KBank ลุยพัฒนาแอปฯ ให้ รพ. รัฐ เพิ่มอีก เปิดตัว “หมอ กทม.” รวมบริการ 11 รพ. ในแอปฯ เดียว

ถือว่าธนาคารกสิกรไทย เป็นธนาคารเดียวที่รุกอย่างต่อเนื่องในการให้การสนับสนุนพัฒนาด้านดิจิทัลกับหน่วยงานบริการทางการแพทย์ต่างๆ โดยเฉพาะโรงพยาบาลของรัฐ 

ปัญหาใหญ่ของโรงพยาบาลรัฐคือ จำนวนผู้ใช้บริการที่มากมายในแต่ละวัน บุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่เพียงพอ อีกทั้งระบบข้อมูล เช่น ข้อมูลคนไข้ สิทธิรักษาต่างๆ ที่ไม่เชื่อมโยงกัน ทำให้การใช้บริการไม่ได้รับความสะดวกสบาย ใช้ระยะเวลานาน เป็นต้น ซึ่งภาคสาธารณสุขเองก็ได้มีการพัฒนาระบบบริการรูปแบบดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง และเห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ที่ทำให้ทุกคนต้องปรับวิถีชีวิตในรูปแบบ New Normal ทำให้เกิดบริการทางการแพทย์ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น การจองวัคซีน, ระบบการแพทย์ทางไกล 

เทคโนโลยีจึงเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาการให้บริการทั้งในมุมของผู้ใช้บริการ การบริหารจัดการของโรงพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์

บทบาทของ KBank ในการพัฒนาแอปฯ ให้ รพ. รัฐ

คุณขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เล่าว่า ธนาคารกสิกรไทยมีเทคโนโลยี มีทีมงาน มี Know-how มีทรัพยากรต่างๆ ที่พร้อมสนับสนุนการทำงาน การสนับสนุนของธนาคารกสิกรไทยเพื่อพัฒนาระบบบริการของโรงพยาบาลต่างๆ คือ การทำให้บริการในปัจจุบันดียิ่งขึ้น และที่สำคัญคือร่วมกันมองไปถึง “อนาคต” ของระบบบริการทางการแพทย์ของประเทศที่มีโจทย์ท้าทายรออยู่ข้างหน้าหลายอย่าง ทั้งสังคมสูงวัย โรคภัยใหม่ๆ จำนวนบุคลากรทางการแพทย์ ฯลฯ ซึ่งในช่วงการเปลี่ยนผ่านโดยมีโควิด-19 เป็นตัวเร่ง ทุกองค์กร ทุกอย่างต้องใช้ทั้งเวลา งบประมาณ ทีมงาน และเทคโนโลยี 

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่าน โรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ 5 แห่ง ได้ร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย พัฒนาแอปฯ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการให้บริการกับคนไข้ โดยคนไข้สามารถจัดการขั้นตอนต่าง ๆ ในการเข้ารับบริการทางการแพทย์บนโทรศัพท์มือถือด้วยตนเองได้ แอปฯ ของแต่ละโรงพยาบาลได้เปิดใช้บริการแล้ว ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย (แอปฯ Chula Care) โรงพยาบาลชลบุรี (แอปฯ CBH PLUS) โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ (แอปฯ TUH for all) โรงพยาบาลราชวิถี (แอปฯ RJ Connect) และสถาบันประสาทวิทยา (แอปฯ NIT PLUS)  ซึ่งตอบโจทย์กับผู้ใช้บริการในช่วงที่สังคมยังต้องใช้ชีวิตแบบเว้นระยะห่าง ลดการสัมผัส ลดข้อจำกัดในระบบการดูแลสุขภาพในช่วงที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างมาก รวมถึงการเตรียมความพร้อมหากวิกฤติเกิดขึ้นอีก

การพัฒนาแอปฯ ให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ประกอบด้วย 3 แกนหลัก คือ 

1) การเชื่อมต่อข้อมูลจากฐานข้อมูลกลางของโรงพยาบาล (Hospital Information System: HIS) มาแสดงที่แอปพลิเคชัน ทำให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงประวัติสุขภาพและการรักษาได้ด้วยตนเอง  รวมถึงแชร์ข้อมูลให้บุคลากรทางการแพทย์ ช่วยให้การให้บริการทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพมีประสิทธิภาพมากขึ้น   

2) การสร้างประสบการณ์ใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย รวดเร็ว สามารถทำได้ด้วยตนเอง ทั้งในและนอกสถานที่ของโรงพยาบาล 

3) การเชื่อมโยงระบบชำระเงินและบริการทางเงินต่างๆ ที่เลี่ยงสัมผัสเงินสด โดนสามารถชำระผ่านช่องทาง
K PLUS โอนเงินผ่าน Thai QR Code หรือเลือกชำระผ่านบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต ทำให้มีการบริการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย ลดความแออัด และระยะเวลารอคอย

ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทย ได้ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร พัฒนาแอปฯ “หมอ กทม.” ในรูปแบบ Single App รวบรวมข้อมูลด้านสุขภาพให้เป็นระบบและมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งผู้ใช้บริการแค่ดาวน์โหลดแอปฯ “หมอ กทม.” เพียงแอปฯ เดียว จะสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ของโรงพยาบาลในสังกัดสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ทั้ง 11 แห่ง

โดยข้อมูลจะมาแสดงที่แอปฯ ซึ่งได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่าย ผู้ใช้บริการสามารถทำได้ด้วยตนเอง สามารถสามารถนัดเวลาพบแพทย์ ตรวจสอบลำดับคิว  ขอความช่วยเหลือแจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินจากศูนย์เอราวัณ ตรวจสอบประวัติการรักษา เลือกพบแพทย์ทางไกลผ่านระบบ Tele-Medicine อีกทั้งยังเชื่อมโยงระบบชำระเงินในรูปแบบ
e-payment เป็นต้น

โดยแต่ละโรงพยาบาลจะเริ่มทยอยขึ้นจนครบ 11 โรงพยาบาล ภายในปลายเดือนมีนาคม 2565

  1. โรงพยาบาลกลาง
  2. โรงพยาบาลตากสิน
  3. โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ 
  4. โรงพยาบาลสิรินธร
  5. โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร อุทิศ
  6. โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์
  7. โรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานคร
  8. โรงพยาบาลราชพิพัฒน์
  9. โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน
  10. โรงพยาบาลคลองสามวา
  11. โรงพยาบาลบางนากรุงเทพมหานคร

คุณขัตติยา กล่าวปิดท้ายว่า เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ธนาคารกสิกรไทยจะช่วยตอบโจทย์สังคมได้ ทำให้การแพทย์ดีๆ เข้าถึงกลุ่มคนทั่วไป เพิ่มความสามารถในการนำความช่วยเหลือไปสู่พื้นที่ห่างไกลได้มากขึ้น บุคลากรทางการแพทย์ทำงานได้ง่ายขึ้น ลดกระบวนการทำงานต่างๆ มีส่วนช่วยในระบบ Logistic ต่างๆ ของ รพ. อีกทั้งยังเป็นประโยชน์สำหรับวางแผนป้องกันด้านสาธารณสุขระดับประเทศต่อไป 

สำหรับใครที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “หมอ กทม.” ได้แล้ววันนี้ ที่ App Store และ Play Store

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา