เคล็ดลับการบริหารองค์กรฉบับ RS Group ต้องปรับตัว มีความเร็ว ทำงานที่ท้าทายเสมอ

RS Group กลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่น่าจับตามอง เพราะสามารถปรับเปลี่ยน หรือ Transform ตัวเองได้อย่างน่าสนใจ จากการเป็นบริษัท entertainment ธรรมดาที่ขายเพลงและศิลปินวัยรุ่นในอดีต มาเป็นบริษัท entertainmerce ที่มีรายได้หลักมาจากการพาณิชย์

นอกจากการปรับตัวทางธุรกิจแล้ว การปรับตัวของ “คน” ในองค์กรเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการจะปรับธุรกิจในองค์กร สร้างการเติบโตได้ คนในองค์กรซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญก็ต้องปรับตัวและสร้างประสิทธิภาพในการทำงานเช่นกัน มาดูกันว่า เฮียฮ้อสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS Group มีเคล็ดลับในการบริหารองค์กรอย่างไรให้เติบโตได้อย่างมั่นคง

ย้อนกลับไป 10 ปี ทุกคนรู้จัก RS กับธุรกิจเพลง แต่อาณาจักร RS Group ในปัจจุบันมีธุรกิจในเครือมากมาย เช่น ช่อง 8, COOLISM, Lifestar BIZ ทุกส่วนมีความเชื่อมโยงกันและสร้างการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องยอมรับว่า RS ได้รับผลกระทบจากโควิด จนทำให้ต้องรื้อแผนธุรกิจใหม่ในช่วง มี.ค.-เม.ย. ที่ผ่านมา

แต่จากความสามารถในการปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ RS สามารถสร้างผลกำไรในครึ่งปีแรกได้ดี และคาดว่าในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 จะมีผลประกอบการดีขึ้นอีก

Agile นำไปสู่ความเร็วในการทำงาน

เดิมธุรกิจวางแผนกันเป็นปี อาจจะครึ่งปี หรือเป็นไตรมาส แต่ปัจจุบันเฮียฮ้อบอกว่า ธุรกิจต้องปรับกลยุทธ์สัปดาห์ต่อสัปดาห์ เพราะโลกเปลี่ยนไปเร็วมาก ถ้าปรับตัวไม่ทันก็ยากจะสร้างการเติบโตได้ สำหรับการทำงาน RS ใช้หลัก Agile เข้ามาใช้

หลักการ Agile ของ RS คือการแบ่งทีมงานรับผิดชอบหน่วยธุรกิจต่างๆ และองค์กรต้องมีระดับชั้นไม่มาก เพื่อให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว เฮียฮ้ออธิบายว่า “การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการที่องค์กรมีปัญหา เพียงแต่รู้สึกว่า Speed ในการทำงานที่คิดว่าเร็วอาจจะเร็วไม่พอ

“Agile ทำให้ทุกคนต้องทำงานเร็ว และสามารถพูดคุยกันได้ตลอด ทุกทีมสามารถรายงานตรงกับเฮียได้ตลอด ถ้ามีปัญหาอะไรสามารถตัดสินใจแก้ไขได้ทันที”

นอกจากนี้ RS ยังนำแนวทางการวัดผลแบบ OKR หรือ Objective and Key Results มาใช้ ส่วนสำคัญคือ ต้องการให้ทุกคนมีส่วนร่วมมองเป้าหมายเดียวกัน และยังสามารถวัดผลได้หลายมิติทั้งด้านวัฒนธรรมองค์กร การทำงานเป็นทีมและการอยู่ร่วมกัน 

สร้างความท้าทาย ดึงคนรุ่นใหม่ทำงานกับคนรุ่นเดิม

RS ทำธุรกิจเพลงมา 40 ปี และเริ่มทำธุรกิจพาณิชย์มา 4 ปี แต่สามารถบริหารพนักงานภายในองค์กรร่วมกันได้อย่างดี เฮียฮ้อ บอกว่า ส่วนสำคัญคือพนักงานเดิมที่มีความเชี่ยวชาญ กับ พนักงานใหม่ที่มีความสามารถจะปรับตัวเข้าหากันและทำงานร่วมกันได้ โดยธุรกิจของ RS ทั้ง ทีวี, วิทยุ, เพลง และพาณิชย์ ต้องมีความเชื่อมโยงส่งเสริมกันหมด โดยมีพนักงานทำหน้าที่เชื่อมสินค้าและบริการเหล่านั้น

ประเด็นสำคัญคือ ต้องสร้างความท้าทาย และทำให้พนักงานรู้สึกเป็นส่วนสำคัญของงาน โดยเฮียฮ้อเสริมว่า “สมัยนี้คนรุ่นใหม่ไม่ได้เลือกงานจากเงินเดือนเพียงอย่างเดียว แต่พวกเขาจะเลือกจากปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ความท้าทายของงาน สภาพแวดล้อม เพื่อนร่วมงาน ความก้าวหน้า” 

เฮียฮ้อตั้งใจปั้นให้ RS เป็นบริษัทที่คนรุ่นใหม่ซึ่งมีความสามารถอยากร่วมงานด้วย โดยอาศัยความน่าสนใจของ “ธุรกิจที่สามารถทรานส์ฟอร์มตัวเองจากธุรกิจเพลงซึ่งทำมาตลอด 40 ปี เปลี่ยนมาเป็นธุรกิจคอมเมิร์ซ ที่ใช้เวลาเพียง 4 ปีแต่มีผลประกอบการเติบโตแซงหน้าธุรกิจเดิมไปเรียบร้อยแล้ว” 

สรุป

เคล็ดลับของเฮียฮ้อ คือการทำให้พนักงานทุกคนได้มีโอกาสเรียนรู้แนวคิดและสิ่งใหม่ๆ เสมอ และทำให้คนรุ่นใหม่อยากมาร่วมงาน ซึ่งคุณสมบัติสำคัญคือ ด้วยต้องเป็นคนมีแพสชั่น ขวนขวาย กระตือรือร้น แปลว่า “ถ้าอยากให้พนักงานมีแพสชั่น องค์กรก็ต้องมีแพชชั่นด้วยเช่นกัน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา