Posco โรงงานผลิตเหล็กกล้ายักษ์ใหญ่เกาหลีใต้และ EU เตรียมคว่ำบาตรทหารเมียนมา

Posco โรงงานผลิตเหล็กกล้ายักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้เตรียมยุติการร่วมทุนทำธุรกิจเหล็กกล้ากับรัฐบาลทหารเมียนมา Posco กลายเป็นธุรกิจใหญ่รายล่าสุดที่กำลังจะตัดความสัมพันธ์กับรัฐบาลทหารเมียนมา หลังถูกกดดันอย่างหนักทั้งจากนักลงทุนและนักเคลื่อนไหว

Sanction Myanmar

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เหล่านักลงทุนเร่งเร้าให้กลุ่มอุตสาหกรรม Posco ออกจากการร่วมทุนในการทำธุรกิจเหล็กกับเมียนมา เพื่อกดดันการรัฐประหารเมียนมาที่ปัจจุบันมีการจับกุมผู้มีความคิดเห็นต่างทางการเมืองกับทหารที่ยึดอำนาจจนได้เป็นรัฐบาลในปัจจุบันรวมถึงมีการสังหารประชาชนที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยเป็นจำนวนมาก การยุติความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจเช่นนี้ ก็เพื่อตัดทุกความเชื่อมโยงทางการเงินที่มีต่อกัน

Posco C&C  เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ทำเหล็กกล้าของเกาหลีใต้ หลังจากที่ถูกกดดันอย่างต่อเนื่องก็เริ่มออกมาเปิดเผยว่า อาจจะยุติการเป็นหุ้นส่วนกับบริษัท Myanmar Economic Holdings Limited (MEHL) ที่ควบคุมโดยทุนทหารเมียนมา ด้าน Park Yoo-kyung ที่ปรึกษา APG หนึ่งในกลุ่มนักลงทุนที่เรียกร้องให้ Posco จัดการกับทหารเมียนมาหลังละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างมหาศาลนับตั้งแต่รัฐประหารครั้งล่าสุด ซึ่งก็ไม่ได้ทำธุรกิจร่วมกันแค่เรื่องผลิตเหล็กกล้าเท่านั้นแต่ยังมีเรื่องที่ Posco เป็นหุ้นส่วนกับวิสาหกิจเมียนมาด้านน้ำมันและก๊าซด้วยที่ทหารเมียนมาควบคุมอยู่ด้วย

ทั้งสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และแคนาดาต่างออกมาคว่ำบาตรทหารเมียนมาผ่านบริษัท MEHL, MEC (Myanmar Economic Corporation) หลังจากที่มีการรัฐประหาร ทำให้บริษัทต่างประเทศที่กำลังทำธุรกิจกับเมียนมาอยู่เริ่มเผชิญความเสี่ยงไปด้วย ทั้งนี้ Reuters รายงานว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สหภาพยุโรปหรือ EU กำลังเตรียมคว่ำบาตรกับสองกลุ่มทุนทหารใหญ่ในเมียนมาและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหารราว 10 คนในเมียนมาเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นไปได้ว่าน่าจะเริ่มมีผลสัปดาห์หน้า

protest Myanmar coup
ภาพจาก Shutterstock

ทั้งนี้ ทุนทหารยักษ์ใหญ่ในเมียนมา 2 ราย ทั้ง MEHL และ MEC ต่างกระจายตัวทำธุรกิจทั้งเหมืองแร่ ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม โรงแรม โทรคมนาคมและธนาคาร พวกเขาติดอันดับเป็นผู้จ่ายภาษีรายใหญ่ของประเทศและยังเป็นแหล่งหาหุ้นส่วนที่เป็นบริษัทต่างชาติเพื่อเข้ามาลงทุนและทำธุรกิจร่วมกันในช่วงที่เมียนมามีทิศทางดำเนินนโยบายในทิศทางเสรีมากกว่านี้

สหภาพยุโรปก็เหมือนกับหลายชาติตะวันตกที่ประณามการกระทำเมียนมาและเรียกร้องให้คืนระบอบประชาธิไปไตยแต่รัฐบาลทหารเมียนมาก็ไม่ได้มีท่าทีดีขึ้นหลังถูกประณามและคว่ำบาตร ก็ต้องรอดูต่อจากนี้ว่า ถ้ามีทุนใหญ่หลายๆรายเดินหน้าคว่ำบาตร ทหารเมียนมาจะตอบสนองในทิศทางที่ดีขึ้นกว่านี้หรือไม่

ที่มา – Financial Times (1), (2), Reuters

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา