MAAT คาดการณ์ตลาดสื่อโฆษณาไทยปีนี้โต 2.6% จับตาสื่อนอกบ้านมาแรงเพราะคนกลับมาใช้ชีวิตหลังโควิด

สมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทยหรือ Media Agency Association of Thailand (MAAT) เผยภาพรวมตลาดสื่อโฆษณาในปี 2023 ที่ผ่านมา พร้อมคาดการณ์มูลค่าตลาดและเทรนด์สื่อในปีนี้

ตลาดสื่อโฆษณาในปี 2023

มูลค่าตลาดสื่อโฆษณาในประเทศไทยในปี 2023 อยู่ที่ 111,601 ล้านบาท เติบโตขึ้น 1.6% จากในปี 2022 ที่มีมูลค่า 109,790 ล้านบาท ถือว่าเติบโตลดลงจากปี 2021 มาสู่ปี 2022 ที่เติบโตอยู่ที่ 7.9%

สำหรับสัดส่วนการใช้งบประมาณบนสื่อโฆษณา สื่อโทรทัศน์ยังเป็นสื่อหลักที่ครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดอยู่ที่ 49% ของมูลค่ารวม แต่แม้ว่าโทรทัศน์จะมีสัดส่วนการใช้งบประมาณมากที่สุดแต่ปี 2023 นับว่าเป็นปีแรกที่มีสัดส่วนต่ำกว่า 50% จากมูลค่ารวม ขณะที่สื่อที่คึกคักขึ้น คือ สื่อนอกบ้าน สื่อโฆษณาเคลื่อนที่ ที่ใช้งบประมาณเพิ่มขึ้น 16% และสื่อในโรงภาพยนตร์ที่เพิ่มขึ้น 15% 

คาดการณ์สื่อโฆษณาในปี 2024

สำหรับปีนี้ MAAT คาดการณ์ภาพรวมตลาดสื่อโฆษณาไว้ว่า จะมีแนวโน้มเติบโตอยู่ที่ 2.6% จากปี 2023 โดยจะมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 114,447 ล้านบาท

สัดส่วนการใช้สื่อโฆษณาโทรทัศน์ยังคงเป็นอันดับ 1 ที่ครองส่วนแบ่งมากที่สุด 46% ของมูลค่ารวม หรือ 53,214 ล้านบาท รองลงมาเป็นสื่อดิจิทัล มีสัดส่วน 29% หรือ 33,679 ล้านบาท ตามด้วยสื่อนอกบ้านและสื่อโฆษณาเคลื่อนที่ 16% หรือ 17,878 ล้านบาท

ปัจจัยที่จะทำให้เกิดการเติบโตของสื่อโฆษณามีหลายปัจจัยด้วยกัน ดังนี้

  • สงครามที่ต่อเนื่องมาถึงในปีนี้ ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไร
  • นโยบาย Digital Wallet ของรัฐบาลที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มดำเนินนโยบายในเดือนใด
  • คาดการณ์ GDP ที่กระทรวงการคลังคาดว่าจะเติบโตที่ 2.8% ถือว่าเป็นปัจจัยบวก ทำให้คาดการณ์การเติบโตของตลาดสื่อโฆษณาไว้ในระดับใกล้เคียงกัน
  • คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมแล้วจากในช่วงโควิด มีการจัดกิจกรรมและการรวมตัวกันเป็นปกติ เช่น คอนเสิร์ต
  • มีห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่หลายแห่ง
  • งาน Motor Expo มียอดจองรถยนต์เติบโตจากปีที่แล้ว 45% ทำให้เกิดรถติดและคนใช้เวลาอยู่ในรถนานขึ้นก็จะบริโภคสื่อมากขึ้นไปด้วย
  • การรวมกันของ true และ dtac ที่เสนอว่าจะให้บริการอินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้น 110%

การที่ผู้คนเริ่มออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านกันมากขึ้นทำให้ MAAT คาดการณ์ว่า สื่อดิจิทัลจะเติบโตขึ้น 10% และสื่อนอกบ้านจะเติบโตขึ้น 8% ขณะที่สื่อโฆษณาเคลื่อนที่คาดว่าจะเติบโตที่ 8% สอดคล้องกับการขยายตัวของขนส่งมวลชนอย่างเช่น BTS และ MRT ทำให้เกิดโฆษณานอกบ้านรูปแบบใหม่

ส่วนการเพิ่มราคาสื่อโฆษณาบนโทรทัศน์หรือ TV Inflation คาดว่าในปี 2024 นี้จะเพิ่มขึ้น 8% มากกว่าในปีที่แล้วที่เพิ่มขึ้น 6% ขณะที่ราคาในภาพรวมทุกสื่อคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7%

6 เทรนด์สื่อโฆษณามาแรงในปี 2024

TV Convergence 

เกิดการผสานกันของทีวีแบบดั้งเดิมกับแพลตฟอร์มออนไลน์ ในปัจจุบันสื่อโทรทัศน์เข้าถึงคนได้ดีโดยเฉพาะกลุ่มคนส่วนมาก ทำให้เกิดการพัฒนาเข้ามาแข่งขันในตลาดมากขึ้น มีรายการใหม่มากขึ้น เริ่มมีการทำคอนเทนต์ออริจินัลที่มีคุณภาพมาก คอนเทนต์เดียวสามารถนำไปลงในหลายแพลตฟอร์ม ทำให้เกิดสื่อและฟีเจอร์ที่มีปฏิกิริยากับคนดูได้มากขึ้น ทั้งด้าน Engagement และ Call to Action ทำให้ตรงความต้องการและวัดผลได้มากขึ้น

Measurable KOLs

การใช้ KOLs ที่วัดผลได้ละเอียดขึ้น เทรนด์การใช้ KOLs เปลี่ยนไป จากเดิมวัด Engagement เป็นหลัก แต่ปัจจุบันวัดจากยอดขายด้วยทำให้ KOLs มีบทบาทในการขาย มีความคิดสร้างสรรค์และเพิ่มการขายลงไปในคอนเทนต์ได้ด้วย ทางฝั่งแบรนด์ก็มีการใช้เครื่องมือที่ก้าวหน้าในการวางแผนและวัดผล KOLs เช่น การสร้างแดชบอร์ดสำหรับเลือก KOLs เพื่อให้แบรนด์ติดต่อไปได้โดยตรง 

Sports Mania

ในปีนี้ จะมีมหกรรมการแข่งขันกีฬาเพิ่มขึ้นรวมทั้งมีการแข่งขันกีฬาใหม่ เช่น Breakdance และ Surfing ทำให้กลุ่มคนดูกีฬาจะกว้างขึ้นด้วย

เทรนด์การแข่งขันกีฬาช่วยสร้างบทบาทใหม่ในการเป็น Brand Endorser ให้กับนักกีฬาไทยได้ ขณะที่มีกีฬาหลากหลายประเภทมากขึ้นก็เป็นพื้นที่ให้แบรนด์ที่สามารถใช้โอกาสนี้ในการทำสื่อโฆษณากว้างขึ้น ประกอบกับที่นักกีฬาไทยยังมีแฟนกีฬาจากต่างประเทศที่จะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นให้กับแบรนด์

นอกจากนี้ ยังมีโอกาสในการทำสื่อโฆษณาจากกีฬา E-sport ที่กลายเป็นกีฬาที่มีการแข่งขันในเอเชี่ยนเกมส์แล้ว รวมทั้งราชกิจจานุเบกษาก็ประกาศให้กีฬา E-sportเป็นอาชีพหนึ่ง ทำให้ฐานคนเล่นและคนดูมากขึ้น โดยในปัจจุบัน มีคนดู E-sport อยู่ที่ 8.8 ล้านคน

LGBTQ+

การที่รัฐสภาผ่านพรบสมรสเท่าเทียมทั้ง 4 ฉบับในวาระที่ 1 เรียบร้อยแล้วทำให้มีคนจับตามองทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งเสริมภาพลักษณ์ของไทยที่ค่อนข้างเป็นมิตรกับ LGBTQ+ ตามรายงานของ Gallup ที่เผยว่า คน 54% มองว่าไทยเป็นมิตรกับกลุ่ม LGBTQ+ นับว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก

ฐานผู้ติดตามสื่อโฆษณายังไม่ได้มีแค่กลุ่ม LGBTQ+ เองที่ปัจจุบันมีอยู่ 7.3 ล้านคนเท่านั้น แต่ยังมีคนที่เปิดใจยอมรับความหลากหลายทางเพศอีก 20 ล้านคนที่จะเป็นกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ Wisesight ติดตามข้อมูลพบว่า มีแบรนด์และหน่วยงานพยายามจะตื่นตัวในเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ แต่กระจุกอยู่แค่เดือนมิถุนายน ทำให้ผู้บริโภคเรียกร้องให้แบรนด์ให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศไม่เฉพาะเดือนเดียว

Marketing AI

ปัจจุบันมีการนำ AI หลายประเภทมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำสื่อโฆษณาและทำการตลาด ทั้งการสร้างคอนเทนต์ ช่วยพัฒนาคอนเทนต์ ผลิตวิดีโอ นอกจากนี้ยังช่วยกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ช่วยวิเคราะห์แบบรายบุคคลและปิดการขาย ทำให้มีแบรนด์ที่หันมาใช้ AI ทำการตลาดแบบ Full-Funnel มากขึ้น

Emerging of OOH Commerce

ในปี 2024 นี้จะเป็นปีที่สื่อนอกบ้านมาแรง มีเทรนด์การพัฒนาเทคโนโลยี Programmatic Out of Home ที่ช่วยให้กำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนมากขึ้น ปรับปรุงพื้นที่โฆษณาและปรับเปลี่ยนแบบ Real-Time ให้สอดคล้องกับแคมเปญดิจิทัลของแบรนด์ 

ที่มา – MAAT

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา