ภาคเอกชน “กกร.” กังวลเศรษฐกิจไทยอาจโตต่ำ วอนภาครัฐดูแลเงินบาทแข็งค่า-การส่งออก

ภาครัฐเริ่มตื่นตัวว่าเศรษฐกิจไทยเติบโตชะลอตัว เพราะล่าสุดไตรมาส 2 ปีนี้ GDP โตต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี ภาคประชาชนก็รู้สึกว่าข้าวของแพงขึ้นต่อเนื่อง

ตอนนี้ภาคเอกชนอย่าง คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่มีทั้งสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ก็แสดงความกังวลต่อเศรษฐกิจไทยแล้ว

ภาพจาก Shutterstoc

กกร. รับกังวลเศรษฐกิจไทยปี 62 ขาดปัจจัยหนุน ชูปัญหาบางแข็ง-ส่งออก

วันที่ 4 ก.ย. 2562 สรุปจากที่การประชุมกกร. ระบุว่า ทางกกร.เป็นห่วงต่อสถานการณ์เศรษฐกิจไทย เพราะขาดปัจจัยหนุน และช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้อาจมีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ (กรอบ GDP ไทยปีนี้อยู่ที่ 2.9-3.3%)

ทั้งนี้ทางกกร.กังวล 2 เรื่องหลัก ได้แก่ 1) ค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากที่สุดในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง และยังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอีก หากธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (จะทำให้เงินทุนต่างชาติอาจไหลเข้าไทยมากขึ้น) 2) ผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า จะกระทบต่อความสามารการแข่งขันของไทยเรื่องการส่งออกและการลงทุนได้จึงอยากให้ทางการออกมาตรการดูแลกรณีบาทแข็งค่า

ที่มา คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)

ปี 2562 เศรษฐกิจไทยมีปัจจัยกดดันจากต่างประเทศ-บาทแข็ง-ภัยแล้ง-น้ำท่วม

ช่วงที่เหลือของปี 2562 นี้ กกร.มองว่า เศรษฐกิจไทยอยู่ท่ามกลางปัจจัยกดดัน ทั้งจากภาคต่างประเทศ อย่าง สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน, ปัญหาการค้าระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลี, ความเสี่ยงของ Brexit ทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว 

นอกจากนี้ปัจจัยค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อการส่งออกและการท่องเที่ยวของไทย ในขณะที่สถานการณ์ในประเทศ อย่างการใช้จ่ายภายในประเทศได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง และเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ดังนั้นภาครัฐจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ชิม ช้อป ใช้ และมาตรการประกันรายได้สินค้าเกษตรสำคัญๆ อาจเพิ่มปัจจัยบวก เพื่อชดเชยผลกระทบจากหลายปัจจัยกดดันได้ อย่างไรก็ตามเมื่อภาครัฐเตรียมออกมาตรการดึงดูดการย้ายฐานการลงทุนจากผลกระทบเรื่องสงครามการค้า ต้องใช้เวลาอีกสักระยะและจำเป็นต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานและแรงจูงใจที่มากพอสำหรับนักลงทุน รวมถึงประเด็นเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งค่าด้วย

สรุป

เศรษฐกิจไทย หาก GDP จะเติบโตขึ้นส่วนหนึ่งก็เพราะฐานที่ต่ำในปีก่อน แต่หาก GDP ปีนี้ยังโตน้อยลงไปอีกถือเป็นช่วงที่ประชาชนต้องจับตามองว่านโยบาย มาตรการที่ภาครัฐพยายามกระตุ้นในระยะสั้นจะส่งผลต่อกระเป๋าเงินของคนไทย และการทำธุรกิจของภาคเอกชนอย่างไร?

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

จากนักข่าวการเงินหนังสือพิมพ์ธุรกิจย่านประชาชื่น ผันตัวเข้าโลกออนไลน์ ความท้าทายครั้งใหม่คือการเล่าเรื่องเงินให้เข้าใจง่าย ใช้ได้จริง