ธนาคารกรุงไทยเปิดศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ประเมินปีหน้าเศรษฐกิจไทยโต 3.2% สูงกว่าปีนี้ที่คาดว่าจะโต 2.7%

ธนาคารกรุงไทยเปิดศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS วิเคราะห์เชิงลึกด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม สร้างองค์ความรู้ต่อยอดธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม โดย ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงาน Global Business Development and Strategy ธนาคารกรุงไทย ระบุ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS เปรียบเสมือนคลังสมองของธนาคาร จะทำหน้าที่วิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในระดับมหภาคและแนวโน้มธุรกิจระดับอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ 

ขณะที่ ดร.พรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส สายงานเดียวกันกับ ดร.รุ่งฯ ระบุว่า ศูนย์วิจัยฯ ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2563 จะขยายตัวที่ระดับ 3.2% สูงกว่าปี 2562 ที่เติบโต 2.7% ซึ่งมาจากการกระตุ้นของรัฐและงบลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำต่อไปเป็นแรงจูงใจให้เกิดการใช้จ่าย

ธนาคารกรุงไทยเปิดศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ภาพจากทำเนียบรัฐบาล

ประมาณการเศรษฐกิจไทยลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะโต 3.6% เป็นเพราะความไม่แน่นอนของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่โต้ตอบรุนแรงกว่าที่ประเมินไว้ ส่งผลให้ภาคการส่งออกยังต้องเผชิญกับอุปสรรค 

มูลค่าการส่งออกในรูปดอลาร์จะขยายตัวเพียง 0.3% หลังจากหดตัว 1.8% ในปี 2562 ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับองค์การการค้าโลก ​​(WTO) ที่ประเมินว่าการค้าโลกปีหน้าจะขยายตัว 2.7%

“สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ทวีความเข้มข้นตลอดปี 2562 ส่งผลให้ภาพรวมของอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกลดลงเรื่อยๆ และในปี 2563

สิ่งที่บั่นทอนและเป็นความน่ากลัว คือความไม่แน่นอนของมาตรการกีดกันด้านการค้าและด้านเทคโนโลยี  ทั้งนี้แม้ว่าประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯในปี 2563 จะต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ผ่านมา และมีความน่าจะเป็นที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) แต่คาดว่าจะไม่รุนแรง เพราะสหรัฐฯซึ่งเป็นกำลังหลักของเศรษฐกิจโลก ไม่ได้เปราะบางเหมือนในอดีต 

สำหรับไทย ประเมินว่า กนง. จะไม่ลดดอกเบี้ยในปีหน้าแม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดต่ำกว่ากรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ เพราะการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ไม่อาจกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากนัก และไม่สามารถทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้

นอกจากนี้ Krungthai COMPASS  ยังนำเสนอ 5 เทรนด์ผู้บริโภคออนไลน์ ในปี 2563 คือ

  1. เทรนด์ชีวิตติดเน็ต จากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของคนไทยที่จะแตะระดับ 85%  
  2. เทรนด์ Gen C เมื่อโลกของผู้บริโภคเชื่อมต่อกัน และ 90% ของผู้บริโภคเลือกที่จะเชื่อข้อมูลจากคนรอบข้าง
  3. เทรนด์สูงวัยแต่ใจออนไลน์ โดยกว่า 46% ซื้อของออนไลน์  
  4. เทรนด์โสดพร้อมเพย์ ที่ช้อปปิ้งมากกว่าคนมีครอบครัว 
  5. เทรนด์อยากกินต้องได้กิน ที่ทำให้การสั่งอาหารออนไลน์โตก้าวกระโดด ซึ่งผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือใหม่ๆในการดึงดูดผู้บริโภคเหล่านี้ เป็นต้น

ที่มา – ธนาคารกรุงไทย 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา