Levi’s ปิดสาขาทั่วโลก 17% ชั่วคราว ทำยอดขายไตรมาส 1 หดตัวมากกว่า 11.9%

ค้าปลีกดั้งเดิมยังมีปัญหาในวิกฤต COVID-19 ล่าสุด Levi’s คาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 1 ที่จะสิ้นสุดเดือนก.พ. ว่าตัวเลขรายได้จะลดลงในอัตราตัวเลขสองหลัก สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 11.9%

levi's
Photo : Shutterstock

Levi’s ขายไม่ได้เพราะต้องปิดสาขา

รายงานข่าวแจ้งว่า Levi Strauss & Co คาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 1 ที่จะสิ้นสุดเดือนก.พ. 2021 ที่ลดลงในอัตราตัวเลขสองหลัก เพราะต้องปิด 17% ของหน้าร้านที่ให้บริการทั่วโลกกว่า 3,100 แห่งชั่วคราว โดยเฉพาะสาขาในกลุ่มประเทศยุโรปที่ปิดชั่วคราวกว่า 40%

ขณะเดียวกัน Levi’s คาดการณ์ว่ากว่าบริษัทจะกลับมาอยู่ในช่วงก่อนเกิดโรค COVID-19 ระบาด ต้องรอถึงสิ้นปี 2021 และภาพรวมของการระบาดต้องดีขึ้นกว่าเดิม เพราะหากมีอะไรเปลี่ยนแปลงจะกระทบต่อการคาดการณ์ครั้งนี้ทันที

ทั้งนี้ในไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ 2020 ที่สิ้นสุดเดือนพ.ย. 2020 บริษัทสามารถทำยอดขายได้ 1,390 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากปี 2019 ที่ 12% แต่มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1,340 ล้านดอลลาร์ เหตุผลหลักมาจากการเร่งทำตลาดออนไลน์จนมียอดขายเพิ่มเข้ามาในช่วงวิกฤต

สำหรับ Levi’s ทำตลาดใน 100 ประเทศทั่วโลก และมีการถือแบรนด์ Dockers กับ Denizen ในพอร์ต แสดงให้เห็นถึงการกระจายความเสี่ยง ไม่ยึดติดกับแบรนด์เดียว ส่วนประวัติของ Levi’s นั้นก่อตั้งปี 1853 และเป็นผู้คิดค้นกางเกงยีนส์แบรนด์แรกๆ ของโลก

สรุป

เมื่อการขายหน้าร้านมีปัญหา การเดินหน้ารุกตลาดออนไลน์คืออีกคำตอบที่ดี อย่างไรก็ตามการที่มีแบรนด์ในพอร์ตไม่หลากหลาย และการต้องทำงานอยู่ที่บ้าน ทำให้กางเกงยีนส์อาจไม่ใช่สิ่งจำเป็น ดังนั้นต้องดูกันว่า Levi’s จะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์นี้อย่างไร

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา