สื่อสารแบรนด์ผ่าน RALLIART อีกกลยุทธ์สำคัญในการสื่อสารแบรนด์ของ Mitsubishi Motors ประเทศไทย

Motorsports ยังเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การทำตลาดที่ผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายใช้สื่อสารแบรนด์ เพราะสามารถให้ข้อมูลเรื่องสมรรถนะของตัวรถ และความน่าเชื่อถือได้เป็นอย่างดี ซึ่ง Mitsubishi Motors ประเทศไทย ยังเดินหน้ากลยุทธ์นี้ต่อเนื่องผ่านการนำแบรนด์ RALLIART มาช่วยสื่อสาร

RALLIART คือแบรนด์การขับขี่สมรรถนะสูงของ Mitsubishi Motors มีการออกแบบที่แตกต่าง และโดดเด่นในการแข่งขันแรลลีประเภทต่าง ๆ ทั้งยังเคยชนะ World Rally Championship และ Paris-Dakar Rally สองรายการใหญ่ในกลุ่มการแข่งขันประเภทนี้

ปัจจุบัน RALLIART ยังเป็นหนึ่งในรุ่นย่อยของรถยนต์ที่ Mitsubshi Motors จำหน่ายในประเทศไทย และมีการส่งนักขับคนไทยไปแข่งขันรายการแรลลีต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง แล้วผลลัพธ์ที่ได้มาจากกลยุทธ์ดังกล่าวจะเป็นอย่างไร Brand Inside อยากชวนผู้อ่านมาเรียนรู้ไปด้วยกัน

Mitsubishi Motors

RALLIART กับความยิ่งใหญ่ในอดีต

RALLIART ก่อตั้งเมื่อปี 1984 ถูกวางตำแหน่งเป็นฝ่ายพัฒนารถยนต์สมรรถนะสูง และรถแข่งรายการต่าง ๆ ให้กับ Mitsubishi Motors และด้วยการคว้าชัยในการแข่งขันรายการ Paris-Dakar Rally ผ่านรถยนต์รุ่น Pajero หลายครั้ง รวมถึงลีลาการขับขี่อันเร้าใจกับรุ่น Lancer ในการแข่งขัน World Rally Championship

ทำให้ชื่อของ RALLIART โด่งดังทั้งฝั่งผู้ชื่นชอบกีฬาดังกล่าว และผู้ขับขี่รถยนต์ทั่วไปที่อาจพบเจอแบรนด์นี้บนสื่อต่าง ๆ ไม่มากก็น้อย ยิ่งหากพบเจอโลโก้นี้บนท้องถนน ก็คาดเดาได้ไม่ยากว่ารถคันดังกล่าวต้องมีสมรรถนะสูง หรือพร้อมลุยในทุกภาพถนน

แต่ช่วงปลายทศวรรษ 2000 RALLIART เริ่มถูกลดบทบาททั้งในมุมการพัฒนา และการสื่อสารแบรนด์ แม้จะมีการส่งรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ไปแข่งภายใต้ชื่อ RALLIART บ้างก็ตาม ชื่อของ RALLIART จึงเริ่มหายไปจากความคิดของผู้บริโภค ซึ่ง Mitsubishi Motors เองก็ปรับรูปแบบการตลาด ไม่ได้ชูเรื่อง Motorsports เหมือนในอดีต

การถูกปัดฝุ่นของแบรนด์ RALLIART

อย่างไรก็ตาม RALLIART ถูกปัดฝุ่นมาใช้ทางการตลาดอีกครั้งในประเทศไทยเมื่อปี 2022 หรือตรงกับที่แบรนด์ Mitsubishi Motors มีอายุครบรอบ 60 ปี โดยเวลานั้นมีการนำชื่อ RALLIART มาต่อหลังชื่อรถยนต์รุ่นต่าง ๆ เพื่อจูงใจลูกค้าด้วยการออกแบบ และสมรรถนะแบบ RALLIART

เวลานั้นมีรถยนต์ PPV รุ่น Pajero Sports ที่มากับสติกเกอร์สีลวดลาย RALLIART อันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมชุดแต่งที่เพิ่มความดุดันขึ้นไม่น้อย ควบคู่ไปกับรถกระบะรุ่น Triton ที่คาดสติกเกอร์ พร้อมชุดแต่ง RALLIART ที่ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวเช่นกัน

ที่น่าสนใจคือการนำชื่อ RALLIART มาต่อหลังรถยนต์รุ่น Mirage รถยนต์ขนาดเล็ก หรือ B-Segment ที่ดูอย่างไรก็อาจไม่เหมาะกับความเป็น RALLIART มากนัก แต่ก็ยังได้จิตวิญญาณความแรงจากสติกเกอร์ และชุดแต่ง ส่วนตัวเครื่องยังเป็น 1.2 ลิตร 78 แรงม้า เช่นเดียวกับรุ่นปกติ

เดินหน้าใช้ RALLIART ช่วยทำตลาดต่อเนื่อง

ล่าสุด Mitsubishi Motors ประเทศไทย เป็นส่วนหนึ่งของรางวัลชนะเลิศประเภททีมจากการแข่งขัน Asia Cross Country Rally 2023 ผ่านการส่งนักแข่ง ชยพล โยธา กับ Co-Driver พีรพงษ์ สมบัติวงศ์ ภายใต้ทีม Mitsubishi RALLIART โดยใช้รถกระบะรุ่น All-new Triton เข้าแข่งขัน

“เราทุกคนภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งกับความสำเร็จของทีม Mitsubishi RALLIART และสมรรถนะของ All-new Triton และเราจะใช้ข้อมูล กับประสบการณ์จากการแข่งขันมาพัฒนาการผลิตรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ที่จะขายในตลาดต่อไปในอนาคต” เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

เออิอิชิ โคอิโตะ ยืนยันว่า รถยนต์ Mitsubishi ทุกรุ่น ได้รับการพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของดีเอ็นเอสายเลือดแชมป์แรลลี จิตวิญญาณที่มุ่งมั่นสู่ชัยชนะและความทุ่มเทสู่การเป็นแชมป์ คือพลังขับเคลื่อนการพัฒนารถยนต์ทุกรุ่นของเรา เพราะชัยชนะของเราคือชัยชนะของทุกคน รวมถึงลูกค้าของเราด้วย

RALLIART ช่วยดันยอดกระบะขึ้นท็อป 3 ตลาด

ก่อนหน้านี้ ทาคาโอะ คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ย้ำว่า จากการเปิดตัว All-new Triton รวมถึงแผนการตลาดต่าง ๆ ซึ่งการส่ง All-new Triton ลงแข่งภายใต้ทีม RALLIART คือหนึ่งในนั้น จะช่วยให้ยอดขายรถกระบะ Mitsubishi ในประเทศไทยเติบโตจนมีส่วนแบ่งเป็นตัวเลขสองหลักในปีงบประมาณนี้

ซึ่งหากทำได้ Mitsubishi จะขึ้นเป็นอันดับ 3 ของตลาดรถกระบะผ่านการแซงหน้า Ford แต่ก็ใช่ว่าจะง่าย เพราะปัจจุบันรถกระบะ All-new Triton ยังทำตลาดไม่ครบทุกรุ่นย่อยแม้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วก็ตาม โดยเฉพาะรุ่นท็อปที่สมรรถนะสูงที่สุด (คล้ายรุ่น Athlete) ยังไม่มีแผนในการวางจำหน่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นมีการทำตลาดผ่าน Motorsports ที่แตกต่างกันไป เช่น Toyota กับ Mitsubishi ที่เน้นสร้างทีมมาเพื่อลงการแข่งขันต่าง ๆ ผ่านชื่อ Gazoo Racing และ RALLIART ส่วน Honda ใช้การอยู่เบื้องหลังของความสำเร็จผลิตเครื่องยนต์ให้ทีม Red Bull ที่ลงแข่งขันรายการ Formula 1

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา