โควิด-19 ทำการท่องเที่ยวทรุดหนัก ถึงขั้นประกาศราชกิจจา กำหนดเกณฑ์คืนเงินนักท่องเที่ยว

ในที่สุด ก็มีการประกาศหลักเกณฑ์การจ่ายเงินค่าบริการคืนให้นักท่องเที่ยว โดยออกประกาศคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ประกาศราชกิจจานุเบกษาฉบับนี้ ระบุว่า เป็นการปรับปรุงการกำหนดอัตราเงินค่าบริการผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ต้องจ่ายคืนให้แก่นักท่องเที่ยว กรณีที่นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางได้เฉพาะตัวหรือมีเหตุให้ต้องยกเลิกการนำเที่ยวตามที่ได้โฆษณาไว้

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 28 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 คณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ออกประกาศไว้ ดังนี้

ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดอัตราการจ่ายเงินค่าบริการคืนให้แก่นักท่องเที่ยว พ.ศ. 2563

ข้อ 2 ประกาศนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ 3 ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการเกี่ยวกับอัตราการจ่ายเงินค่าบริการคืนให้นักท่องเที่ยว พ.ศ. 2553

ข้อ 4 ในกรณีมีเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางได้เฉพาะตัว ให้นักท่องเที่ยวแจ้งความประสงค์ขอรับเงินค่าบริการคืนจากผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว

Photo : Shutterstock

เมื่อนักท่องเที่ยวแจ้งความประสงค์ตามวรรคหนึ่ง ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องจ่ายเงินคืนแก่นักท่องเที่ยวในอัตรา ดังนี้

(1) ถ้านักท่องเที่ยวแจ้งยกเลิกเดินทางล่วงหน้าให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวทราบไม่น้อยกว่า 30 วันก่อนวันที่นำเที่ยว ให้คืนอัตราร้อยละหนึ่งร้อยของเงินค่าบริการ (หรือคืนเงิน 100% นั่นเอง)
(2) ถ้านักท่องเที่ยวแจ้งยกเลิกการเดินทางล่วงหน้าให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวทราบไม่น้อยกว่า 15 วันก่อนวันที่นำเที่ยว ให้คืนในอัตราร้อยละห้าสิบของเงินค่าบริการ (50%)
(3) ถ้านักท่องเที่ยวแจ้งยกเลิกการเดินทางล่วงหน้าน้อยกว่า 15 วันก่อนวันที่นำเที่ยว ไม่ต้องคืนเงินค่าบริการ

ข้อ 5 กรณีมีเหตุให้ยกเลิกการนำเที่ยวตามที่โฆษณาไว้ โดยไม่ใช่ความผิดของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจ่ายเงินค่าบริการคืนแก่นักท่องเที่ยวในอัตราร้อยละหนึ่งร้อยของเงินค่าบริการ (100%)

Photo : Shutterstock

ข้อ 6 การจ่ายค่าบริการคืนให้แก่นักท่องเที่ยวตามข้อ 4 วรรคสอง หรือข้อ 5 แล้วแต่กรณีหากผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวมีค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายจริงเพื่อการเตรียมการจัดนำเที่ยว ให้นำมาหักจากเงินค่าบริการที่ต้องจ่าย ทั้งนี้ ให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวแสดงหลักฐานให้นักท่องเที่ยวทราบ ดังนี้ ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่า, ค่ามัดจำของบัตรโดยสารเครื่องบิน, ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ

ในกรณีที่ค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามวรรคหนึ่งสูงกว่าเงินค่าบริการที่ได้ชำระไว้ ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจะเรียกจากนักท่องเที่ยวไม่ได้

ข้อ 7 ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวคืนเงินค่าบริการที่นักท่องเที่ยวได้ชำระไว้ไม่ถูกต้อง หรือไม่ครบถ้วนตามหลักเกณณ์ข้อ 4, 5, 6 ให้นักท่องเที่ยวร้องเรียนต่อนายทะเบียนตามมาตรา 40 

ข้อ 8 การแจ้งขอรับเงินค่าบริการคืนตามข้อ 4 ที่ได้ยื่นไว้แล้วก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับให้ถือว่าเป็นการแจ้งตามประกาศนี้

ที่มา – ราชกิจจานุเบกษา 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
สนใจความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การทูต การเมือง ประชาธิปไตย เสรีภาพ ความยุติธรรมและความเท่าเทียม ชอบอ่าน ชอบเขียน ชอบสืบค้นข้อมูล ชอบทำคอนเทนต์