ผลสำรวจพบ ภาพรวมเงินเดือนในไทยปรับตัวต่ำสุดในรอบ 10 ปี

BANGKOK, THAILAND – SEPTEMBER 26: Thai job seekers wait in line for Job Expo Thailand on September 26, 2020 in Bangkok, Thailand. Thailand hosts Job Expo 2020, an effort by the Thai government and companies to boost the economy by offering nearly 1 million jobs to Thai people. Approximately 260,000 jobs are guaranteed to recent graduates while many other companies are focused on hiring elderly and disabled people. While Thailand has confirmed only two locally transmitted cases of COVID-19 in over three months, the economic impact of the virus has left millions unemployed. (Photo by Lauren DeCicca/Getty Images)

Mercer บริษัทที่ปรึกษาสำหรับองค์กรด้านการเงินและอาชีพเปิดเผยผลสำรวจอัตราค่าตอบแทนรวมในประเทศไทยประจำปี 2563 (Annual Thailand Total Remuneration Survey (TRS) 2020) โดยสำรวจบริษัททั้งหมด 577 แห่งจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในประเทศไทยระหว่างเดือนเมษายนและมิถุนายนของปีนี้ และได้ดำเนินการสำรวจเพิ่มเติมในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมเกี่ยวกับสภาพการณ์ตลาดที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

เงินเดือนในประเทศไทยถูกคาดการณ์ว่าจะมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นในปี 2564 แม้ยังเกิดผลกระทบทางการเงินจากสถานการณ์การแพร่ระบาด โดยบริษัทต่างๆ ในภาพรวมคาดการณ์จัดสรรงบประมาณเพื่อขึ้นเงินเดือนที่อัตรา 5% จากผลการสำรวจช่วงครึ่งแรกของปี 2563 หากการสำรวจเชิงลึกชี้ว่าค่ากลางจะอยู่ที่ 3%

นายพิรทัต ศรีสัจจะเลิศวาจา Career Products Business Leader บริษัท เมอร์เซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บอก่า “เมื่อพิจารณาถึงความสถานการณ์ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน บริษัทต่าง ๆ มีการตรวจสอบและทบทวนงบประมาณสำหรับการขึ้นเงินเดือนอย่างระมัดระวังมากยิ่งขึ้น โดย 2 ใน 5 ของบริษัทที่เข้าร่วมการสำรวจระบุว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออัตราการขึ้นค่าตอบแทนปี 2563 ที่บริษัทวางแผนไว้อย่างมีนัยสำคัญ”

อัตราการขึ้นเงินเดือนที่ประมาณการไว้นี้เกิดขึ้นจากภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ถดถอย โดยคาดว่าผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) จะลดลง 7.8% ในปี 2563 แม้มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะกระเตื้องขึ้น 3.5% ในปี 2564 ก็ตาม หากอนาคตก็ยังคงไม่แน่นอน

อัตราการเพิ่มเงินเดือนลดต่ำลงครั้งแรกในรอบทศวรรษ

ในขณะที่บริษัทเพียง 22 บริษัทจาก 577 แห่งที่ร่วมการสำรวจครั้งนี้รายงานว่าไม่มีการขึ้นเงินเดือนในปี 2563 ค่ากลางของอัตราการขึ้นเงินเดือนของปี 2563 ปรับลดลงอยู่ที่ 3.7% เมื่อเปรียบเทียบกับที่ตั้งงบประมาณไว้ที่ 4.8% จึงถือเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษที่อัตราการขึ้นเงินเดือนต่ำกว่า 5% ซึ่งผลกระทบนี้แตกต่างกันไปในแต่ละอุตสาหกรรม

นายพิรทัต กล่าวว่า “การขึ้นเงินเดือนในอุตสาหกรรมบางประเภท เช่น อุตสาหกรรมไฮเทค ยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิต และอุปกรณ์การโลจิสติคส์ มีอัตราการขึ้นเงินเดือนสูงกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวมเนื่องจากลักษณะเฉพาะของอุตสาหกรรมนั้น ๆ โดยอุตสาหกรรมไฮเทคนั้นมีอุปสงค์เพิ่มสูงขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนแนวทางการทำงาน (New way of work) ในขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์นั้นมีสหภาพแรงงานที่แข็งแกร่งจึงทำให้อัตราการขึ้นเงินเดือนยังอยู่ในเกณฑ์ดี ส่วนอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเนื่องจากการหดตัวของการใช้จ่ายภาคครัวเรือน มีอัตราการขึ้นเงินเดือนน้อยที่สุดที่ 2.5%”

โบนัสแบบแปรผันยังคงที่ในปี 2563 แต่คาดว่าลดลงในปี 2564

เมื่อพิจารณาโดยรวม โบนัสตามงบประมาณยังเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 2.3 เท่าของเงินเดือน เมื่อเปรียบเทียบกับ 2.2 เท่าของเงินเดือนในปี 2562 โดยอุตสาหกรรมไฮเทคและเคมีภัณฑ์ยังคงมีอัตราสูงสุด โดยมีบริษัทเพียง 5% ของบริษัทที่เข้าร่วมการสำรวจที่ไม่มีการให้โบนัส

แนวโน้มในอนาคตอันใกล้ 28% ของบริษัทที่เข้าร่วมการสำรวจคาดว่าการจ่ายโบนัสในปี 2564 จะน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ในขณะที่ 39% ยังไม่สามารถตัดสินใจในเรื่องของโบนัสได้ ณ ขณะนี้ และมีบริษัทเพียง 5% ที่คาดว่าจะเพิ่มงบประมาณสำหรับโบนัสในปี 2564

นายจักรชัย บุญยะวัตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมอร์เซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “หากพิจารณาในทุกแง่มุม บริษัทต่าง ๆ ยังคงอยู่ในสถานะของการเฝ้าจับตาและรอคอย โดยเฝ้าติดตามและตรวจสอบสถานการณ์ต่างๆอย่างใกล้ชิดไปพร้อมทบทวนกลยุทธ์การจ่ายค่าตอบแทนของบริษัทในปี 2564 โดยบริษัทส่วนใหญ่มีมุมมองต่อการจ้างงานในเชิงบวกโดยเฉพาะในตำแหน่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อธุรกิจและงานที่ไม่สามารถแทนที่ได้ด้วยเทคโนโลยีหรือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ภายใต้สถานการณ์ที่ยังคงไม่แน่นอนในปีนี้ กลับมีธุรกิจที่เพิ่มจำนวนพนักงานมากกว่าธุรกิจที่พยายามลดพนักงาน”

ภายในสิ้นปี 2563 บริษัทกว่า 23% ที่ร่วมทำการสำรวจครั้งนี้จะมีการเพิ่มพนักงานใหม่ โดยมี 19% ที่ระบุถึงแผนการสรรหาพนักงานในปี 2564

นายจักรชัย กล่าวเสริมว่า “ในขณะที่อนาคตยังคงแขวนอยู่บนความไม่แน่นอน บริษัทต่างมีความกังวลต่องบประมาณทางด้านบุคลากร เมอร์เซอร์สนับสนุนให้บริษัทใช้เวลา และพิจารณาแผนการจ่ายค่าตอบแทนให้กับพนักงานแบบองค์รวมมากยิ่งขึ้น บริษัทควรใช้โอกาสนี้ทบทวนกลยุทธ์การจ่ายค่าตอบแทนแบบองค์รวมและมองให้ละเอียดกว่าการจ่ายค่าตอบแทนเป็นตัวเงินเพียงอย่างเดียว โดยพิจารณาถึงคุณภาพชีวิตโดยรวมของพนักงานให้พัฒนาทั้งความก้าวหน้าในอาชีพ และมีสุขภาพกายและใจที่ดี ความผูกพันของพนักงานที่มีต่อบริษัท และการรักษาพนักงานให้อยู่กับบริษัทจะกลายเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าที่เคยบนเส้นทางแห่งการฟื้นฟูธุรกิจของบริษัท”

วิธีการสำรวจอัตราค่าตอบแทนรวมโดยเมอร์เซอร์

การสำรวจอัตราค่าตอบแทนรวม คือการสำรวจและศึกษาของเมอร์เซอร์เกี่ยวกับการจ่ายค่าตอบแทนประจำปีและการกำหนดมาตรฐานผลประโยชน์ ซึ่งระบุถึงแนวทางการจ่ายค่าตอบแทนและนโยบายเรื่องผลประโยชน์ในปัจจุบัน รวมถึงงบประมาณ แนวโน้มการจ้างงานและการเข้าออกของพนักงานในปีถัดไป นอกจากนี้ เมอร์เซอร์ยังทำการสำรวจย่อยอย่างสม่ำเสมอตลอดปีเพื่อติดตามผลกระทบจากสภาพธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงการจ่ายค่าตอบแทนและแนวโน้มด้านแรงงาน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา