ตลาด Pay-TV ยังไหว? Nextstep จัดแพ็ค 300 บาทดู HD 24 ช่อง ดึง 6 ล้านจานเปลี่ยน

หลังจากปี 2559 เป็นปีแห่งวิบากกรรมของผู้ให้บริการ Pay-TV เพราะมีทั้ง Z Pay TV ของแกรมมี่ และ CTH ต่างยกเลิกให้บริการ กลับมาเหลือเพียง Truevision เหมือนเดิม แล้วนี่ยังจะมีคนกล้าเขามาทำตลาดอีกเหรอ

อีกก้าวของ Nextstep กับ Pay-TV

อย่างที่เกริ่นไปข้างต้น ที่แสดงให้เห็นถึงโอกาสในตลาด Pay-TV ที่แทบจะไม่มี และถูกผูกขาดจาก Truevision ที่เป็นผู้เล่นหลัก แต่ถึงจะผูกขาดอย่างไร ต้นปี 2560 ก็เพิ่งประกาศถอดรายการเกือบ 20 ช่องออกไป ยิ่งสร้างความชัดเจนว่า การเข้ามาในตลาด Pay-TV ตอนนี้เหมือนมาขุดทองในเหมืองที่ไม่มีอะไรแล้ว แต่ทำไมอยู่ๆ Nextstep บริษัทที่ทำรายการ “สำรวจโลก” และปี 2558 เพิ่งทำตลาดโครงข่ายทีวีดาวเทียมในชื่อ FreeviewHD ไป จึงตัดสินใจเข้ามาทำตลาด Pay-TV ล่ะ

อมรภัทร ชมรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนกซ์สเตป จำกัด เล่าให้ฟังว่า เมื่อปี 2558 บริษัทตัดสินใจรุกตลาดทีวีดาวเทียม เพราะเห็นช่องว่างในตลาด ผ่านเนื้อหารายการที่ยังไม่มีคุณภาพนัก ประกอบกับการรับชมแบบความคมชัดสูง หรือ HD กำลังมา จึงร่วมกับ Intelsat เบอร์หนึ่งโครงข่ายดาวเทียม และบมจ.กสท โทรคมนาคม เพื่อเดินหน้า FreeviewHD ผ่านจุดเด่นเรื่องช่อง HD 11 ช่อง และเนื้อหารายการคุณภาพ จนมีผู้ใช้บริการในระบบหลักแสนราย แต่ด้วยตลาด Pay-TV ตอนนี้ยังเหลือช่องว่างอยู่มาก โดยเฉพาะระดับกลาง จึงตัดสินใจยกระดับตัวเองขึ้นมา

ช่องทั้งหมดของ GoodTV (ช่องที่คาดสีเงินคือแพ็คเกจ Silver และช่องที่คาดสีทองคือแพ็คเกจ Gold)

โดยการเข้ามาสู่ตลาด Pay-TV นั้นจะทำการเปลี่ยนชื่อ FreeviewHD เป็น GoodTV เพื่อสร้างความชัดเจนในการทำตลาด ประกอบด้วย 2 แพ็คเกจคือ Silver ที่รับชมแพ็คเกจเดียวกับ FreeviewHD จำนวน 44 ช่อง HD 11 ช่อง ไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน กับ Gold ที่จะเพิ่มช่อง HD เป็น 24 ช่อง ทำให้รับชมได้ทั้งหมด 57 ช่อง โดยจุดเด่นคือช่องรายการจาก Fox จำนวน 8 ช่อง เช่น Fox Thai HD, Nat Geo Wild HD และ Star World HD โดยมีค่าบริการอยู่ที่ 300 บาท/เดือน ถือว่าต่ำที่สุดในตลาดขณะนี้

ขายกล่องรุ่นใหม่เพิ่มรายได้อีกทาง

“Nextstep เดินหน้าสู่ Pay-TV เต็มตัว และต้องการเป็นตัวเลือกของการรับชม Pay-TV ในระดับกลาง ผ่านเนื้อหาที่ดีเหมือนกับชื่อ โดยเราจะใช้งบการตลาดปีนี้ราว 30 ล้านบาทเพื่อปูพรมการรับรู้ในกรุงเทพ และจังหวัดใหญ่ๆ รวมถึงทำโปรโมชั่นพิเศษให้กับลูกค้ากล่อง FreeviewHD เดิม เพื่อให้ย้ายมาอยู่บนกล่องใหม่ให้มากที่สุด โดยปีนี้วางเป้าไว้ที่ 50,000 – 100,000 ผู้ใช้บริการก็น่าจะเป็นที่พอใจ และหลังจากนั้นค่อยเป็น 5 แสนภายใน 3 ปี เพราะกว่า Pay-TV จะมีลูกค้าเยอะจริงๆ ต้องใช้เวลา ที่สำคัญเราเตรียมเพิ่มช่องรายการที่เป็น HD อีกด้วย”

ทั้งนี้ในประเทศไทยมีจำนวนจานดาวเทียมแบบ KU Band อยู่ราว 6 ล้านใบ ซึ่งการจะรับชม GoodTV ได้นั้นต้องเปลี่ยนตัวรับสัญญาณที่หน้าจาน และตัวกล่องใหม่ไม่ว่าจะใช้บริการทีวีดาวเทียมของเจ้าใดก็ตาม ทำให้บริษัทมีโอกาสสร้างรายได้จากการขายอุปกรณ์เหล่านี้ได้ด้วย ผ่านการจัดโปรโมชั่นเปลี่ยนกล่องเก่าในราคา 2,590 บาท และได้สิทธิ์ดูแพ็คเกจ Gold ฟรี 3 เดือน หรือถ้าขายพร้อมติดตั้งจานด้วยจะอยู่ที่ 3,590 บาท โดยการขายแบบเปลี่ยนกล่องเก่าจะคิดเป็น 70% ของยอดขาย

เศรษฐกิจไม่ดี คนอยู่บ้านคือโอกาส

สำหรับตลาด Pay-TV ในตอนนี้ยังมีโอกาสเติบโตในกลุ่มระดับกลางถึงล่างอยู่ เพราะเมื่อเศรษฐกิจไม่ดี คนก็อยู่บ้านมากขึ้น และถึงจะมีบริการ Subscription Video on Demand (SVOD) รวมถึงกล่อง IPTV เข้ามา ก็คงไม่ตอบโจทย์ เพราะนอกจากเสียค่าบริการแล้ว ยังต้องเสียค่าอินเทอร์เน็ตที่ค่อนข้างสูง ดังนั้น Pay-TV ที่สามารถสร้างความบันเทิงแก่พวกเขาในราคาถูกก็น่าจะตอบโจทย์พวกเขาได้ ส่วนเรื่องรายการกีฬาที่ Nextstep ไม่เอาเข้ามา เพราะตัวช่อง PPTV ที่ฉายฟุตบอลลีกยุโรป ทาง GoodTV ก็แพร่ภาพแบบ HD อยู่แล้ว จึงมองว่ายังไม่จำเป็น

สรุป

ถึง GoodTV จะมีภาพยนตร์, ซีรีส์, สารคดี และรายการเด็ก โดยขาดแค่รายการกีฬา แต่การมีเนื้อหารายการแค่นี้ ก็น่าจะเพียงพอต่อการรับชมในราคา 300 บาท/เดือนแล้ว ซึ่งผู้บริหารเชื่อว่าการมีครบทุกรส และราคารับได้ น่าจะดึงคนเข้ามาใช้บริการได้ไม่ยาก แต่ตลาดนี้ก็ต้องดูกันยาวๆ เพราะไม่เช่นนั้นก็คงไม่เหลือแค่ Truevision รายเดียว

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา