LINE Shopping ปรับกลยุทธ์เปลี่ยนแฟลตฟอร์ม ให้กลายเป็น Social Commerce ด้วยร้านค้าใน MyShop กว่า 50,000 ราย โดยใช้จุดแข็งจาก LINE Ecosystem ทั้ง LINE Official Account, LINE TV และ LINE MAN ซื้อ ขาย จบในแพลตฟอร์ม
เลอทัด ศุภดิลก หัวหน้าฝ่ายธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ LINE ประเทศไทย เล่าถึงภาพรวมของ LINE Shopping ว่า ในปัจจุบันมีผู้ใช้งาน 3 ล้านคน (Monthly Active User) เติบโต 3 เท่า ในปีนี้ และยอดขายเติบโตขึ้น 2 เท่า โดยในปีนี้ LINE Shopping ได้เปลี่ยนกลยุทธ์สู่ Social Commerce
เนื่องจากในปัจจุบัน Social Commerce มีส่วนแบ่งคิดเป็นกว่า 62% เมื่อเทียบกับประเทศจีน 11.6% และสหรัฐอเมริกา 19.8% และโดยพื้นฐานของคนไทย โตมากับ Social อยู่แล้ว และมีการซื้อขายสินค้าผ่าน Social Commerce
โดยเลอทัด เล่าด้วยว่าหัวใจหลักของ Social Commerce ประกอบไปด้วย 3 ส่วนสำคัญคือ
-
- Entertainment สินค้ามาคู่กับความบันเทิง มีการสร้างเรื่องราว ความตลก
- Engagement มีการพูดคุยกัน มีส่วนร่วมกับผู้ขายได้เสมอ
- Commerce การซื้อขายบน Social ที่มีความสะดวก
นอกจากนี้ยังมีการนำจุดแข็งของ LINE Ecosystem มาใช้ เพราะ LINE มีผู้ใช้งานในประเทศไทยกว่า 47 ล้านคน ที่จะเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพของ Social Commerce บน LINE Shopping ที่สามารถทักแชท คุยกับผู้ขาย สอบถาม และปิดการขายผ่านแชทได้เลย รวมถึงสามารถชำระเงินได้ด้วยบัตรเครดิต และ Rabbit LINE Pay
คอนเทนต์ที่ LINE Shopping นำมาใช้เพื่อปรับกลยุทธ์เป็น Social Commerce คือ รายการ LINE Shopping x TUES LIVE ที่มีสมบัษร ถิระสาโรช (ป้าตือ) เปิดรายการขายของแบบไลฟ์สด ความยาวประมาณ 2 ชั่วโมง โดยมีสินค้าครบทุกประเภทตั้งแต่ อาหาร ไปจนถึงความงาม
กลยุทธ์สำคัญของ Shopping x TUES LIVE คือ การใช้ความเป็นมิตร และเข้าถึงง่าย มีทั้งสินค้าแบรนด์ใหญ่ และสินค้าจากผู้ประกอบการ SME รวมถึงมีสินค้าราคาพิเศษเฉพาะในขณะไลฟ์เท่านั้น หลังจากจบไลฟ์แล้ว สินค้านั้นจะไปอยู่ใน MyShop แต่จะเป็นสินค้าราคาปกติแทน
การเปลี่ยนกลยุทธ์ ของ LINE Shopping ให้เป็น Social Commerce นับว่ามีความน่าสนใจ ด้วยส่วนแบ่งในตลาดที่มีกว่า 62% มากกว่าประเทศอื่นๆ ประกอบกับคนไทย ชอบแชท พูดคุย เพื่อสอบถามในการซื้อสินค้าอยู่แล้ว ยิ่งมีรายการไลฟ์ขายของ พร้อมกับความบันเทิง ยิ่งเป็นการตอบโจทย์พฤติกรรมการซื้อสินค้าของคนไทย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา