Jaguar Land Rover ลดจำนวนรุ่นรถยนต์-ปรับธุรกิจให้คล่องตัว รับยอดขายแย่ช่วง COVID-19

Jaguar Land Rover หรือ JLR เป็นผู้ผลิตรถยนต์อีกรายที่ประสบปัญหาในช่วง COVID-19 เพราะยอดขายลดลงอย่างหนัก และมันคือที่มาของการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ทั้งลดจำนวนรุ่นรถยนต์ และพักโครงการใหม่ๆ ไปก่อน

Jaguar XJ
Jaguar XJ โฉมปัจจุบัน

การทำตลาดที่ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

ก่อนหน้านี้ Jaguar Land Rover เคยประสบปัญหาทางธุรกิจแล้ว เพราะ 3-4 ปีที่ผ่านมา ทางบริษัทเน้นทำตลาด SUV ตามสมัยนิยม แต่ส่วนใหญ่ยังอิงกับเครื่องยนต์ดีเซลที่ปล่อยมลพิษค่อนข้างมาก และมันคงไม่ดีแน่หากยังทำแบบนี้อยู่ เพราะหลายประเทศในยุโรปเริ่มเข้มงวดเรื่องนี้มากขึ้น

แต่ปัญหานั้นยังไม่ทันแก้ไข การเข้ามาของโรค COVID-19 ก็ทำให้การจำหน่ายรถยนต์ของ JLR ยากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะกลุ่มรถ Sedan เช่น XE และ XF ที่ยอดขายตกลงอย่างหนักในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ดังนั้น JRL จึงตัดสินใจเดินหน้าแผนสำคัญ นั่นคือการปรับแผนธุรกิจครั้งใหญ่

สำหรับการปรับเปลี่ยนนี้ประกอบด้วยการลดจำนวนรุ่นรถยนต์เพื่อทำตลาด และการหยุดโครงการใหม่ๆ ไว้ชั่วคราว เพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กับบริษัท และหากสถานการณ์ COVID-19 ยังไม่ดีขึ้น บริษัทก็สามารถเดินหน้าแผนควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กำลังทำอยู่ในตอนนี้

“เราไม่มีการยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงโครงการใดๆ เพียงแต่ตัดสินใจหยุดโครงการต่างๆ เอาไว้ก่อน เพื่อรักษาสถานะการเงินของบริษัทให้อีก ส่วนการต้องทำให้ JLR มีขนาดเล็กลง และมีความคล่องตัวมากขึ้นอีกหรือไม่ อันนี้ต้องรอดูภาพรวมสถานการณ์ก่อน” PB Balaji ประธานเจ้าหน้าที่การเงินของ Tata Motors บริษัทแม่ของ JLR กล่าว

สรุป

การทำตลาดในช่วงนี้ของ Jaguar Land Rover ถือเป็นงานค่อนข้างหนัก เพราะไหนจะต้องเดินหน้าพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าล้วนเพื่อแก้จุดอ่อนเรื่องเครื่องดีเซล และต้องลุ้นว่า COVID-19 จะสิ้นสุดเมื่อไร ส่วนแฟนๆ ของรถยนต์ค่ายนี้ก็ต้องเอาใจช่วยกันหน่อยนะครับ

อ้างอิง // Carscoops

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา