูมีการเลือกใช้สื่อที่เหมาะสมกับผู้บริโภค ทำให้เสนอสินค้าได้ตรงกลุ่ม

สรุป

ธุรกิจความงามได้กลายเป็นธุรกิจหลักของ RS ไปแล้วเรียบร้อย ยุคนี้มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว การที่ RS ขยับตัวไปธุรกิจอื่นก็มใช่เรื่องแปลก เพราะธุรกิจเพลง ธุรกิจสื่อมีความผันผวน และโดนเทคโนโลยีเล่นงานตลอด เมื่อมีการจับจุดได้ถูก ทำให้โฟกัสได้เต็มที่

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา