Michael Bloomberg ประกาศลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ 2020

ไมเคิล บลูมเบิร์ก (Michael Bloomberg) มหาเศรษฐีเจ้าของสำนักข่าว Bloomberg ประกาศลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 2020 อย่างเป็นทางการ โดยเขาจะมาในฐานะหนึ่งในผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต เพื่อไปต่อสู้กับประธานาธิบดี Donald Trump

Michael Bloomberg จะต้องก่อกรกับตัวแทนของพรรคเดโมแครตคนอื่นๆ ทั้ง Joe Biden อดีตรองประธานาธิบดีในยุคโอบามา, Bernie Sanders ที่เคยขับเคี่ยวกับฮิลลารีได้อย่างสูสี และ Elizabeth Warren ที่โดดเด่นในแง่นโยบายด้านภาษีและการผูกขาดธุรกิจ

หากว่า Bloomberg ชนะการสรรหาภายในพรรคและได้เป็นตัวแทนจากพรรคเดโมแครต การเลือกตั้งปี 2020 ก็จะกลายเป็นศึกระหว่าง 2 นักธุรกิจระหว่าง Bloomberg และ Trump ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการเมืองอเมริกัน

ประวัติของ Michael Bloomberg

ประวัติชีวิตของ Michael Bloomberg คือจบการศึกษาด้านวิศวกรรมไฟฟ้าจาก Johns Hopkins University และด้านบริหารธุรกิจจาก Harvard Business School จากนั้นมาทำงานสายการเงินในวอลล์สตรีทที่บริษัท Salomon Brothers แต่ตกงานในปี 1981 เพราะบริษัทถูกซื้อกิจการ (ตอนนั้นเขาอายุ 39 ปี) จึงหันมาเปิดบริษัทด้านระบบข้อมูลธุรกิจ และประสบความสำเร็จจนกลายเป็นบริษัท Bloomberg ที่ขายเทอร์มินัลข้อมูลให้กับบริษัทการเงินต่างๆ รวมถึงต่อยอดเป็นสำนักข่าว Bloomberg ในระยะถัดมา

Mike Bloomberg เคยเล่นการเมืองมาแล้วครั้งหนึ่ง ในฐานะนายกเทศมนตรีของนครนิวยอร์ก (Mayor of New York City) ระหว่างปี 2002-2013 ซึ่งตอนนั้นเขาลงสมัครในนามพรรครีพับลินกัน ก่อนจะลาออกจากพรรคในปี 2007 และดำรงตำแหน่งแบบไม่สังกัดพรรคในช่วงเวลาที่เหลือของการเป็นนายกเทศมนตรี

Bloomberg ถือเป็นนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กในช่วงเวลาวิกฤตคือหลังเหตุการณ์ 9/11 ไม่นาน เขามีบทบาทอย่างสูงในการฟื้นฟูความเสียหายของนครนิวยอร์กกลับมาอีกครั้ง และได้รับการยกย่องในเรื่องการแก้ปัญหาอาชญากรรม การศึกษา สาธารณสุข ฯลฯ เขาชนะการเลือกตั้งติดต่อกัน 3 สมัย (2001, 2005, 2009) ก่อนประกาศวางมือในปี 2013

ไมเคิล บลูมเบิร์ก
ไมเคิล บลูมเบิร์ก กับธุรกิจ Bloomberg (ภาพจาก @MikeBloomberg)

ร่วมวงศึกภายในพรรคเดโมแครต

Bloomberg ประกาศในทวิตเตอร์ว่าเขาตัดสินใจลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เพราะไม่สามารถยอมให้ Trump ป่วนอเมริกาได้มากกว่านี้อีกแล้ว โดยสโลแกนหาเสียงของเขาคือ Rebuilding America หรือการสร้างอเมริกาขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

เขาชูตัวเองว่าเป็น “ทางเลือกใหม่” ของพรรคเดโมแครต (ซึ่งผู้สมัครในรอบนี้มีแต่ผู้ที่มีนโยบายค่อนข้างเอียงซ้าย) โดยชูจุดเด่นว่าเขามีประสบการณ์ทั้งภาคธุรกิจ การเมือง และการทำเพื่อสังคม (philanthropy) ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาทำหลังลงจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กแล้ว

อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดของ Michael Bloomberg ที่ถูกวิจารณ์ร่วมกับผู้สมัครคนอื่นๆ ของพรรคเดโมแครตคือเรื่อง “อายุ” ที่ปัจจุบันเขาอายุ 77 ปี เท่ากับ Joe Biden และใกล้เคียงกับ Bernie Sanders (78 ปี) ที่ถูกวิจารณ์ว่าแก่เกินไป (ปัจจุบัน Donald Trump อายุ 73 ปี)

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา