ผลบวกจากอินเดียแบนส่งออกข้าว ไทยและเวียดนามได้ประโยชน์เต็มๆ

เวียดนามและไทยส่งออกข้าวเพิ่มขึ้น หลังอินเดียจำกัดการส่งออก

อินเดียถือเป็นประเทศส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ประกาศระงับการส่งออกข้าวที่ไม่ใช่ข้าวสายพันธุ์บาสมาติ (non-basmati) ข้อมูลจาก Rice of India ระบุว่า ในโลกนี้มีสายพันธุ์ข้าวกว่า 10,000 ชนิด และข้าวที่ไม่ใช่สายพันธุ์บาสมาตินี้มีความหลากหลาย ทั้งรูปทรงและขนาด มีทั้งทรงยาว เรียว มีทั้งสั้นและหนา มีทั้งที่เป็นทรงหยดน้ำและทรงกลม มีหลากหลายสี

Rice

ส่วนข้าวสายพันธุ์บาสมาติจะมีลักษณะเฉพาะตัว มีกลิ่นหอม มีคุณภาพสูง พบมากในอินเดีย ปากีสถาน ศรีลังกา และเนปาล ซึ่งอินเดียประกาศระงับการส่งออกข้าวที่ไม่ใช่สายพันธุ์บาสมาติตั้งแต่ 20 กรกฎาคม 2023 ที่ผ่านมา การระงับดังกล่าวก็เพื่อต้องการทำให้ราคาข้าวในอินเดียลดลง หลังจากเกิดมรสุมทำให้ฝนตกหนักจนเกิดความเสียหายต่อพืชผลและส่งผลให้ราคาขายปลีกข้าวเพิ่มขึ้น 3%

อินเดียส่งออกข้าวคิดเป็นสัดส่วนกว่า 40% ของโลก การสั่งแบนการส่งออกข้าวบางส่วนของอินเดียจึงส่งผลบวกให้การส่งออกข้าวในไทยและเวียดนามเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากประเทศที่ต้องการนำเข้าข้าวจำเป็นต้องหาแหล่งส่งออกข้าวรายใหม่ ด้านนายกรัฐมนตรี Pham Minh Chinh แห่งเวียดนาม กล่าวเมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมาว่า การเกษตรคือเสาหลักทางเศรษฐกิจของเวียดนาม

เวียดนามส่งออกข้าวในปี 2023 มีมูลค่ามากถึง 4.6 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.61 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 35% โดยส่งออกไปยังอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า สิงคโปร์เพิ่มขึ้น 40% และกานาเพิ่มขึ้นราว 60% เวียดนามเป็นผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลกและเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก

แม้ว่าอุณภูมิของประเทศในแถบเอเชียจะสูงขึ้นและมีฝนน้อยจากปรากฏการณ์เอลนีโญ แต่การผลิตข้าวในเวียดนามก็เพิ่มขึ้น 1-2% มากกว่าปี 2022 และผลิตได้มากกว่า 43 ล้านตัน การส่งออกข้าวของเวียดนามจะอยู่ที่ราวๆ 6-7 ล้านตันต่อปี แต่ปี 2023 ส่งออกได้ราว 8 ล้านตัน

ขณะที่ประเทศไทยส่งออกข้าวรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก มีการประเมินว่าส่งออกข้าวได้ราว 8 ล้านตันในปี 2023 เพิ่มขึ้นจากเดิมกว่า 10% จากปีก่อนหน้าและเป็นปริมาณที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2018 แม้จะประสบภาวะแห้งแล้งและต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ก็ปรับตัวได้ดีขึ้นในไม่กี่ปีที่ผ่านมา

การส่งออกข้าวที่มากขึ้นทั้งของไทยและเวียดนามได้รับผลกระทบโดยตรงจากการงดส่งออกข้าว Non-Basmati ของอินเดีย เนื่องจากอินเดียเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลกอยู่ที่ราว 40% ลูกค้ารายใหญ่ของอินเดียคืออิหร่าน ซาอุดิอาระเบียและจีน และประเทศแถบแอฟริกาอีกหลายแห่งที่ต้องการข้าวสูง ประเทศนำเข้าข้าวเหล่านี้จึงมองหาแหล่งผลิตและส่งออกข้าวที่มีความผันผวนน้อย เช่น อินโดนีเซียจะนำเข้าข้าวจากไทย 2 ล้านตันในปี 2024 หลังประธานาธิบดีโจโค วิโดโดพบปะกับเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการคลังเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา อินโดนีเซียจะนำเข้าข้าวจากอินเดีย 1 ล้านตัน และจากกัมพูชาด้วย

การจำกัดการส่งออกข้าวของอินเดีย ส่งผลให้ราคาส่งออกข้าวในเดือนสิงหาคมมีอัตราที่สูงขึ้นกว่าเดือนก่อนหน้าถึง 15% เป็น 645 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 22,000 บาทต่อตัน ขณะที่สมาคมอาหารเวียดนามระบุว่า ราคาข้าวโลกจะเพิ่มสูงขึ้น 15%-25%

ในเวียดนาม ราคาขายข้าวอยู่ที่ราว 4 เหรียญสหรัฐต่อ 3 กิโลกรัม ราคาเพิ่มขึ้น 40% ชาวบ้านในเวียดนามระบุว่า แม้ราคาข้าวจะแพงขึ้นแต่เธอก็ไม่ได้ซื้อข้าวกินน้อยลง แต่หันมาประหยัดค่าใช้จ่ายด้านอื่นแทน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือการออกไปทานข้าวนอกบ้าน

มีการคาดการณ์ว่าราคาข้าวจะยังคงแพงขึ้นต่อเนื่องในปี 2024 หากอินเดียจะยังจำกัดการส่งออกข้าวต่อไป

ที่มา – Nikkei Asia, Rice of India, CNN

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา