สรุปแล้ว วิศวกรไอทีอินเดียตกงานทั้งปี 2017 กว่า 56,000 คน ส่วนปีนี้ยังท้าทาย ถ้าไม่ปรับตัว

หลังจากที่หลายบริษัทไอทีในอินเดียปลดพนักงานครั้งใหญ่ในปีที่ผ่านมา เพราะว่าทักษะไม่ถึงตามที่ตลาดต้องการ ส่วนปีนี้มีการคาดการณ์ว่า จะมีการจ้างงานสูง แต่สิ่งที่ต้องจับตามองคือ ถ้าทักษะยังเท่าเดิม แล้วใครจะรับเข้าทำงาน?

Photo: Shutterstock

ตกงานครึ่งแสน อัตราจ้างลดลง แนวโน้มยังไม่ดีขึ้น

ตลอดปี 2017 ที่ผ่านมา ตลาดไอทีอินเดียที่มีมูลค่ากว่า 1.6 แสนล้านดอลลาร์กำลังประสบปัญหาในแง่การจ้างงาน โดยเฉพาะคนท้องถิ่น หลายบริษัทหาทางออกด้วยการจ้าง Outsource เพราะวิศวกรไอทีอินเดียส่วนใหญ่มีทักษะอยู่ในระดับที่แข่งขันในตลาดปัจจุบันไม่ได้แล้ว

ในปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการปรับลดพนักงานของบริษัทไอทีในอินเดีย อย่างเช่น 2 รายใหญ่อย่าง Tata Consultancy Services (TCS) และ Infosys ที่ต่างก็เลิกจ้างไปกว่าครึ่งของบริษัท ยังไม่นับรวมบริษัทไอทีรายย่อยๆ อื่นอีกที่ได้เลิกจ้างและมีแผนจะปรับลดหลังจากนี้เพิ่มเติม ตามสถิติขณะนี้ตัวเลขรวมของปี 2017 ที่มีการเลิกจ้างงานคนไอทีอินเดียอยู่ที่ (อย่างน้อยที่สุด) 56,000 คน ส่วนในด้านการจ้างงานปี 2017 ของบริษัทไอทีอินเดียมีอัตราที่ต่ำลงไปกว่า 50 – 70%

มีการคาดการณ์ของบริษัทวิจัย HfS ไว้ว่า ในปี 2021 แรงงานทักษะต่ำในอุตสาหกรรมไอทีของอินเดียจำนวนกว่า 640,000 คนจะตกงาน และจะต่อเนื่องไปในปี 2022 ที่จะตกงานถึงหลัก 700,000 คน ที่น่าเป็นห่วงคือ หลังจากเลิกจ้างแล้ว งานส่วนที่เหลือ บริษัทไอทีสามารถทดแทนได้ด้วยระบบอัตโนมัติแทบทั้งหมด

นอกจากนั้น การที่คนไอทีอินเดียตกงานกันครั้งใหญ่นี้ได้ส่งผลกระทบหลายทาง ไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจ เพราะมีรายงานว่าคนไอทีอินเดียที่ตกงาน แห่ขอคำปรึกษาชีวิตภายใน 3 วัน กว่า 1,000 ครั้ง มีอาการตั้งแต่ซึมเศร้าไปจนถึงวิตกจริต มากกว่านั้น ผลกระทบยังมาจากนโยบาย America First ของสหรัฐอเมริกาที่นำโดยโดนัล ทรัมป์ ทั้งในเรื่องการขอวีซ่าไปทำงานที่ยากขึ้น ส่วนการจ้างงานแบบ Outsource มาทำงานในอินเดียของบริษัทไอทีก็มีต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งหมดนี้มาจากแนวคิดของทรัมป์ที่ลั่นไว้นั่นเองว่า คนอเมริกันต้องมาก่อน”

Photo: Shutterstock

ไม่ได้เลวร้ายไปเสียหมด ยังพอมีหวัง ถ้าปรับตัวทัน

ข่าวดีก็คือ ในปี 2018 อุตสาหกรรมไอทีอินเดียมีความต้องการจ้างงานถึง 180,000 – 200,000 อัตรา ส่วนหนึ่งมาจากการที่ปีก่อนหน้าที่หลายบริษัทได้ปลดพนักงานออกไปเป็นจำนวนมาก แต่ที่ต้องจับตาคือ แล้วบริษัทไอทีอินเดียจะจ้างใคร ในเมื่อเพิ่งปลดออกไปล็อตใหญ่ จะให้กลับไปจ้างคนเดิมก็ไม่ใช่คำตอบแน่ๆ แต่ถ้าเป็นคนเดิมที่มีทักษะใหม่ๆ เพิ่มเติมก็อาจมีหวัง

IBM ของอินเดียทำนายไว้ว่า ถ้างานสายไอทีจะถูกจ้างในปี 2018 ต้องมีทักษะเหล่านี้

  • AI : คนเก่งด้านนี้จะเป็นที่ต้องการสูงมากในวงการไอทีอินเดีย เพราะมีสตาร์ทหลายรายที่กำลังเติบโตอย่างเช่น แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Flipkart หรือ แอพเรียกรถ Ola ที่ต่างต้องการใช้ AI เข้ามาต่อยอดธุรกิจ รวมไปถึงถ้าเก่ง Machine Learning, Deep Learning และ Natural Language Processing ที่ทำให้ AI เข้าไปวิเคราะห์ภาษาของมนุษย์ได้เก่งขึ้น ถ้าทำได้ที่ว่ามานี้รับรองได้ว่าจะกลับมามีงานทำได้ไม่ยาก
  • ผู้เชี่ยวชาญด้าน Blockchain : การเติบโตอย่างก้าวกระโดด (หรือฟองสบู่?) ของ Bitcoin ทำให้โลกต้องมาพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง เบื้องหลังของสกุลเงินดิจิทัลคือ Blockchain ดังนั้นถ้าใครเข้ามาทำในส่วนนี้ได้ ไม่ว่าจะช่วยสร้างมาตรฐานให้ Regulator หรือสามารถนำเอาไปใช้ประโยชน์กับองค์กรได้ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งงานที่ตลาดกำลังมีความต้องการสูง
  • นักการตลาดดิจิทัล : วิศวกรไอทีอาจเปลี่ยนสายงานมาทำการตลาดดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาด อาชีพนี้นับวันจะยิ่งเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆ เพราะการทำการตลาดรูปแบบเดิมๆ จะไม่ตอบโจทย์ธุรกิจอีกต่อไปแล้ว
  • Data science : สายนี้ถือว่าไม่ได้หากันง่ายๆ แต่ถ้าใครทำได้ก็ไม่ตกงานแน่ๆ เพราะเป็นงานช้าง ยกตัวอย่างเช่น ต้องเก็บรวมรวบเอาข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคในระดับ Big Data แล้วนำมาปรับใช้กับการพัฒนาธุรกิจได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ

สรุป

แม้ว่าดูจากตัวเลขการตกงานของคนไอทีอินเดียจะสูงถึงหลักครึ่งแสนในปี 2017 แต่ในปีนี้อุตสาหกรรมนี้ยังไปต่อ และจะเกิดการจ้างงานจำนวนมากหลักแสนอัตรา แต่ปัญหาคือ ถ้าคนไอทีอินเดียยังไม่ปรับตัวเพื่อเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่จะแข่งขันในตลาดได้ โอกาสในการกลับมาอยู่ในวงการอีกครั้งคงไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งในท้ายที่สุดจะส่งผลเสียกลับไปยังบริษัทไอทีทั้งหลาย และรวมถึงสังคมอินเดียโดยรวมด้วย

ดังนั้น ถ้ายังอยากให้อุตสาหกรรมไอทีอินเดียอยู่รอด การปรับเปลี่ยนอย่างแรกคือ หลักสูตรด้านไอทีของอินเดียที่ล้าสมัยต้องได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยกับการแข่งขันของโลกโดยด่วน เช่น Machine Learning, Data Scientists และ Data Analytics จะต้องเป็นทักษะที่คนไอทีอินเดียได้เรียนรู้ ศึกษา และทำได้

Kris Lakshmikanth ผู้ก่อตั้ง HeadHunters ในอินเดีย บอกว่า “ถ้าเป็น data scientist ที่จบมาใหม่ มีประสบการณ์ไม่กี่ปี ก็ถือว่ามีอนาคตที่สดใสกว่าวิศวกรไอทีที่ทำงานเขียน Java Script มาหลายปีเสียอีก”

อ้างอิง – QUARTZQUARTZ 1Livemint

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา