“Power Buy” ปักหมุด Omni Channel ปั้นออนไลน์ให้โต 10%

ในขณะที่ค้าปลีกหลายรายเริ่มขยับสู่ช่องทางออนไลน์ และ Omni Channel เพื่อขยายช่องทางการเติบโต โดยที่ Power Buy ได้นำร่องยุทธศาสตร์นี้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พร้อมดันในส่วนออนไลน์โต 10% ในปีนี้

อัดกลยุทธ์ Omni Channel ผนึกออฟไลน์-ออนไลน์เข้าด้วยกัน

ลำพังตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยไม่มีการเติบโตมากนัก แม้จะโตแต่ก็โตแค่น้อยนิด อาศัยปัจจัยจากวิถีชีวิตของคนไทยยุคนี้ที่นิยมอยู่คอนโด เป็นครอบครัวเล็กลงมากขึ้น ทำให้ผู้เล่นตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ามีการประบตัวยกใหญ่ รวมไปถึงค้าปลีกในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย

จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ “เพาเวอร์บาย” ค้าปลีกกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และไอทีใช้กลยุทธ์ Omni Channel มีการพัฒนา และได้เริ่มทดลองใช้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เพื่อรวมการช้อปทั้งออนไลน์ และออฟไลน์เข้าด้วยกัน หรือ O2O ซึ่งเป็นการสร้างประสบการณ์ในการซื้อของลูกค้าให้สะดวกขึ้น ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

Omni Channel ของเพาเวอร์บายประกอบด้วย 3 บริการด้วยกัน ได้แก่
1. Online Kiosk เครื่องให้บริการอัติโนมัติรูปแบบ Multi-function self service เป็นหน้าจอดิจิทัลให้ค้นหาสินค้า และกดสั่งซื้อได้ทันที ตอนนี้มีติดตั้ง 15 สาขาแล้ว
2. Click & Collect สามารถซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ เลือกในการจัดส่งถึงบ้านได้ มีการส่งฟรี หรือจะไปรับสินค้าด้วยตนเองที่สาขา และจุดรับบริการใกล้บ้านได้
3. Power Buy Digital Signature ปรับโฉมร้านใหม่ให้มีรูปแบบดิจิทัล มีการปรับป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆ ให้อยู่รูปแบบดิจิทัล

โลร็องต์ โปซ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด เล่าว่า

เราได้วางจุดยืนของเพาเวอร์บายว่าไม่ได้จำกัดแค่ขายสินค้าอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างเดียว แต่ต้องเป็น Total Service Solution คือรวมบริการทุกอย่างให้ลูกค้า ฉะนั้นความท้าทายที่สุดคือเรื่องการสร้าง Customer Journey ให้มีประสบการณ์ที่ดี ต้องเป็นการช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ”

มือถือ-คอม ดันตลาดออนไลน์โต

โลร็องต์ได้ฉายภาพตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าต่ออีกว่า ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเติบโตไม่มากเท่าไหร่ แต่ยังมีโอกาสจากการที่คนรุ่นใหม่อยู่คอนโดมากขึ้น และโอกาสจากการใช้สมาร์ทโฟน ส่งผลให้ช่องทางออนไลน์มีการเติบโต และสินค้ากลุ่มมือถือ สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ เป็นสินค้าขายดีในช่องทางออนไลน์ มีส่วนสำคัญทำให้เติบโต

ปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากช่องทางออนไลน์ของเพาเวอร์บายมีอยู่ 5% ของรายได้ทั้งหมด มีการตั้งเป้าเพิ่มเป็น 10% ภายในปี 2020

สำหรับปีนี้ตั้งเป้ายอดขายรวม 17,081 ล้านบาท และเติบโต 8% ส่วนช่องทางออนไลน์ เติบโต 10%

ปัจจุบันเพาเวอร์บายมีทั้งหมด 88 สาขา ในสิ้นปีนี้จะมีเพิ่มเป็น 92 สาขา

สรุป

ธุรกิจค้าปลีกในหลายๆ กลุ่มสินค้าหันมาให้ความสำคัญกับออนไลน์ และ Omni Channel มากขึ้น มีการผลักดันเป็นกลยุทธ์หลัก โดยที่เพาเวอร์บายได้เริ่มนำร่องในปีที่ผ่านมาพบว่าทำให้การเติบโตสูงขึ้น แต่ที่สำคัญคือประสบการณ์การซื้อของลูกค้า ที่จะสร้างความประทับใจให้กลับมาใช้บริการอีก

 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา