นอร์เวย์ กลายเป็นประเทศที่มีการเปลี่ยนผ่านของรถยนต์ไฟฟ้าเร็วที่สุดในโลก เพราะถึงตอนนี้ประเทศที่มีประชากรราว 5 ล้านคน ก็มีรถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนมากกว่า 1 แสนคันแล้ว แถมทางรัฐก็ยังสนับสนุนเรื่องนี้ต่อเนื่อง
ใช้ภาษีเท่าเทียมกับรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น
จากการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ก็ทำให้เสียงส่วนน้อยของรัฐบาลกังวลว่าจะมีรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งอยู่บนท้องถนนมากจนเกินไป ส่งผลต่อการซ่อมบำรุงที่เพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ จึงเสนอในที่ประชุมว่าต้องการตัดการสนับสนุนภาษีในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีน้ำหนักมากกว่า 2 ตันขึ้นไป หรือ Tesla Tax เพราะมันกระทบกับรถยนต์ไฟฟ้า Tesla รุ่น Model X
เพราะรุ่นดังกล่าวเป็นรถยนต์แบบ SUV ที่มีขนาดใหญ่ และการงดเว้นภาษีก็ทำให้ราคาของรถยนต์รุ่นนี้เพิ่มขึ้นราว 70,000 โครนนอร์เวย์ (ราว 2.8 แสนบาท) ซึ่งสุดท้ายแล้วที่ประชุมของรัฐบาลก็ตีตกเรื่องนี้ เพราะต้องการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเท่าเทียม และทำตามสัญญางดเว้นภาษี 25% กับรถยนต์ไฟฟ้าไปจนถึงปี 2563
ซึ่งข่าวนี้ทำให้ Tesla ค่อนข้างโล่งใจ เพราะก่อนหน้านี้ได้ประกาศออกมาว่า เตรียมลงทุนขยายสถานีชาร์จในประเทศนอร์เวย์ให้มากที่สุดในกลุ่มยุโรป เพื่อตอบรับกับตลาด โดยที่ประเทศนอร์เวย์มีรถยนต์แบรนด์ Tesla จดทะเบียนมากกว่า 13,000 คัน ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศก็มียอดจดทะเบียนเกิน 1 แสนคันแล้ว
ทั้งนี้นอกจากมาตรการงดเว้นภาษี 25% แล้ว ทางรัฐบาลนอร์เวย์ยังให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการให้ที่จอดรถฟรี, ชาร์จไฟฟรี, ขึ้นทางพิเศษฟรี รวมถึงวิ่งบนเส้นรถประจำทางได้ โดยเหตุที่ทำอย่างนี้ได้ เพราะนอร์เวย์ใช้ผลิตไฟฟ้าพลังน้ำจากหิมะที่ละลายทุกปีเป็นหลัก จึงมีต้นทุนค่าไฟที่ถูกมาก
ดังนั้นแผนการมีรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 4 แสนคันวิ่งอยู่บนท้องถนนภายในปี 2563 ก็คงไม่ใช่เรื่องยากแน่ๆ แต่หากทางประเทศไม่มีการจัดการที่ดีพอ การมีรถยนต์จำนวนมาก ในประเทศเล็กๆ ย่อมทำให้การจราจรตัดขัดอย่างแน่นอน โดยก่อนหน้านี้ก็มีประชากรออกมาบ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างแล้ว
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา