JMT หรือบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) ระบุ ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทมีมติอนุมัติในหลักการเข้าร่วมลงทุนกับบริษัทลูกของธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBank โดยจะมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน 2 บริษัทเพื่อประกอบธุรกิจร่วมกัน 2 ประเภท
ธุรกิจ 2 ประเภท คือ ธุรกิจให้บริการงานติดตามหนี้ (Debt Collection Business) และธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (Asset Management Business) ในสัดส่วนการถือหุ้น บริษัท JMT ถือหุ้นน้อยกว่า 50% บริษัทลูกของธนาคารกสิกรไทยถือหุ้นมากกว่า 50% การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนดังกล่าว อาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับแนวนโยบายการหารือและการได้รับอนุมัติขึ้นอยู่กับธนาคารแห่งประเทศไทยและหน่วยงานอื่น รวมทั้งการเจรจาทำสัญญาร่วมทุน คาดว่าจะจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทร่วมทุนทั้ง 2 บริษัทแล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกปี 2565
พัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย ระบุ JMT เป็นบริษัทในกลุ่มเจมาร์ท เป็นพันธมิตรที่ดีของธนาคาร มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการบริหารและติดตามหนี้มาอย่างยาวนาน ธุรกิจมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของธนาคารในการติดตามหนี้และการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ
การจัดตั้งความร่วมมือครั้งนี้เพื่อบริหารจัดการที่ดีแล้วยังมีเป้าหมายต้องการช่วยคืนกลับให้ลูกค้าที่มีเครดิตโปรไฟล์ที่ดีเพื่อสามารถขอสินเชื่อในระบบต่อไปในอนาคตได้ และยังช่วยแก้ปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพของสถาบันการเงินท่ามกลางความปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจด้วย เรื่องหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) แบงก์ชาติระบุไว้ในปี 65 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ภาพรวมหนี้เสียคงค้างที่ 5.4 แสนล้านบาท
ที่มา – JMT
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา