ขิงกันไปขิงกันมา จนลูกค้าได้ประโยชน์: ย้อนดูอดีต “พิซซ่า” ในประเทศไทย

ถ้าพูดถึงอาหารประเภทพิซซ่าถือเป็นหนึ่งในอาหารจากอิตาลี ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย ที่ถ้าทุกวันนี้พูดถึงพิซซ่า จะนึกถึง 2 แบรนด์คู่แข่งตลอดกาล พิซซ่าฮัท และ พิซซ่าคอม ถึงเวลานี้แข่งกันมามากกว่า 20 ปีแล้ว และยังมีแบรนด์อื่นๆ เช่น โดมิโนส์พิซซ่า และ นารายพิซเซอร์เรีย มาเป็นทางเลือกอีกด้วย

ทำโปรโมชั่นเชิงเปรียบเทียบ เรียกยอดขาย

ยิ่งล่าสุด มีโปรโมชั่นแข่งเดือด ทุบราคาพิซซ่าถาดกลาง พิซซ่าคอมให้ 99 บาท พิซซ่าฮัทจัด 98 บาทในทันที นี่แหละที่เรียกว่า โปรโมชั่นเชิงเปรียบเทียบ

เมื่อแบรนด์ออกโปรโมชั่นที่รุนแรงมาในตลาด หากพิจารณาในทางธุรกิจ แปลว่าต้องการดึงดูดให้ผู้บริโภคหันมาสนใจ สร้างกระแสและการถูกพูดถึงในวงกว้าง และแน่นอนว่าเป็นการกระตุ้นยอดขายแบบรวดเร็ว ในมุมของการแข่งขัน การออกโปรโมชั่นที่เหมือนกัน เรียกว่า Copy Cat เธอทำฉันทำด้วย ถือเป็นกลยุทธ์ที่เรียบง่ายแต่ได้ผล การลดราคาลงไปอีก 1 บาทของพิซซ่าฮัท ไม่มีผลอะไรมากนักสำหรับผู้บริโภค แต่สร้างแรงกระเพื่อมระลอกที่สองตามมาทันที

นั่นคือ จะเกิดการถูกพูดถึงมากขึ้น เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ในราคาพิเศษมากขึ้น เท่ากับผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์มากขึ้นจากโปรโมชั่นนี้

ทำไม พิซซ่า ต้องแข่งขันกันดุเดือดขนาดนี้?

ตลาดพิซซ่าในประเทศไทย มีมูลค่าตลาดต่อปีประมาณ 12,000 ล้านบาท มีการแข่งขันกันดุเดือดมานานมากแล้ว ในอดีต พิซซ่าฮัท โดยบริษัท พีเอช แคปปิตอล จำกัด เป็นแบรนด์พิซซ่าหลักเจ้าเดียวในประเทศไทย เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2523 ถึงปัจจุบันก็กว่า 44 ปีแล้ว ช่วงแรกมีโปรโมชั่น บุฟเฟต์พิซซ่า กินในร้านได้ไม่อั้น เป็นที่ถูกใจวัยรุ่นสมัยนั้น และกล่าวได้ว่า พิซซ่าฮัท คือร้านอาหารแรกๆ ในประเทศไทย ที่มีบริการแบบ Delivery ส่งมาให้กินได้ถึงบ้าน และมีการพัฒนาพิซซ่าแบบใหม่ๆ เช่น พิซซ่าขอบชีส ขอบไส้กรอก และยังมีโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 อีกด้วย

ต่อมาในปี 2544 ได้ถือกำเนิดแบรนด์ พิซซ่าคอม หรือ เดอะ พิซซ่า คอมปานี ขึ้นโดยไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป ซึ่งบริหารเชนร้านอาหารอีกหลายแบรนด์ กลายเป็นคู่แข่งตลอดกาล และกล่าวได้ว่าทำการตลาดและโปรโมชั่นเชิงเปรียบเทียบกันมาโดยตลอด ถือแบรนด์หนึ่งทำ อีกแบรนด์หนึ่งก็ทำด้วยตลอด ปัจจุบัน พิซซ่าคอม มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ประมาณ 70% ของตลาดรวม

อีก 2 แบรนด์ที่หลายคนคุ้นหูคุ้นตาอยู่ เช่น นารายพิซเซอร์เรีย โดยบริษัท นารายณ์ พิซเซอเรีย จำกัด ที่จริงแล้วมีอายุมากกว่าพิซซ่าฮัทอีก เพราะก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2511 เป็นร้านอาหารสไตล์อิตาเลียนเจ้าแรกๆ ที่เปิดในไทย สาขาส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพและปริมณฑลเท่านั้น อีกแบรนด์คือ โดมิโน่ส์พิซซ่า โดยบริษัท โดมิโน่ เอเซีย แปซิฟิค จํากัด ที่เพิ่งเปิดประกาศเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในไทยปี 2563 ที่ผ่านมานี้ และอยู่ระหว่างการพัฒนาช่องทางทั้งโทรศัพท์และออนไลน์ รวมถึงความครอบคลุมการให้บริการที่มากขึ้น

ยังไม่นับถือร้านพิซซ่าที่ไม่ใช่เชนร้านอาหารอื่นๆ อีกไม่น้อย ซึ่งก็มีรสชาติที่แตกต่างกันไป

บทสรุป โปรโมชั่นการทำตลาด ยิ่งทำลูกค้ายิ่งได้ประโยชน์

สำหรับกรณีศึกษาการทำตลาดพิซซ่าถาดกลาง 99 และ 98 บาทของพิซซ่าคอมและพิซซ่าฮัท ในมุมนักการตลาด นี่คือการแข่งขันกันโดยตรงของ 2 คู่แข่ง ส่งผลดีต่อผู้บริโภค แม้จะมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นบ้าง แต่โดยรวมถือเป็นประโยชน์ต่อลูกค้า แม้แต่โดมิโนส์พิซซ่า ที่ไม่ได้มีโปรโมชั่น แต่ก็ยังขอมีเอี่ยว โดยการออกประกาศมาร่วมวงสร้างกระแสด้วย

สุดท้าย ไม่ใช่แค่วงการพิซซ่าเท่านั้น เชื่อว่าในฐานะผู้บริโภคก็อยากเห็นการออกโปรโมชั่นแข่งขันกันดุเดือดแบบนี้อีกในทุกตลาดของสินค้าและบริการในประเทศไทย เพราะนั่นคือประโยชน์ที่เราทุกคนจะได้รับ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา