ศึกษาเทรนด์ใหม่ในธุรกิจกีฬา หลัง LeBron James เตรียมแจกทุนการศึกษากว่า 3,500 ล้านบาท

นักกีฬาเป็นอีกอาชีพที่มีค่าตอบแทนสูง และกลุ่ม Superstar ในอุตสาหกรรมนี้ก็ไม่ปฏิเสธที่จะนำเงินก้อนนั้นกลับมาฟื้นฟูท้องถิ่น ซึ่งล่าสุดนักบาสเก็ตบอลตัวท็อปอย่าง LeBron James ก็เตรียมให้ทุนการศึกษาจำนวนมหาศาล

LeBron James // ภาพจาก Flickr ของ Keith Allison

ตอบแทนท้องถิ่นด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง

หลังย้ายจากทีม Cleveland Cavalier ที่ Draft เขามาตั้งแต่เป็น Rookie ในฤดูกาลใหม่ที่จะถึงนี้ LeBron James ก็เตรียมรับค่าเหนื่อยในปีแรกจาก Los Angeles Lakers กว่า 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,200 ล้านบาท) ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็ได้รับค่าเหนื่อยในระดับ Superstar มาตั้งแต่เข้าลีก NBA เมื่อปี 2546

และด้วยเขาเป็น Superstar รายได้ย่อมไม่ได้มาจากแค่ค่าเหนื่อยอย่างเดียวแน่ๆ เพราะมีทั้งการสนับสนุนจากแบรนด์อุปกรณ์กีฬา Nike รวมถึงสินค้า และบริการอื่นๆ ด้วย จนปี 2561 มีการคาดการณ์ว่ามูลค่าสินทรัพย์ของ LeBron James นั้นมีมากกว่า 440 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 15,000 ล้านบาท)

แต่ถึงเขาจะได้เงินจำนวนมากในเวลาเพียงไม่กี่วินาที แต่นักกีฬาคนนี้ก็เป็นหนึ่งในผู้นำกระแสตอบแทนบุญคุณท้องถิ่นด้วยการตั้งกองทุน และบริจาคเงินให้กับเด็กในชุมชนเหล่านั้น เพื่อให้ได้รับการศึกษาที่ดี และสามารถอยู่รอดในอนาคตได้อย่างสบายๆ

ใจป๋าด้วยการบริการเงินจำนวนมาก

เมื่อปี 2558 ทาง LeBron James ได้ตั้งโครงการ I Promise ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กๆ ที่ขาดโอกาสทางการศึกษาสามารถขอทุนการศึกษาจาก LeBron James Family Foundation ได้ ซึ่งปัจจุบันมีเด็กอยู่ในกองทุนแล้วกว่า 1,300 ราย

แต่การได้รับทุนจากโครงการนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะมีกฎเกณฑ์มากำกับเช่น ต้องเรียนให้ได้เกรดเฉลี่ย 3.0 ขึ้นไป หากทำได้ก็จะได้สิทธิ์เรียนต่อที่ University of Akron ในรัฐ Ohio ได้ฟรีตลอดการเรียนที่นั่น (ค่าใช้จ่ายในการศึกษา 4 ปีที่ 45,900 ดอลลาร์ หรือราว 1.52 ล้านบาท)

นอกจากนี้ทางผู้จัดการกองทุนดังกล่าวยังบอกว่า ตัวกองทุนสามารถรองรับค่าใช้จ่ายให้กับผู้ที่สนใจได้ถึง 2,300 คน ซึ่งแปลว่าหากเด็กทั้ง 2,300 คน เอาชนะกฎเกณฑ์ดังกล่าวได้ LeBron James ก็ต้องควักกระเป๋าสนับสนุนค่าการศึกษารวม 105 ล้านดอลลาร์ (ราว 3,500 ล้านบาท) แม้มันจะเป็นไปได้ยากก็ตาม

เปิดโรงเรียนเองเสียเลยเพื่อยกระดับการศึกษา

ขณะเดียวกันช่วงสิ้นเดือนก.ค. LeBron James ก็เปิดโรงเรียนของเขาเองที่ชื่อว่า I Promise School ตั้งอยู่ที่เมือง Akron รัฐ Ohio รองรับเด็กนักเรียนได้ 240 คน (เบื้องต้นรับเกรด 3-4) และมีแผนขยายพื้นที่ให้รองรับนักเรียนได้ 1,000 คนในอนาคต

ซึ่งก็ไม่แปลกที่เด็กเหล่านั้นจะได้สิทธิ์เข้าคัดเลือกเป็นผู้ได้รับทุนการศึกษาจากโครงการ I Promise เช่นเดียวกัน โดย LeBron James มองว่า การเปิดโรงเรียนของตัวเองเป็นหนึ่งในอีกเป้าหมายของชีวิต เพราะมันช่วยยกระดับสังคมเมืองที่เขาเติบโตขึ้นมา

Cristiano Ronaldo

สำหรับนักกีฬาอาชีพในสหรัฐอเมริกาไม่ว่าชนิดกีฬาไหน พวกเขาต่างก็มีแผนนำรายได้มาพัฒนาชุมชนที่พวกเขาเกิดมาให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม และกระแสนี้เริ่มส่งผลไปในนักกีฬาอาชีพที่ยุโรปแล้ว เช่น Christiano Ronaldo ที่นำรายได้มาพัฒนาในชุมชนที่เขาเกิดเช่นกัน

สรุป

การพัฒนารากฐานที่เกิดมาเป็นอีกหัวใจของนักกีฬาที่ส่วนใหญ่เติบโตมาจากครอบครัวที่ยากจน ดังนั้นเมื่อพวกเขาประสบความสำเร็จแล้ว ก็ไม่แปลกที่จะนำเงินดังกล่าวมายกระดับชุมชนของตัวเอง และเชื่อว่ามันจะเป็นอีกกระแสของนักกีฬาในอนาคตแน่ๆ เพราะใครๆ ก็อยากเป็นผู้พัฒนาถิ่นฐานที่เราเกิดมาทั้งนั้น

อ้างอิง // Business Insider

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา