บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักอย่างดีในงานก่อสร้าง ซ่อมแซม และตกแต่งอาคารที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะกาวซีเมนต์และยาแนว ตัวบริษัทมีอายุกว่า 32 ปี และประกาศชัดเจนว่ามีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 มากกว่า 50% จากตลาดรวมผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ที่ 4,500 ล้านบาท โดยมียอดขายมากกว่าคู่แข่ง 2 เท่า พร้อมประกาศกลยุทธ์ที่เน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมใหม่ ยึดหลักด้านความยั่งยืน Sustatinability และเตรียมแผนสำหรับรุกตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น
ขยายตลาดใหม่ รักษาตลาดเดิม ตั้งเป้ารายได้ 4,100 ล้านบาท
ศุภพงษ์ เพชรสุทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บอกว่า ความท้าทายสำคัญไม่ใช่แค่การรักษาส่วนแบ่งตลาดและเป็นอันดับ 1 ในตลาดที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่ต้องขยายธุรกิจไปในตลาดใหม่ ซึ่งถ้าย้อนดูผลประกอบการในปี 2566 ที่ผ่านมา จระเข้ มีการเติบโตสร้างรายได้ 3,700 ล้านบาท และในช่วงปีที่ผ่านมา จระเข้ได้จัดตั้งสำนักงานที่นครโฮจิมินห์ ภาคใต้ของเวียดนาม ภายใต้ชื่อ บริษัท จระเข้ เวียดนาม จำกัด เพื่อขยายตลาดอย่างเต็มรูปแบบ
ส่วนปี 2567 จระเข้ ตั้งเป้าเติบโต 10% โดยมีรายได้ 4,100 ล้านบาท โดยเน้นในกลุ่มสินค้าเคมีก่อสร้าง และกลุ่มผลิตภัณฑ์สีจระเข้ (SEE JORAKAY) ที่เป็นสีปลอดภัย สีจากธรรมชาติ รายแรกในไทย ตั้งเป้า การขายมากกว่า 800 ล้านบาท รวมถึงมุ่งขยายส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ทั้งภายในประเทศ และตลาดต่างประเทศ โดยตั้งเป้ารายได้จากตลาดวัสดุก่อสร้างในประเทศเวียดนามปีนี้ไว้ที่ 150 ล้านบาท พร้อมขยายตลาดใหม่ไปสู่ประเทศมาเลเซีย
“หลายปีที่ผ่านมาแนวโน้มการใช้กระเบื้องลดลง ทำให้กาวซีเมนต์และยาแนวก็มีแนวโน้มการใช้งานลดลงตามไปด้วย เป็นความท้าทายของจระเข้ ที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาขยายตลาด เช่น ผลิตภัณฑ์เคมีก่อสร้างและสีจระเข้ ที่เน้นสร้างความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์แบรนด์อื่นๆ ในตลาด พร้อมจบทุกเรื่องงานก่อสร้างครอบคลุมการใช้งานก่อสร้างครบวงจรตั้งแต่ฐานรากไปจนถึงหลังคา”
ผู้บริโภคยุคใหม่ ยอมจ่ายมากขึ้นเพื่อสิ่งที่ดีกว่า
จิรัฏฐ์ สิริเฉลิมพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ อาวุโส ของ จระเข้ คอร์ปอเรชั่น บอกว่า แนวโน้มที่น่าสนใจอย่างมากจากผู้บริโภคยุคใหม่คือยอมจ่ายในราคาที่สูงขึ้นเพื่อแลกกับสินค้าที่มีคุณภาพ มีนวัตกรรมและเทคโนโลยี เน้นเรื่องความปลอดภัย และไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่ง จระเข้ ได้เดินหน้าพัฒนาสินค้าวัสดุก่อสร้างมาในแนวทางนี้ตลอด 32 ปี
หนึ่งในสินค้านวัตกรรมที่มาเปิดตัวในปีนี้คือ จระเข้ โรด ฟิกซ์ เอ็กซ์เพรส นวัตกรรมมอร์ตาร์สำหรับซ่อมแซมพื้นผิวถนนคอนกรีตชนิดปรับบาง สามารถเปิดใช้งานพื้นที่หลังซ่อมได้ภายใน 6 ชั่วโมง ช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการทำงาน พร้อมทั้งสามารถฉาบแต่งผิวได้บางถึง 2-5 มิลลิเมตร และใช้งานในพื้นที่ลาดเอียงได้โดยไม่ไหลตัว และที่สำคัญจะสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 97% เมื่อเปรียบกับการซ่อมแซมถนนแบบเก่า
วรพจน์ ตั้งมนัสวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด จระเข้ คอร์ปอเรชั่น บอกว่า ปีนี้จระเข้ให้ความสำคัญกับงานสถาปนิก’67 โดยใช้คอนเซปต์ Jorakay Expert กับ 4 คลัสเตอร์สำคัญ ได้แก่
- คลัสเตอร์ 1: JORAKAY EXPERT ที่เล่าเรื่องราวความสำเร็จในวงการก่อสร้างมากกว่า 32 ปี
- คลัสเตอร์ 2 : FLOORING INNOVATION โชว์นวัตกรรมงานพื้นของจระเข้ที่ตอบโจทย์ทั้งพื้นคอนกรีต พื้นที่อยู่อาศัย พื้นถนนและพื้นอุตสาหกรรม ครอบคลุมทุกฟังก์ชัน ไฮไลต์ของโซนนี้คือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ จระเข้ โรด ฟิกซ์ เอ็กซ์เพรส ที่มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษเปิดใช้งานได้ภายใน 6 ชั่วโมง
- คลัสเตอร์ 3 : EXPERT SOLUTIONS, EXPERT RESULTS สินค้านวัตกรรมเพื่องานก่อสร้างระดับมืออาชีพ โดยจระเข้ ไม่ว่าจะเป็น
- กลุ่มนวัตกรรมการปูกระเบื้อง จระเข้รายเดียวที่มีผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ครอบคลุมงานปูกระเบื้องครบวงจร
- กลุ่มนวัตกรรมกาวยาแนว นำเสนอกาวยาแนวในรูปแบบใหม่ ที่มีสีสันสวยสะดุดตา มากกว่าการใช้ยาแนวในสีแบบเดิมๆ โดยไฮไลต์โซนนี้ จระเข้ได้คอลแลบกับศิลปินชื่อดัง Rukkit มาออกแบบผลงานโดยใช้สีของยาแนวมาผสานเป็นงานศิลปะ
- กลุ่มนวัตกรรมเคมีก่อสร้าง เช่น กันซึม ปกป้องปัญหาการรั่วซึมทุกจุดใช้งาน ตั้งแต่ชั้นฐานราก พื้นผนัง ห้องน้ำ ดาดฟ้า ตลอดจนหลังคา
- คลัสเตอร์ 4 : SEE JORAKAY สีปลอดภัย ที่นำเสนอสินค้าในทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็น กลุ่มสีธรรมชาติ สีทาอาคารรายแรกและรายเดียวในไทยที่ผสานวัสดุจากธรรมชาติอย่าง Limestone หรือหินปูนธรรมชาติ กับเทคโนโลยีกราฟีนที่มีความแข็งแกร่งและช่วยกระจายความร้อน และ สีกลุ่มสีปลอดภัย สีแมตต์ สบายตา อย่าง SEE Jorakay GrafClean Premium และ กลุ่มสีปลอดภัย สีเช็ดล้างได้ อย่าง SEE Jorakay Easy Clean เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังเดินหน้าทำตลาดในประเทศ โดยพัฒนาช่องทางจำหน่ายด้วยโมเดล จระเข้ช็อป (Jorakay Shop) ผ่านผู้แทนจำหน่ายเพื่อกระจายสินค้าให้ทั่วถึงและรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น มีหลักพันสาขา ครอบคลุมระดับอำเภอทั่วประเทศ พร้อมกับพัฒนาช่องทาง E-Commerce รวมถึงการดึงกลุ่มลูกค้าหลักที่เป็นกลุ่มผู้ใช้งานเข้ามาไว้ในแพลตฟอร์ม Loyalty Program ที่ชื่อ JORAKAY FAMILY เพื่อติดต่อสื่อสารกับลูกค้า รวมถึงการมอบสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
และเพื่อสร้างกลุ่มผู้ใช้งานที่มีความเชี่ยวชาญ จระเข้ ได้เปิดรับสมัครอบรมงานช่างกับ จระเข้ อะคาเดมี่ โดยปัจจุบันมีสมาชิกราว 12,000 คน ซึ่งจระเข้ตั้งเป้าขยายฐานสมาชิกให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังสื่อการกับผู้บริโภคผ่านช่องทางออนไลน์ทางโซเชียลมีเดีย เพื่อเข้าถึง End User และสอดรับกับชีวิตยุคใหม่ สำหรับปีนี้จะมีแคมเปญใหญ่จากจระเข้ ออกมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อสร้างการรับรู้ให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองกับผู้บริโภคที่ต้องการความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับงานช่างงานทักษะต่างๆ อีกด้วย
จระเข้ ถือเป็นแบรนด์ไทยแท้ ที่สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาแข่งขันกับคู่แข่งแบรนด์ดังจากต่างประเทศได้เป็นอย่างดี พร้อมกับเริ่มต้นรุกทำตลาดต่างประเทศ โดยเริ่มต้นจากกลุ่ม CLMV มีสำนักงานที่เวียดนามแล้ว และกำลังศึกษาประเทศอื่นๆ อย่างใกล้ชิด เป็นหนึ่งในแบรนด์ไทยที่น่าจับตามอง
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา